บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1751 จักจั่นที่ถูกหลอกในตอนนั้น
- Home
- บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์
- บทที่ 1751 จักจั่นที่ถูกหลอกในตอนนั้น
การปฏิวัติใหม่นั้นยากที่สุด โดยเฉพาะแคว้นที่ถูกทำลายจนกลายเป็นปุยนุ่นเหลวแล้ว ฝ่ายอนุรักษนิยมไม่ยอมเหน็ดเหนื่อย คิดว่าเป่ยถังไม่อาจทำอะไรได้อีก
เวลานี้เอง ชีวิตของซูกั๋วกงใกล้จะถึงปลายทางจึงใช้ซูฟู่ ให้เขาดำรงตำแหน่งรองอัครมหาเสนาบดี หลังจากซูฟู่เข้ารับตำแหน่ง ก็ใช้นานาวิธีบุกทลายฝ่ายอนุรักษนิยม
วิธีการเหล่านี้รวมไปถึงแต่ก็ไม่จำกัดเพียงการกรรโชก ด่าทอ หาเรื่อง วอแว ขัดเขี้ยว กระทั่งสุดท้ายยังม้วนเสื่อไปอยู่หน้าบ้าน นอนปากประตูบ้านในตอนกลางคืน กลางวันก็ด่าทออยู่ที่ปากประตู ว่าอีกฝ่ายขัดความเจริญเป่ยถัง
สองปีแรกที่เพิ่งขึ้นครองราชย์ ก็อดทนผ่านไปแบบอกสั่นขวัญแขวนอย่างนี้
เริ่มเป็นผล
สองปีให้หลัง พี่เหว่ยกับพี่สะใภ้ก็กลับมาจากต้าโจว เขาสามารถเชิดหน้าชูตาได้หน่อยหนึ่งแล้ว มอบใบคะแนนที่อีกนิดเดียวก็จะผ่าน แต่หนทางยังอีกยาวไกล ช่วงลำบากยังไม่ผ่านไปเร็วเช่นนั้น เพราะความข้นแค้นก่อเกิดความโกลาหลไปทุกหย่อมหญ้า ยังมิอาจสงบ
พี่เหว่ยกับพี่สะใภ้กลับมา ก็เพื่อจะจัดงานแต่งงานของเขา
เขาจะแต่งตั้งฮองเฮาแล้ว
ผู้ที่จะเป็นฮองเฮาเลือกไว้นานแล้ว เป็นบุตรีของซูฟู่ ซูเสี่ยวเม่ยที่เคยพักอยู่ที่จวนอ๋องซู่
ที่จริงเขาก็ลืมแล้วว่าตอนแรกซูเสี่ยวเม่ยมีชื่อว่าอะไร เพราะภายหลังซูฟู่ดำรงตำแหน่งรองอัครมหาเสนาบดีแล้ว ก็เปลี่ยนชื่อให้บุตรีว่าซูเฟิ่ง
ความปรารถนาของซูฟู่นั้นมักซื่อตรงและหยาบกระด้างเสมอ ซูเฟิ่ง หงส์ที่มาจากตระกูลซู
ซูเสี่ยวเม่ยต่างกับบิดานางอย่างสิ้นเชิง นิสัยซื่อตรง ที่จริงในเวลานั้นเขายังถือว่ากำลังร้อนรุ่มวุ่นวายใจ ไม่มีเวลาสนใจกับเรื่องชายหญิง ความรู้สึกความรักหรือจะสำคัญเท่าบ้านเมือง
แต่…เขาก็รู้ว่าในฐานะที่เป็นฮ่องเต้ การแต่งตั้งฮองเฮาให้กำเนิดโอรสธิดามีผลต่อความมั่นคงของเป่ยถัง
หากบอกว่าเขาเคยมีความคิดเรื่องชายหญิงสักกึ่งก้อย เช่นนั้นก็คือคุณหนูสามซูลั่วเฉี่ยนของตระกูลซู
