บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1726 ช่วยภรรยา
บนยอดเขาล่างต้าง หัวหน้าคนงานแซ่หวูคนนั้น กำลังดื่มเหล้ากับพวกพ้อง สมคบกันวางแผนสำหรับอนาคต
หัวหน้าคนงานหวูเป็นคนที่มีนิสัยโหดร้ายอำมหิต ช่วงที่เขาเป็นโจรได้ไม่นาน ราชสำนักเริ่มลงมือแก้ไขปัญหาโจรป่าปล้นชิง เขาสามารถหนีรอดไปได้ สุดท้ายตั้งชื่อเสียงเรียงนามใหม่ รอดพ้นหูตาของกรมปกครองไปได้ แต่นิสัยโหดร้ายอำมหิตนี้ไม่เคยเปลี่ยน อันที่จริงในช่วงหลายปีมานี้ เขาทำเรื่องชั่วช้าสามานย์ไปไม่น้อย แต่เพราะเรื่องไม่ใหญ่โตขึ้นมา จึงไม่สะเทือนไปถึงหน่วยงานราชการ
ครั้งนี้ถึงกับลักพาตัวเจ้าหญิงไปตรง ๆ เห็นได้ว่าเขาไม่เต็มใจที่จะใช้ชีวิตแบบใช้แรงแลกเงินอีกต่อไปแล้ว แต่หวังอยากได้โชคลาภก้อนใหญ่ในครั้งเดียว
“พี่หวู หลังจากได้เงินค่าไถ่แล้ว คิดจะปล่อยนางไปจริง ๆ น่ะรึ? ” หลังจากดื่มเหล้าหมดไปสามรอบ ลูกน้องคนหนึ่งก็ถามขึ้น
หัวหน้าหวูชำเลืองมองดูเจ้าหญิงที่ถูกมัดอยู่ที่มุมห้องอย่างเย็นชา พูดอย่างชั่วร้ายว่า “เอาไปด้วยก่อน ให้แน่ใจว่าไม่โดนเปิดประกาศจับ หลังออกพ้นจากเมืองหลวงไป ค่อยฆ่าทิ้ง !”
เจ้าหญิงถูกมัดจนแน่น ปากก็ถูกอุดไว้ แต่นางไม่ตื่นตระหนก ไม่ดิ้นรน ไม่เอะอะโวยวาย นางทำเพียงรอเงียบ ๆ อยู่อย่างนี้ เพราะนางรู้ดีว่าท่านชายสี่จะต้องมาช่วยนางอย่างแน่นอน
ในใจนางไม่เคยมีความสงสัยเลยแม้แต่น้อย
นางพยายามทำให้ตัวเองดูอ่อนแอ เพราะนางพอจะรู้วรยุทธ์บ้างเล็กน้อย หากคนร้ายคิดจะทำร้ายนางตอนนี้ นางที่แสร้งทำเป็นอ่อนแอ จะสามารถฉวยโอกาสจู่โจมกลับตอนที่คนร้ายไม่ทันระวังตัวได้ นั่นย่อมมีโอกาสหลุดพ้นไปจากที่นี่
แต่ในตอนนี้ เมื่อศัตรูไม่เคลื่อนไหว นางก็จะไม่เคลื่อนไหว
หัวหน้าคนงานหวูยืนขึ้นคารวะเหล้าแก่ทุกคน พูดเสียงดังว่า “พี่น้องทั้งหลาย หลังจากเมาให้สาแก่ใจในวันนี้ วันพรุ่งนี้ข้าต้องขอรบกวนทุกคนออกไปเฝ้าระวังที่ด้านนอกด้วย เหลิ่งซี่ผู้นี้เป็นคนที่มีหูตาอยู่ทั่วทุกที่ คาดว่าไม่เกินสองวันเขาคงจะหาที่นี่เจอแน่ ดังนั้นเราต้องวางกับดัก วางกลไกอะไรก็ตาม เพื่อไม่ให้คนของเขาขึ้นมาได้ ทำได้แค่ต้องยอมจ่ายค่าไถ่มาโดยดี พวกเรากำลังจะมีโชคลาภก้อนใหญ่กันแล้วสหาย ”
โจรแห่งป่าเขียวทั้งหมดยืนขึ้น ตะโกนโห่ร้อง “ขอบคุณท่านหวูที่นำพาพวกเราให้มาร่ำรวยกันถ้วนหน้า มา! ดื่ม!”
