บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1789 ท่านชายสี่อุ้มหมาป่าหิมะกลับมา
- Home
- บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์
- บทที่ 1789 ท่านชายสี่อุ้มหมาป่าหิมะกลับมา
วันที่สอง พระชายาลงเขาไปก่อนแล้ว ส่งคนไปบอกเจ้าหญิงว่า เหลิ่งซี่จะอยู่บนเขาสักวันสองวันค่อยกลับมา
เจ้าหญิงรออยู่สองวัน ก็ยังไม่เห็นกลับมา
สามวัน ก็ยังไม่กลับมา
สี่วัน ก็ยังไม่เห็นกลับมา
รอจนทนไม่ไหวแล้ว ส่งคนไปถามที่จวนอ๋องอีกครั้ง พระชายายังพูดประโยคนั้น พรุ่งนี้ก็กลับมา
สุดท้าย ถึงวันที่หก ท่านชายสี่กลับมาแล้ว เสื้อผ้าขาดวิ่น ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล ใบหน้าอันภาคภูมิที่ไม่มีใครเทียบได้ เป็นแผลหลายแผล
แต่เขาดูมีดีใจความสุขกว่าที่ผ่านมาอย่างมาก แม้แต่ตอนที่เป็นพ่อคนก็ยังดีใจขนาดนี้
เพราะในมือของเขาอุ้มหมาป่าหิมะน้อยไว้หนึ่งตัว หมาป่าหิมะน้อยสวยมาก ดวงตาสีฟ้า แต่ดูอ่อนแออย่างมาก ปล่อยลงแล้วก็แทบเดินไม่ได้
แน่นอน ท่านชายสี่วางลงไม่ถึงสามวิ ก็รีบอุ้มขึ้นมาอีก รักใคร่อย่างมาก แต่เขาก็ไม่ได้มีใหม่แล้วลืมเก่า เอ้อฮายังคงคลานไปที่เท้าของเขา
เดิมเจ้าหญิงโกรธจัดมาก แต่เห็นเขายิ้มอย่างมีความสุขขนาดนี้ ความโกรธก็กลายเป็นความว่างเปล่า ช่างเถอะ ช่างเถอะ พี่สะใภ้ห้าเคยพูดไว้ ผู้ชายล้วนเป็นพวกหน่อมแน้ม เขามีความสุขก็พอ
จึงสั่งคนไปเตรียมน้ำร้อน ทำแผลให้เขาด้วยตนเอง คนสำนักเหลิ่งหลังล้อมรอบอยู่ด้านข้าง แทบไม่อยากเชื่อ ท่านชายสี่ได้หมาป่าหิมะมาครอบครองแล้ว อยากมาลูบดูว่าเป็นความจริงไหม ท่านชายสี่ก็รีบคำรามขึ้น ไล่พวกเขาถอยไป
ฮุ่ยเทียนดูบาดแผลของเขา พร้อมถามขึ้นว่า “ไหนบอกว่าไปขอโทษไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงถูกรุมทำร้ายกลับมา?”
ท่านชายสี่ไม่ใส่ใจคำพูดเหน็บแนมของเขาเลยสักนิด พร้อมพูดขึ้นว่า “ไปเพื่อขอโทษอยู่แล้ว แต่อาจารย์บอกว่า หมาป่าหิมะเต็มภูเขา หากข้าสามารถไล่จับได้ ก็จะเป็นของข้า”
ฮุ่ยเทียนประหลาดใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “แค่ไล่หมาป่าหิมะตัวเล็กๆตัวหนึ่ง ต้องใช้เวลาถึงหกวัน?”
