บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1784 เจ้ามีสิ่งที่เสียใจไหม
เจ้าหญิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าบูดบึ้งว่า “พี่สะใภ้ห้า แม้แต่เจ้าก็ไม่มีหนทางหรือ? ข้าคิดว่าเจ้าสามารถพูดอะไรต่อหน้าชายาเฟิงอันได้อยู่บ้าง จึงอาจจะช่วยได้”
“ที่พระชายาไม่ให้ นางคงมีเหตุผลของตนเอง ท่านชายสี่เคยถามไหมว่าทำไมถึงไม่ยกให้เขา?” หยวนชิงหลิงถามขึ้น
“คงจะเคยถามแล้ว ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินหรงเยว่พูด เขาถึงขั้นคุกเข่าขอร้องพระชายา” เจ้าหญิงสงสารสามีของตนเองอย่างมาก ที่เขาถึงขั้นต้องคุกเข่า
หยวนชิงหลิงหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าหญิง เขาคุกเข่าให้กับพระชายา ไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่เลยซักนิด เขาเป็นลูกศิษย์ของพระชายา เป็นลูกศิษย์ที่เป็นยิ่งกว่าแม่ลูกด้วยซ้ำ ต่อให้เขาไม่ขอหมาป่าหิมะ ก็ต้องคุกเข่าให้กับพระชายา”
“นั่นก็ใช่” เจ้าหญิงคิดไม่ได้ขึ้นมาในทันที เพียงได้ยินว่าราชบุตรเขยคุกเข่าให้กับพระชายา ก็รู้สึกว่าเขาน่าสงสารมาก
“เจ้าไม่ต้องคิดมากขนาดนี้ พระชายาไม่ยกให้เขา จะต้องเป็นความหวังดีต่อเขาแน่ เดี๋ยวครั้งหน้าข้าค่อยๆลองถามพระชายาดูดีไหม?”
เจ้าหญิงพูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้นดีใจว่า “พี่สะใภ้ห้า ต้องรบกวนเจ้าแล้ว”
หยวนชิงหลิงหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าพบว่า ตอนนี้มีเพียงเรื่องของท่านชายสี่ที่ทำให้เจ้าสนอกสนใจ”
เจ้าหญิงแลบลิ้นหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “หากเป็นเรื่องของพี่ห้า เจ้าไม่สนอกสนใจหรือ? หากพี่ห้ามีอะไรที่เสียใจ คาดว่าเจ้าคงจะตื่นเต้นยิ่งกว่าข้า”
หยวนชิงหลิงค่อนข้างเหม่อลอย ที่จริง นางไม่เคยถามเจ้าห้าอย่างจริงจัง ว่ามีเรื่องอะไรเสียใจหรือเปล่า
หลายปีมานี้ สิ่งที่นางชอบ เจ้าห้าก็บอกว่าเขาก็ชอบ
ญาติพี่น้องของนาง เจ้าห้าก็บอกว่าเป็นญาติพี่น้องของเขาด้วย
งานที่นางรักชอบ เจ้าห้าก็ให้การสนับสนุนถึงที่สุด ต่อให้ไม่มีเวลาอยู่กับเขา
เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว ก็รู้สึกสงสารเขาอย่างมาก
ดังนั้นรอหลังจากเจ้าหญิงกลับไปแล้ว ประมาณตอนพักเที่ยง นางไปที่ห้องห้องทรงพระอักษร แล้วก็ทานข้าวเป็นเพื่อนเขาอยู่ที่ห้องทรงพระอักษร
คุยเรื่องงานเหล่าขุนนางต่างก็อยู่ด้วย ในวังเตรียมอาหารไว้ให้ ปกติจะทานข้าวพร้อมกับหยู่เหวินเห้า แต่วันนี้ฮองเฮามา พวกเขาจึงไปทานที่ห้องด้านข้าง
