บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1738 ฮ่องเต้ก็จะเสด็จมาด้วย
หลังจากกินยาลงไป ไข้ของเจ้าเมืองโจว ก็ลดลง
หลังจากที่ไข้ลดลง สมองก็แจ่มชัดขึ้น ทั้งร่างก็สดชื่นตื่นตัวขึ้นมากทีเดียว เขาพยายามจะลุกขึ้นมาถวายบังคมฮองเฮา
หลังจากหยวนชิงหลิงดุให้เขานอนลงดี ๆ ก็คุยกับเขาเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาด สั่งให้เขาให้ความสำคัญให้มาก
เจ้าเมืองโจว ได้ยินดังนั้นก็ตกใจมาก “สถานการณ์โรคระบาดนี้ กระหม่อมได้ส่งคนไปถามที่สำนักการแพทย์ทุกวัน ให้เจ้าหน้าที่ของสำนักการแพทย์รายงานอย่างสม่ำเสมอ ที่ผ่านมาสถานการณ์ที่พวกเขารายงานในแต่ละวันค่อนข้างปกติ ถึงแม้จะเกิดสภาวะโรคระบาด แต่ก็ไม่ได้รุนแรงไปกว่าปีก่อน ๆ บรรดายาเวชภัณฑ์ก็มีครบเพียงพอ เหตุใดจู่ ๆ ถึงได้รุนแรงขึ้นมาเสียแล้ว?”
“ก็เพราะว่ามันเกิดขึ้นทุกปี ทั้งยังไม่ได้แพร่กระจายเป็นวงกว้าง ดังนั้น จึงไม่ได้รับความสนใจอย่างทันท่วงทีอย่างไรล่ะ” หยวนชิงหลิงพูด
“กระหม่อมจะเรียกใต้เท้าหลี่จากสำนักการแพทย์ เพื่อมาสอบถามสถานการณ์โดยละเอียดเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ” เจ้าเมืองโจว หยัดกายลุกขึ้นยืน
“เมื่อวานข้าไปพบเขามาแล้ว สั่งให้เขานับจำนวนผู้ป่วยและผู้ตายให้แน่ชัด แต่เขายังไม่รู้ว่าจะหาพวกเราเจอได้ที่ไหน อย่างไรเจ้าก็ส่งคนไปแจ้งสักหน่อย ให้พวกเขามารายงานสถานการณ์โดยตรงที่จวนปกครองเลยแล้วกัน”
“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมน้อมรับพระบัญชา!”
เจ้าเมืองโจว รีบส่งคนออกไปทันที
ชายชุดน้ำเงินเป็นผู้ดูแลเรือนหลังจวนปกครอง ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยาม เขาก็สามารถนับจำนวนผู้ป่วยในจวนปกครองได้ครบหมดแล้ว
มีคนในจวนปกครองที่แสดงอาการว่าติดโรคระบาดสิบแปดคน โดยสองคนในนั้นมีอาการป่วยหนัก ตอนนี้นอนพักอยู่ที่บ้าน
เจ้าเมืองโจว ไม่รู้เลยว่าในจวนปกครองจะมีคนติดโรคมากขนาดนี้ ทันทีที่ได้ยินผู้ดูแลมารายงาน เขาก็ตกใจจนผงะ
ใต้เท้าหลี่แห่งสำนักการแพทย์ได้วิ่งวนจนหัวหมุนเป็นเวลาหนึ่งวันกับหนึ่งคืนเต็ม ๆ ไม่กล้าหยุดพัก นายใหญ่ของสำนักงานแพทย์ถึงกับมาด้วยตนเอง จะอย่างไรเขาก็ต้องมีคำอธิบายให้
อีกทั้งเขาเชื่อมั่นมาตลอดว่า โรคระบาดไม่ได้ร้ายแรงไปกว่าปีก่อนๆ
แต่เมื่อเขาพาคนจากสำนักแพทย์ลงไปสำรวจตามอำเภอ กับตามโรงหมอต่าง ๆ เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์แพร่ระบาด เขากลับพบว่าไข้หวัดใหญ่ครั้งนี้รุนแรงกว่าที่เขาคิดไว้มาก
จากเริ่มแรกแค่ตั้งใจจะหาคำอธิบายดี ๆ มาให้ใต้เท้าผู้ดูแลสำนักงานแพทย์ฟัง ภายหลังเมื่อพบว่าสถานการณ์ของโรคหนักหนามาก เขาก็เริ่มร้อนใจขึ้นมาแล้ว
แต่การจะนับจำนวนคนให้ชัดเจนภายในช่วงเวลาสั้นๆ แค่นี้ มันคงจะเป็นไปไม่ได้แน่ เขาทำได้เพียงทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์โดยรวมเท่านั้น