“ไม่ใช่ เป้าหมายแรกของข้า คือหมาป่าหิมะตัวที่แข็งแรงที่สุดในฝูง แต่ไล่ตามอยู่สองวันก็ไล่ไม่ทัน จึงต้องยอมรั้งถอย”
ทุกคนได้ยินแล้ว ต่างก็หัวเราะขึ้นมา
เจ้าหญิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “นี่การรั้งถอยของเจ้า ก็รั้งเกินไปไหม เริ่มไล่จากที่แข็งแรงที่สุดจนถึงอ่อนแอที่สุด ยังใช้เวลาถึงหกวัน ตนเองยังเป็นแผลเต็มตัว”
ท่านชายสี่พูดขึ้นว่า “ที่สำคัญคือข้าอยากวิ่งไล่กับพวกเขา อยากจับหมาป่าหิมะน้อยตัวนี้ ข้าใช้เวลาแปบเดียว ก็เอามาได้แล้ว”
“หมาป่าหิมะน้อยตัวนี้ ดูเหมือนเพิ่งคลอดได้ไม่นาน จึงง่ายที่จะจับอยู่แล้ว” เจ้าหญิงเช็ดบาดแผลให้เขาอย่างเชื่องช้า พร้อมพูดขึ้น
ในมือท่านชายสี่ยังอุ้มหมาป่าหิมะ บนใบหน้าไม่รู้สึกเจ็บสักนิด แต่เจ้าหญิงบอกว่าจับได้ง่ายๆ ในใจเขาไม่เห็นด้วย
ใช่ เริ่มแรกเขาอยากได้ตัวที่แข็งแรงที่สุด แต่หมาป่าหิมะตัวนั้นเริ่มวิ่ง เขาก็ล้มเลิกแล้ว
เขายืนอยู่ท่ามกลางป่าเขา มองดูหมาป่าหิมะรอบๆที่เริ่มจากไป พบว่าพวกมันจากไปเร็วมาก ยังไงก็ตามพวกเขาไม่ทัน
ดังนั้น ความจริงแล้ว วันนั้นสายตาของเขาก็มุ่งเป้าหมายไปที่หมาป่าหิมะน้อยตัวนี้
เพราะนี่มีความเป็นไปได้ที่สุด
สุดท้าย ก็ยังต้องใช้เวลาถึงหกวัน
ใช้เวลาหกวัน เดิมก็ยังไม่สามารถจับได้ เป็นเพราะหมาป่าหิมะน้อยอายุน้อยไฟแรง ประเมินศัตรูต่ำเกินไป วิ่งไปด้วยหันกลับมามองเขาด้วย สุดท้ายไม่ทันระวังตกลงไปในหลุม เท้าติดอยู่ในนั้น กว่าครึ่งชั่วโมงก็ไม่สามารถหลุดออกมาได้ จนเขาตามไปทัน แล้วจับตัวได้
“ข้าจะตั้งชื่อให้เขาว่า หั่วเจี้ยน(จรวด ใบสมัยโบราณหมายความว่าธนูไฟ) เป็นไง?”
“หั่วเจี้ยน?” เจ้าหญิงนึกถึงธนูที่ติดไฟ พุ่งไปยังค่ายทหารของศัตรู พร้อมพูดขึ้นว่า “แต่หลังจากที่ธนูไฟยิงออกตัวแล้วรวดเร็วมาก มันถูกเจ้าจับได้ไว้ขนาดนั้นเลยหรือ ยังสามารถมองเห็นธนูไฟหรือ?”
“เจ้าไม่เข้าใจ ตั้งชื่อให้เด็กเป็นความหวังดีและปรารถนาดี อย่าเห็นว่าตอนนี้เขาวิ่งได้ช้า ต่อไปเมื่อเติบโตแล้วจะวิ่งได้เร็ว ถือเป็นการอวยพรให้ต่อไปเขาวิ่งได้เร็ว”
ท่านชายสี่ดีใจมาก อุ้มหั่วเจี้ยนน้อยแล้วก็จูบอย่างแรง
เอ้อฮาที่อายุมากแล้ว ลุกขึ้นมายื่นมือไปที่มือของเขา แสดงท่าทีราวกับข้าก็อยากให้จูบ
ท่านชายสี่ไม่ลำเอียง เลือกที่รักมักที่ชังอยู่แล้ว จุบเอ้อฮาอย่างแรงหนึ่งที เฮ้อ ช่างมีความสุขจริงๆ