เพียงแต่ติดที่ชื่อนี้เท่านั้น ภายหลังเขาถึงรู้ว่าหญิงที่เรียกตัวเองว่าซูลั่วเฉี่ยน ที่แท้แล้วก็คือพี่สะใภ้โล่หมัน
ตอนนั้นเขายังเป็นคุณชายหกแห่งจวนอ๋องซู่ ไปวิทยาลัยเป็นเพื่อนพี่รองหยู่เหวินหานทุกวัน ถูกเล่นงานในวิทยาลัย ครั้งหนึ่งหลังจากหนีออกไปแล้วก็พบกับรถม้าคันหนึ่งช่วยเขาไว้
คนที่ช่วยเขาเรียกตัวเองว่าคุณหนูสามตระกูลซูซูลั่วเฉี่ยน เนื่องจากเวลานั้นถูกรังแกอย่างหนัก ที่จริงเขาจึงไม่เห็นโฉมหน้าของคนผู้นั้นชัดเท่าไร
เพียงแต่จดจำความอบอุ่นนั้นได้เสมอ
งานแต่งงานไม่ได้จัดใหญ่โต เพราะตอนนั้นกำลังรณรงค์ให้มัธยัสถ์ ในฐานะที่เป็นฮ่องเต้ยิ่งต้องทำตัวเป็นแบบอย่าง
ในคืนวันแต่งงานเกิดเรื่องเล็กน้อย เขาสะสางงานติดต่อกันห้าวันถึงมีเวลาไปเยี่ยมฮองเฮาสักแวบ
เดิมคิดว่านางจะโกรธ ไหนเลยจะรู้ว่านางกลับเข้าใจเป็นอย่างดี บอกว่าตอนนี้เขาควรเห็นบ้านเมืองเป็นสำคัญ
เขาตื้นตันใจมาก ถามไถ่สามสองคำแล้วก็ทิ้งนางไว้ แล้วยุ่งกับราชกิจต่อ
เพราะพี่เหว่ยกลับมา นำโอกาสทางการค้าจำนวนหนึ่งมาจากต้าโจวมาด้วย บัดนี้เขาเฝ้าหวังแต่เป่ยถังจะมีทางออกเพิ่มอีกทาง ลืมเรื่องตนแต่งงานไปเสียสนิท
เป็นเมื่อไรที่เขานึกขึ้นได้ว่าทอดทิ้งฮองเฮาน่ะหรือ? หรืออาจพูดว่าเป็นเมื่อไรที่เขานึกขึ้นได้จริงๆ ว่าตนแต่งงานแล้ว?
นั่นก็คือหลังจากที่จักจั่นเกิดเรื่อง
จักจั่นเดิมชื่อว่าชิวฉาน เป็นหัวหน้าตักอาหารของหอจัยซิง ในชามใบโตของผู้ชายหอจัยซิงจะมีเนื้อกี่ชิ้น ล้วนขึ้นอยู่กับทัพพีในมือนางทั้งนั้น
ดังนั้นนางจึงมีฐานะสูงในหอจัยซิง บางครั้งทุกคนอาจล่วงเกินพี่เหว่ยได้ แต่จะไม่ยอมล่วงเกินนางแน่
ก็บุคคลที่มีฐานะไร้เทียมทานในหอจัยซิงเช่นนี้ กลับถูกชายผู้หนึ่งหลอก หลอกความรู้สึกแล้วยังหลอกเงินทองด้วย
ตอนที่ถูกหลอก นางไม่พูดอะไรทั้งนั้น เอาแต่ร้องไห้อุดอู้อยู่ในจวนสองวัน แม้แต่อาหารก็ไม่สนใจแล้ว ทำเอาทุกคนร้อนใจกันยกใหญ่
เหล่าท่านน้าถามนางว่าเกิดอะไรขึ้น นางเอ่ยเพียงว่า “สหายข้าคนหนึ่งตายแล้ว ตายอย่างอเนจอนาถมาก มือเท้าถูกตัด เนื้อตัวเน่าเฟะ เหม็นโฉ่ ขึ้นอืด ตัวเรือดกับแมลงวันก็มากัดกินศพของเขา”