บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1780 กลับบ้านแล้ว
อ๋องเว่ยไม่สนใจ และไม่ขอให้มาก ด้วยประสบการณ์มากมายและการผ่านร้อนผ่านหนาวในชีวิต เขารู้ว่าขอมากไปกลับจะไม่ได้มา
เขาในสมัยก่อนไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้
ดังนั้นจึงพอใจแล้ว!
เขาหัวเราะซื่อๆ ยกหนึ่งก่อนจะนั่งยองแล้วล้วงสมุดออกมาเริ่มท่องชื่อ
ลูกชายลูกสาวเยอะจริง มีหลายชื่อที่เขายังจำไม่ได้ ฉวยตอนที่ยังไม่ถึงเมืองหลวงท่องชื่อของพวกเขาให้แม่น
มีบางคนที่ถึงวัยเหมาะจะแต่งงาน พูดเรื่องแต่งงานได้แล้ว อ๋องเว่ยวางแผนว่าเขากลับมาครั้งนี้จะกำหนดเรื่องแต่งงานของพวกเขาก่อน
ไม่ว่าปีนี้จะได้แต่งหรือไม่ แต่ก็กำหนดเอาไว้ล่วงหน้า
เจ้าห้ามองเขาอยู่ไกลๆ ไม่เอ่ยวาจา แต่ในใจกลับปวดใจเล็กน้อย
“รู้สึกว่าเขาไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือ?” หยวนชิงหลิงถาม
“ก็ไม่ใช่ เพียงแต่ในจำนวนเด็กมากมายนี้ กลับไม่มีลูกแท้ๆ ของเขาสักคน” เจ้าห้าเอ่ย
“ไม่สำคัญ จุดนี้ไม่สำคัญเลย” หยวนชิงหลิงมองไป เอ่ยเสียงเบา “ที่จริงเรื่องที่จิ้งเหอทำยิ่งใหญ่มาก สำหรับเด็กทุกคนที่นางช่วยกลับมา จิ้งเหอมอบชีวิตใหม่ให้พวกเขา โลกใบใหม่ และการดำรงชีพแบบใหม่”
“ข้ารู้” เจ้าห้าเก็บอารมณ์สงสารนั้น “ไม่รู้ว่าเพราะอายุมากขึ้นหรืออย่างไร มักอ่อนไหวอยู่บ้าง”
หยวนชิงหลิงหัวเราะขึ้นมา “ที่จริงคนที่เป็นฮ่องเต้จะอ่อนไหวไม่ได้มากที่สุด เอาล่ะ ควรออกเดินทางแล้ว ไปกันเถอะ”
ด้วยเสียงคำสั่ง ทุกคนจึงเริ่มออกเดินทาง
ขณะที่อยู่ข้างนอกก็มักคิดถึงเมืองหลวง
แต่พอจะกลับบ้านแล้วกลับอาลัยอาวรณ์แผ่นดินกว้างใหญ่อีก
หยวนชิงหลิงไม่ได้นั่งอยู่ในรถม้า แต่ร่วมขบวนขี่ม้ากับเจ้าห้า
“ทีแรกครั้งนี้คิดจะพาลูกๆ กลับเมืองหลวง แต่คิดดูแล้วรออีกหน่อยเถอะ ข้าคิดว่าอีกสักปีสองปี พวกเขาก็ถอนตัวออกมาได้ กลับไปดูบ้างเป็นบางครั้งก็พอ เจ้าหยวน เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”
“ข้าก็ว่าได้” หยวนชิงหลิงมองเขา “เจ้าห้า เจ้าอยากให้ลูกๆ อยู่ข้างกายละสิ?”
หยู่เหวินเห้าถอนหายใจเบา “ลูกๆ เรา ตั้งแต่เกิดจนถึงตอนนี้ ช่วงที่อยู่ข้างกายเราไม่มากจริงๆ โดยเฉพาะหลายปีนี้ ข้าอยู่ให้ทุกคนอยู่พร้อมหน้ากินข้าวสักมื้อก็ยังรู้สึกลำบากนัก ตอนนี้ยังลำบากขนาดนี้ เอาไว้พวกเขาเติบใหญ่แล้ว มีครอบครัว มีลูกเป็นของตัวเอง ยังจะแบ่งเวลาให้เราได้สักเท่าใดกัน?”
วันนี้เจ้าห้าอ่อนไหวมากจริงๆ
ออกมาครั้งหนึ่งทำให้เขาได้สัมผัสความเป็นจริงมากขึ้น เขาเดินลงมาจากตำแหน่งจักรพรรดิที่อยู่สูง ท่องแดนมนุษย์ปุถุชน ท่องแสงสีแห่งมนุษย์
แต่หยวนชิงหลิงเห็นด้วยกับคำพูดเขามาก
บางครั้งก็ไม่กล้าคิดเรื่องพวกนี้ให้มาก คิดมากก็จะปวดใจ
หวังแต่พวกเขาเติบใหญ่ แต่เติบใหญ่แล้ว พวกเขาก็จะแตกออกจากครอบครัวนี้ สร้างครอบครัวเล็กๆ ของตัวเอง แล้วปีใหม่เทศกาลถึงจะได้พร้อมหน้ากัน
จากนั้นพวกเขาก็มีสถานะใหม่อีกหลายสถานะ เป็นสามี พ่อ ลูกเขยคนอื่น พี่เขยคนอื่นกระทั่งน้องเขยอะไรอย่างนั้น
แต่ตอนนี้พวกเขาเป็นลูกชายของหยู่เหวินเห้าและหยวนชิงหลิง แต่ไม่อาจอยู่ข้างกาย
เมื่อคิดเช่นนี้น้ำตาก็ร่วงรินอย่างอดไม่ได้
แน่นอน จากสถานะหนึ่งไปสู่อีกหลายสถานะ นั่นเป็นหนทางที่มนุษย์ต้องเผชิญ ควรค่าแก่การดีใจ ทุกคนจะยินดีกับการเติบโตของพวกเขา
ส่วนพ่อแม่ที่ปวดใจเล่า? ก็จะปรบมือยินดีกับพวกเขา รอจนเสียงหัวเราะครื้นเครงจบลงแล้ว ค่อยหลบซ่อนมองข้างกายที่เงียบเหงา สบตาไร้วาจา
จากเมืองเจียงเป่ยถึงเมืองหลวงใช้เวลาครึ่งเดือน ที่จริงเดินๆ หยุดๆ คิดแล้วก็ไม่ถือว่าช้า
ครั้นถึงจื๋อลี่ ความปรารถนากลับบ้านก็พุ่งทะยานขึ้น
ท่านชายสี่ขี่ม้ามารับที่ประตูเมือง ราวกับรู้อยู่แล้วว่าพวกเขาจะกลับมา
เมื่อเห็นพวกเขา ท่านชายสี่ก็แสดงออกถึงความดีใจ
หลายปีนี้อยู่คลุกคลีกับพวกเขาจนเคยชินแล้วจริงๆ ระยะนี้พวกเขาไม่อยู่ เขาอยากดื่มสุราก็ไม่มีเพื่อน ถึงกับดื่มกับฮุ่ยเทียนเมี่ยตี้เป็นการแก้ขัด
ท่านชายสี่ไม่ยอมให้พวกเขากลับวังทันที ลากทั้งหมดมาที่จวนตัวเอง ดื่มก่อนสักมื้อแล้วค่อยว่ากัน ปลอบใจตัวเองที่เหงามานานสักหน่อย