บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1793 คนหนุ่มใจกล้า
คิดไม่ถึงว่าอานจือส่ายหัว พร้อมตอบว่า “ข้ายังไม่เคยเห็นเขาเลย”
เจ๋อหลานถามขึ้นว่า “งั้นเจ้าให้ท่านป้าสี่ไปพูดเช่นนี้กับท่านลุงสี่ เพราะหวังว่าต่อไปเขาไม่ต้องยุ่งเรื่องที่เจ้าจะเลือกคู่ครองหรือ?”
“ฉลาดมาก” อานจือยิ้มแย้ม รินน้ำชาให้กับเจ๋อหลานกับเหลิ่งหมิงหยู่ พร้อมพูดขึ้นว่า “รีบชิมอันนี้ดู”
ยกถ้วยน้ำชาขึ้นมา เจ๋อหลานดื่มหนึ่งคำ แล้วก็พูดขึ้นอย่างน่าทึ่งว่า “อร่อย”
“อร่อยใช่ไหม ข้าได้ยินครั้งก่อนเจ้าพูดถึงชานม จึงลองเอานมแพะใส่ลงไป คิดไม่ถึงว่าอร่อยมาก แม้แต่แม่ของข้าก็ชอบดื่ม แต่ข้าจำได้ เจ้าเคยพูดว่าไม่ควรดื่มเยอะ จะทำให้เสพติด ดังนั้นตอนนี้จึงนานนานทำที”
“ดื่มเยอะไม่ได้จริงๆ” เจ๋อหลานวางแก้วลง มองดูเหลิ่งหมิงหยู่ที่อยู่ด้านข้างเริ่มดื่มแก้วที่สองแล้ว จึงพูดขึ้นว่า “น้องชาย ดื่มได้แค่สามแก้วนะ”
เหลิ่งหมิงหยู่พยักหัวอย่างว่าง่าย
อานจือหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่รีบ ตอนเที่ยงยังมีของอร่อย เพราะวันนี้ในจวนมีแขกมา ข้าเห็นท่านแม่เชิญพ่อครัวภัตตาคารเค่อหลายมาเตรียมอาหารของแคว้นจินไว้ไม่น้อย พวกเราจะได้ชิมด้วย”
เจ๋อหลานพยักหัว เงยหน้าพร้อมถามขึ้นว่า “พูดถึงแคว้นจิน พี่สาว หนิงจอหงวนคนนี้ เจ้าเห็นว่าเป็นอย่างไร?
“เดิมข้ายังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร แต่ดีที่พวกเจ้ามาแล้ว” อานจืออมยิ้ม มองดูเหลิ่งหมิงหยู่ ที่กำลังก้มหน้าก้มตาดื่มชานมอย่างว่าง่าย
ห้องโถงด้านหน้า
อ๋องอานกับพระชายาอานตลอดจนอัครมหาเสนาบดีแคว้นจินสองพ่อลูกมาแล้ว คนใช้วางอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ถอยออกไป เหลือไว้เพียงสาวใช้ถือเหยือกเหล้าก้มหน้ารอคอยปรนนิบัติอยู่ด้านข้าง
ส่วนผู้ติดตามของแคว้นจินสองพ่อลูก ถูกเชิญไปทานอาหารที่ห้องด้านข้าง และก็มีพ่อบ้านคอยต้อนรับอยู่ทางด้านนั้น
ทางนั้นทานกันอยู่อย่างครึกครื้น ทางด้านนี้กลับนั่งกันอยู่อย่างแข็งทื่อ
สุดท้ายพระชายาอานพูดขึ้นมาก่อนว่า “ทุกคนหยิบตะเกียบขึ้นมาทานข้าวเถอะ”
แคว้นจินสองพ่อลูกพยักหัว แต่อ๋องอานที่เป็นเจ้าของบ้านกลับไม่ขยับตะเกียบ พวกเขาก็ไม่สะดวกที่จะจับตะเกียบขึ้นมา
คุณชายตระกูลหนิงนั่งตัวตรง สายตาไม่กล้าเหลียวมอง ไม่ขยับเคลื่อนไหวเลยสักนิด
