บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1756 ความรักต้องรักษาความสด
หงเย่มองเขาแล้วชะงักงัน “ท่านจะช่วยเป็นพ่อสื่อให้ข้า?”
“ไม่ได้หรือ?”
“ช่างเถอะ! เรื่องใหญ่ในชีวิตท่านก็ยังไม่เรียบร้อย ยังจะเป็นพ่อสื่อให้ข้าอีกแน่ะ ข้าไม่เชื่อท่านหรอก”
เหลิ่งจิ้งเหยียนยักไหล่ “ไม่เชื่อก็ช่างเถอะ ข้ารู้จัก”หญิงมีชื่อและจอมยุทธ์หญิงไม่น้อยเชียวนะ”
หงเย่พลันบีบคอเขา ตะคอก “ท่านรู้จักผู้หญิงไยไม่บอกแต่ทีแรก? แนะนำเดี๋ยวนะ กลับเมืองหลวงก็แนะนำทันที!”
เหลิ่งจิ้งเหยียนหัวเราะขึ้นมา จับมือของเขาแล้วดันออกข้าง “ข้าเป็นพ่อสื่อแพงมากนะ ไม่มีแสนตำลึง ข้าไม่เป็นง่ายๆ หรอก”
“เงินจะเท่าไรกัน?” หงเย่หัวเราะร้าย “เราอยู่ด้วยกัน เงินของท่านเก็บซ่อนอยู่ที่ไหน ข้ารู้หมด กลับไปจะเอาให้ท่าน ปกติก็เอาไปไม่น้อย”
เหลิ่งจิ้งเหยียนตกตะลึง “ท่านจ้องเงินข้ามาตลอดเชียวหรือ? นี่ข้าชักศึกเข้าบ้านจริงๆ นั่นเป็นเงินโลงศพ เงินยามแก่ ท่านจะเอามาแต่งงานไม่ได้นะ”
“หมิงหยู่ย่อมดูแลเรายามแก่ เจ้าอย่าขี้เหนียวไปหน่อยเลย” หงเย่ทำหยิ่ง “อีกอย่าง ตัวข้าเองก็มั่งมี แต่ใช้เงินของคนอื่นมันสะใจ”
เหลิ่งจิ้งเหยียนสูดลมเย็น “ไม่ได้ กลับเมืองหลวงแล้วก็ตะเพิดท่านไปเสีย”
หงเย่เอ่ย “ตะเพิดไปได้แล้วค่อยว่าก่อน ทีแรกเป็นท่านที่เชื้อเชิญข้ามาอยู่ บอกว่าจะอยู่นานเท่าไรก็ได้ ตอนนี้ท่านจะกลับคำแล้วหรือ?”
“เอะ หงเย่ ไยข้ารู้สึกว่าหน้าท่านหนาขึ้นมากนะ?”
“หากหน้าไม่หนาสักหน่อย จะกินนอนอยู่บ้านท่านเปล่าๆ มานานขนาดนี้ได้อย่างไร?” หงเย่หัวเราะชอบใจ ยื่นมือเกาะบ่าเขา “โสวฝู่หนอโสวฝู่ ที่ว่าเชิญเซียนนั้นง่ายส่งกลับยาก ในเมื่อข้าเข้าบ้านมาแล้วจะส่งกลับก็ยากล่ะนะ ตอนนี้ท่านนึกเสียใจก็ไม่มีประโยชน์ ข้าคิดจะเกาะท่านไปถึงวันตาย จากนั้นแม้แต่โลงศพชุดศพก็ใช้เงินท่าน ข้าตายแล้วท่านยังต้องทำเหล้าศพให้ข้าอีก”
โสวฝู่มองเขา ครู่หนึ่งแล้วถึงเค้นคำพูดออกมาจากร่องฟัน “ไร้ยางอายที่สุด!”
หงเย่หัวเราะยกใหญ่!
ในศาลาสุดทางเดินระเบียงไกลๆ หยู่เหวินเห้ากับหยวนชิงหลิงเท้าที่กั้นมองพวกเขาอยู่
“ดึกขนาดนี้ยังไม่นอน พูดเรื่องก่อนตายหลังตายอะไร น่ากลัวจริงๆ” หยู่เหวินเห้าเอ่ย
“โรแมนติกล่ะมัง? โรแมนติกมักจะเกี่ยวกับความเป็น ความตายพวกนี้เสมอ” หยวนชิงหลิงยักไหล่
“หลงระเริงเสียมากกว่ากระมัง?” หยู่เหวินเห้าไม่คิดว่า ‘โรแมนติก’ คำนี้จะเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขาได้’
ก็มิใช่ชายสูงวัยเห็นแก่ตัวสองคนที่ไม่อยากแต่งงาน ไม่อยากมีครอบครัวเป็นภาระมิใช่หรือ?
“พวกเขากลับไปแล้ว เราก็กลับไปนอนเถอะ!” หยู่เหวินเห้าเอ่ย
“นั่งอีกสักเดี๋ยวเถอะ ความสงบยามราตรีของหนานเจียงทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆ” หยวนชิงหลิงเกยบ่าเขาแหงนมองท้องฟ้าดวงดาว คุณภาพอากาศดีมาก มองเห็นดวงดาวเต็มท้องฟ้า ค่ำคืนเช่นนี้เยียวยาได้อีกจริงๆ
เจ้าห้ามองรอบๆ ที่จุดไกลๆ มีองครักษ์ลาดตระเวนอยู่ แต่อยู่ไกลมาก
เมื่อนั้นมือเขาก็เริ่มซุกซน ออกมาหลายวัน ข้างกายมักมีคนติดตามเป็นกอง แม้จะเข้าที่พัก พวกเขาก็อยู่ห้องข้างๆ เกะกะเสียจริง
“เจ้าห้า” นางจับข้อมือของหยู่เหวินเห้า สีหน้าจนใจ ค่ำคืนงดงามเช่นนี้ สมองเจ้าจะสะอาดหน่อยมิได้หรือ?
“สะอาดมาก ข้าอาบน้ำแล้ว!” หยู่เหวินเห้ากอดนางเสียเลย “ดึกมากแล้วยังไม่นอน ไม่ดีกับสุขภาพนะ กลับห้องเถอะ!”
หยวนชิงหลิงคล้องคอของเขา กลับห้องด้วยการอุ้มอย่างเจ้าหญิง
เหมือนว่าไม่ถูกเขาอุ้มเช่นนี้มานานมากแล้ว
กาลเวลาถูกดึงกลับไปในอดีตอันนานนมในชั่วพริบตา ดูท่า…ในความสงบสันติก็มีเรื่องราชสำนักที่ยุ่งเหยิงและความวุ่นวายสารพัดในชีวิตเช่นกัน
ระหว่างพวกเขาจำเป็นต้องกระตุ้นความเร่าร้อนสักหน่อย มิเช่นนั้นความรักก็จะกลายเป็นสายใยครอบครัวได้ง่าย และสุดท้ายก็จะเหลือเพียงสายใยครอบครัวแต่กลับไม่เห็นร่องรอยของความรัก
แม้จะมั่นใจมากว่าเขาจะไม่เป็นเช่นนั้น แต่ใครจะยืนยันได้จริงๆ เล่า?
ฉะนั้นคืนนี้หยวนชิงหลิงจึงออกตัวมาก ออกตัวจนหยู่เหวินเห้าประหลาดใจ ความรักจำเป็นต้องรักษาความสด!