อากาศเริ่มร้อนแล้ว เมื่อร้อนแล้วก็ไม่ค่อยอยากทานข้าว หยวนชิงหลิงให้เขาดื่มน้ำแกง เขาดื่มไปหนึ่งถ้วย ก็รู้สึกว่าอิ่มแล้ว
“ไม่ทานแล้วหรือ?” หยวนชิงหลิงเห็นเขาวางตะเกียบลง จึงถามขึ้น
“ไม่หิว ทานอาหารเช้าเยอะไป” หยู่เหวินเห้ามองดูเขา พร้อมยิ้มหัวเราะพูดขึ้นว่า “เจ้าทาน ข้าชอบดูเจ้าทาน”
หยวนชิงหลิงก็วางตะเกียบลง มองดูเขาพร้อมพูดขึ้นว่า “วันนี้หลิงเอ๋อร์เข้าวังมาหาข้า ให้ข้าช่วยถามชายาเฟิงอัน ว่าทำไมถึงไม่ยกหมาป่าหิมะให้กับท่านชายสี่”
“รู้อยู่แล้วว่าเขาไม่ลืม” หยู่เหวินเห้าหัวเราะพร้อมพูดขึ้น
“ใช่ ตั้งแต่รู้จักเขามาจนถึงตอนนี้ เขาก็ไม่เคยปล่อยวางที่อยากได้หมาป่าหิมะ”
ความมุ่งมั่นนี้ ช่างเป็นเรื่องยากอย่างมาก แน่นอนว่าก็มีเหตุผล
“งั้นก็ไปช่วยเขาถาม หากไม่ได้จริงๆ รอทังหยวนกลับมา ค่อยยืมหมาป่าหิมะของเขาไปเล่นสักพัก” หยู่เหวินเห้าพูดขึ้น
“เจ้าห้า” หยวนชิงหลิงลุกขึ้นมาแล้วเดินอ้อมไปทางด้านหลังของเขา เอื้อมมือกอดเขาไว้พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าถามเจ้าหนึ่งคำถาม”
หยู่เหวินเห้าแนบใบหน้าของตนกับใบหน้าของนางพร้อมพูดขึ้นว่า “เรื่องอะไร? ค่อนข้างเป็นทางการขนาดนี้”
“ชั่วชีวิตนี้ของเจ้า มีเรื่องอะไรเสียใจไหม? หรือเจ้ามีความรู้สึก หรือเจ้าคิดว่าข้าเป็นฮองเฮา ควรที่จะช่วยเจ้าทำอะไรบ้าง?”
“ไม่มีนี่” หยู่เหวินเห้าค่อนข้างตะลึง พร้อมพูดขึ้นว่า “ทำไมถึงถามเช่นนี้? เจ้ายังจะต้องช่วยข้าทำอะไร?”
“ไม่เป็นไร แค่อยากถามว่าภรรยาในอุดมคติของเจ้าเป็นยังไง” หยวนชิงหลิงหัวเราะพร้อมพูดขึ้น
หยู่เหวินเห้าอุ้มนางขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า “ภรรยาในอุดมคติก็เป็นเหมือนอย่างเจ้า ไม่ เจ้าดีกว่าที่ข้าคิดไว้อย่างมากมาย จริงๆ แล้วเจ้าล่ะ? เจ้าคิดว่าข้าเป็นสามีอุดมคติของเจ้าไหม”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นว่า “ข้าจำได้ว่าเมื่อก่อนข้าเคยถามเจ้า ข้าทำงานวิจัยพวกนี้ จะไม่มีเวลาช่วยเจ้าดูแลเจ้า เจ้าจะถือสาไหม เจ้าพูดว่า เจ้าสนับสนุนที่ข้ามีกิจการงานเป็นของตนเอง ตั้งแต่ที่เจ้าพูดประโยคนี้ออกมา ค่าก้อยรู้สึกว่าเจ้าเป็นที่พอใจอย่างมาก เพราะต่อให้อยู่ในยุคของพวกเรา ก็จะมีสามีส่วนหนึ่งที่ไม่สนับสนุนกิจการงานของภรรยา คิดว่าภรรยาควรที่จะอยู่บ้านเลี้ยงลูกดูแลบ้าน”
หยู่เหวินเห้าขึ้นมาอย่างภาคภูมิใจในทันทีว่า “สิ่งที่ข้าคิดได้ ล้ำหน้าผู้ชายในอีกพันปีอยู่แล้ว”