ยังไงชื่อเสียงความชั่วร้ายของอ๋องอาน เป็นที่เลื่องลือไปทั่ว แม้แต่พี่น้องแท้ๆของตนเองก็สามารถลงมือทำร้ายได้อย่างโหดเหี้ยม ถึงแม้หลายสิบปีมานี้จะวางมือแล้ว แต่ในช่วงสองปีมานี้ มีข่าวลือว่าคนที่มาสู่ขอแล้วถูกทำร้ายไล่ออกไปจากจวนอ๋องอานมีมากมายนับไม่ถ้วน ขาดแขนขาดขาถือเป็นเรื่องปกติ
ดังนั้นพวกเขาสองพ่อลูกก็เป็นกังวล หากอ๋องอานไม่ไว้หน้า พังโต๊ะขึ้นมาจะทำยังไง
พระชายาอานเห็นแล้ว ก็ส่งเสียงไอแห้งๆออกมา ยื่นแขนสะกิดสามีของตนเอง
อ๋องอานค่อยพยักหัว ยิ้มหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “มามา ทั้งสองไม่ต้องเกรงใจ มา หลานชาย ลองชิมเหล้าชั้นดีของเป่ยถังดู”
เขาพูดพร้อมกับเอื้อมมือลงไปใต้โต๊ะ เอาไหเหล้าขึ้นมาสองไห แล้ววางตรงหน้าคุณชายตระกูลหนิง
เปิดฝาออก กลิ่นหอมของเหล้าที่รุนแรง พัดโชยมา
เขาเทให้กับหนิงหงเจาหนึ่งถ้วยใหญ่ด้วยตนเอง แล้วให้สาวใช้เทให้ตอนเองหนึ่งถ้วยเล็ก พร้อมพูดขึ้นว่า “คนหนุ่มใจกล้า ลุงดื่มกับเจ้าหนึ่งแก้ว”
“หมดแก้ว” หนิงหงเจากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ยกถ้วยตรงหน้าที่แทบใหญ่เท่าหน้าของตนขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “หลาน ดื่มกับท่านหนึ่งแก้ว”
พระชายาอานก็ตกใจอย่างมาก เหล้าสองไหนี้ อ๋องอานเอามาซ่อนไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
เหล้าหนึ่งไหนี้ อย่างน้อยก็มียี่สิบถ้วย ดูท่าทีอ๋องอานแล้ว จะบีบบังคับให้แขกดื่มจนหมดหรือ ไกลขนาดนี้ยังได้กลิ่นเหล้าที่รุนแรง อย่าว่าแต่สี่สิบถ้วย แค่ถ้วยเดียว หลังจากลืมลงไปแล้ว คนยังจะมีสติอยู่ไหม?
นางรีบจับมืออ๋องอานไว้ พร้อมยิ้มพูดกับหนิงหงเจาที่กำลังจะดื่มว่า “ไม่รีบ ก่อนดื่มเหล้า ทั้งสองลองชิมอาหารแคว้นจินนี้ดูว่าเหมือนต้นตำรับไหม ท่านอ๋องสั่งคนไปเชิญพ่อครัวภัตตาคารเค่อหลายมาทำโดยเฉพาะ”
แน่นอนว่าไม่ได้ทำแค่อาหารแคว้นจิน ยังมีอีกครึ่งหนึ่งเป็นอาหารต้นตำรับจากในวังเป่ยถัง ที่สำคัญคือแขกเดินทางมาจากแดนไกล กลัวว่าพวกเขาจะไม่คุ้นเคย
อ๋องอานยังอยากยืนหยัด แต่หลังจากที่ได้เห็นสายตาเป็นการเตือนของภรรยาตนเอง จึงจำต้องหยุด
พระชายาอานโบกมือ ให้คนใช้เอาเหล้าที่อ๋องอานเตรียมไว้ออกไป เปลี่ยนจอกเหล้าเล็กเหมือนของอ๋องอานให้กับหนิงหงเจาใหม่
ถึงแม้เหล้านี้จะไม่รุนแรงเท่าในไห แต่หากเขาอยากเอามาทดลองคนหนุ่ม ก็ถือว่าเพียงพอ
กลับคิดไม่ถึง หนิงหงเจายกจอกเหล้าขึ้นมาก่อน พร้อมพูดขึ้นอย่างนอบน้อมถ่อมตนว่า “ท่านลุง ท่านป้า วันนี้หลานพาพ่อมารบกวนอย่างบุ่มบ่าม ในความผลีผลามนี้ หลานลงโทษตนเองสามจอก ขอท่านทั้งสองให้อภัย”