เหล้าไหแล้วไหเล่าถูกส่งเข้ามา จากนั้นก็เทใส่ปากของพวกโจรไปเรื่อย ๆ ยิ่งเหล้าส่งเข้ามามากเท่าไหร่ ความเมามายก็ยิ่งหนักขึ้นเท่านั้น บ้านร้างบนเขาทั้งหลังล้วนอบอวลไปด้วยกลิ่นเหล้า
เจ้าหญิงฉวยโอกาสตอนที่พวกโจรไม่สนใจ แอบขยับมือที่ถูกมัดไว้ข้างหลัง ข้อมือของนางเรียวเล็ก อ่อนนุ่มราวกับไม่มีกระดูก นางลองขยับมือไปมาราว ๆ ครึ่งชั่วยาม สุดท้ายมือก็หลุดออกได้จริง ๆ
แม้ว่าที่มือจะหลุดแล้ว แต่ที่เท้าทั้งสองข้างกลับยังถูกมัดจนแน่น การจะปลดเชือกที่เท้านั้นไม่ง่ายแล้ว เพราะต้องถูกพบเข้าอย่างแน่นอน
นางไม่กล้าเสี่ยง เพราะไม่แน่ว่าทันทีที่พวกนั้นเห็นเข้า ต่อให้ไม่ถูกฆ่าตาย ก็อาจถูกทุบตีทำร้ายได้
ดังนั้น นางจึงฉวยโอกาสตอนที่พวกนั้นไม่สนใจ ลอบดึงปิ่นปักผมลงมาซ่อนไว้ในฝ่ามือ แล้วเอามือทั้งสองข้างกลับไปไพล่ไว้ด้านหลังตามเดิม
สิ่งที่นางกังวลมากที่สุดไม่ใช่เรื่องที่อาจถูกฆ่า แต่เป็นเรื่องที่เมื่อไหร่ก็ตามที่คนพรรคนี้เมา มักจะกลายเป็นสัตว์ร้าย
นางขอยอมตายดีกว่าจะยอมให้ใครอื่นมาทำให้นางมีมลทิน และอย่างน้อยปิ่นปักผมนี้ ก็พอจะทำให้นางรักษาความบริสุทธิ์ไว้ได้ก่อนที่นางจะตาย
ความกังวลใจของนาง สุดท้ายก็มาจนได้
หัวหน้าคนงานหวูนั่นเมามากจนเริ่มคุมสติไม่อยู่ หันมามองดูนางแวบหนึ่ง เห็นว่าผิวของนางทั้งขาวละเอียดงดงาม ใบหน้ากลมเกลี้ยงผุดผ่อง จึงบังเกิดจิตชั่วร้าย โยนจอกเหล้าทิ้ง แล้วเดินโซเซตุปัดตุเป๋เข้าไปหานาง
หัวใจของเจ้าหญิงหนักอึ้งจมดิ่ง กระชับปิ่นปักผมในมือแล้วจ้องไปที่หัวหน้าคนงานหวู “เจ้าคิดจะทำอะไร?”
หัวหน้าคนงานหวูแค่นยิ้มเจ้าเล่ห์ “ในชีวิตของข้าจะผู้หญิงแบบไหน ข้าล้วนเคยนอนด้วยมาหมด แต่ยังไม่เคยนอนกับเจ้าหญิงเลย ถึงอย่างไรเจ้าก็ต้องตายอยู่แล้ว ไม่สู้ให้ข้าได้เล่นสนุกสักหน่อยเถอะน่า”
เขาดึงเข็มขัด ถอดเสื้อผ้า เผยให้เห็นร่างเปลือย จากนั้นก็พุ่งเข้าไปหาเจ้าหญิงทันที
เจ้าหญิงหวีดร้องด้วยความหวาดกลัว พลิกมือกลับไปคว้าปิ่นปักผมแทงเข้าไปในดวงตาของหัวหน้าคนงานหวูทันที
เลือดกระเซ็นออกมาเป็นสาย กระเซ็นเปรอะไปบนใบหน้าของเจ้าหญิง เลือดข้นหนืดสีแดงเข้มทำให้นางคลื่นไส้จนเกือบจะอาเจียน นางมองดูหัวหน้าคนงานหวูที่เอามือกุมที่ดวงตาข้างหนึ่ง ส่งเสียงร้องคำรามราวสัตว์ป่าที่ได้รับบาดเจ็บ ถดกายไปข้างหลังอย่างสยดสยอง
มือใหญ่อันโหดเหี้ยมยกขึ้น ทำท่าเหมือนจะโบกไปยังใบหน้าของนาง
ตะขอด้ามหนึ่งพุ่งทะลุอากาศเข้ามาอย่างรวดเร็ว มือที่ยกขึ้นของเขาถูกคมของมันตัดเข้าอย่างพอดิบพอดี ฝ่ามือร่วงลงไปกับพื้น เลือดสด ๆ ไหลทะลักออกมาดั่งน้ำพุ