เมื่อเขากลับไปที่สำนักการแพทย์ ก็พบว่ามีคนจากจวนปกครองกำลังรอเขาอยู่ บอกว่าท่านใต้เท้า
ผู้ดูแลเมืองอยากให้เขาไปพบ เพื่อรายงานสถานการณ์โรคในทันที
ใต้เท้าหลี่คิดว่าเขาสมควรจะแจ้งข่าวให้ใต้เท้าผู้ดูแลเมืองรู้ด้วยว่า ท่านใต้เท้าผู้ดูแลสำนักงานแพทย์ได้มาถึงเมืองหวูกุ้ยแล้ว จึงรีบขี่ม้าไปที่จวนปกครองทันที
เมื่อมาถึงเรือนหลังจวนปกครอง กลับคิดไม่ถึงว่าท่านใต้เท้าผู้ดูแลสำนักงานแพทย์จะอยู่ที่นี่แล้ว รวมทั้งหลานสาวของท่านใต้เท้าสำนักงานแพทย์ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ในเรือน ในขณะที่ใต้เท้าผู้ดูแลเมืองนั่งตะแคงตัวอยู่ข้างๆ ในตำแหน่งที่นั่งของแขก
เขารู้สึกตกใจเล็กน้อย รีบเข้าไปน้อมคารวะย่าหยวนก่อน จากนั้นจึงก้าวไปข้างหน้าแล้วค้อมกายคำนับท่านใต้เท้าผู้ดูแลเมือง
หยวนชิงหลิงกล่าวว่า “ไม่ต้องมากพิธี เจ้ารีบบอกสถานการณ์มาเถอะ!”
ใต้เท้าหลี่ไม่สนใจนาง แค่หันไปรายงานต่อเจ้าเมืองโจว ว่า “ภายใต้คำสั่งของท่านใต้เท้าผู้ดูแลสำนักงานแพทย์ใหญ่ นับตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ ข้าน้อยได้เดินทางไปทั่วทุกอำเภอ รวมถึงโรงหมอตามจุดสำคัญทุกแห่ง พบว่าโรคระบาดของปีนี้….”
เจ้าเมืองโจว เห็นว่าท่าทางของเขาไม่ถูกต้อง รีบเงยหน้าขึ้นทันที แล้วพูดขัดจังหวะเขา “เป็นฮองเฮาที่ทรงตรัสถามเจ้า เจ้าสมควรรายงานต่อฮองเฮา!”
ใต้เท้าหลี่ตกใจจนผงะ “ฮองเฮา?”
เขาเหลือบมองหยวนชิงหลิงโดยไม่รู้ตัว ในหัวคล้ายมีเสียงระเบิดอื้ออึง ใบหน้าขาวโพลนจนแทบมองทะลุได้แล้ว
ภายใต้อาการตกใจจนอกสั่นขวัญหาย เขาคุกเข่าลง ริมฝีปากสั่นเทา “กระหม่อม กระหม่อมไม่รู้ว่าท่านคือฮองเฮาที่ทรงเสด็จมาด้วยองค์เอง กระหม่อมล่วงเกินฮองเฮาแล้ว ขอทรงยกโทษให้กระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”
หยวนชิงหลิงกล่าวว่า “ลุกขึ้นมาพูดให้ชัด ตอนนี้สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้างแล้ว? นำสิ่งที่เจ้าไปตรวจสอบมาบอกข้าให้หมด”
ใต้เท้าหลี่พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ทูลฮองเฮา จากการตรวจสอบของกระหม่อม การระบาดครั้งนี้รุนแรงกว่าปีก่อนๆ มากจริงๆ มีคนตายจากอาการป่วยในทุกอำเภอ หนึ่งในนั้นคือที่ตำบลหวยตง มีจำนวนผู้ตายมากที่สุด เวลานี้มีถึงสิบสองคนแล้วที่ตายด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ สำหรับจำนวนผู้ป่วย พระอาญามิพ้นเกล้า ยังไม่สามารถนับออกมาได้ชัดเจนพ่ะย่ะค่ะ”
ขณะที่เขาพูดไปพลาง ก็เช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากไปพลาง ยังนับจำนวนคนออกมาไม่ได้ ฮองเฮา
จะต้องทรงกริ้วมากแน่ ๆ
แต่กลับคิดไม่ถึงว่า หลังจากที่หยวนชิงหลิงได้ยินดังนั้น ก็กล่าวว่า “ถ้ายังนับจำนวนผู้ป่วยออกมาไม่ได้ ก็ให้นับต่อไป ให้ความสำคัญให้มากก็พอ ฝ่าบาทกับโสวฝู่เหลิ่งคงจะมาถึงเมืองหวูกุ้ยราว ๆ วันนี้ พวกเจ้าจะต้องเร่งนับจำนวนคนป่วย และจัดทำแผนการต่อต้านโรคระบาดโดยเร็ว “