บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1794 หลานชายอย่าถ่อมตัว
หนิงหงเจาพูดเสร็จ แล้วก็ดื่มลงไปทันทีสามจอก แล้วก็ขอเชิญดื่มกับอ๋องอานหนึ่งจอก
ดื่มลงท้องไปสี่จอก สีหน้าท่าทีไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงแสดงท่าทีสุขุมรอคอยให้ทั้งสองพิจารณา
พระชายาอานแอบสบตากับอ๋องอาน นางรู้สึกว่าเจ้าเด็กคนนี้ เหมือนเป็นคนมีความรับผิดชอบ
ในสายตาอ๋องอานก็ฉายแววชื่นชม แต่ก็หายไปอย่างรวดเร็ว นี่เพิ่งดื่มเหล้าไปเพียงไม่กี่แก้ว สามารถนับอะไรได้
คิดถึงตอนนั้น ตอนที่เขาไปสู่ขอเหยียนเอ๋อ ดื่มเหล้าเป็นไห กองขึ้นมาคงสูงเท่าม้า
แต่ยังไงพวกเขาก็ไม่ได้สร้างความลำบากใจให้กับหนิงหงเจาอีก แต่พูดคุยกับอัครมหาเสนาบดีหนิง
ตอนนั้นอ๋องอานไปร่วมงานแต่งงานหลอกลวงของฮ่องเต้น้อยแคว้นจิน อัครมหาเสนาบดีหนิงมารับเขากับอ๋องเว่ยที่หน้าประตูเมืองด้วยตนเอง หากไม่ใช่เพราะฮ่องเต้น้อยสร้างเรื่องแบบนั้น ตอนนั้นพวกเขาก็นัดที่จะได้ดื่มเหล้าด้วยกันแล้ว วันนี้ถือว่าได้ดื่มด้วยกันเสียที
ระหว่างนี้ ทุกจอกที่อ๋องอานดื่ม หนิงหงเจาก็จะดื่มด้วย
ดื่มเหล้าวนไปสามรอบ ทานอาหารห้ารส พูดคุยจากเรื่องธรรมดาไปจนถึงงานราชการ งานานราชการไปจนถึงเรื่องธรรมดา
สีหน้าอ๋องอานกับอัครมหาเสนาบดีหนิงต่างก็แดงแล้ว สีหน้าหนิงหงเจายังเป็นปกติดี นั่งตัวตรง เงี่ยหูฟังเล็กน้อย เพื่อดูว่าอ๋องอานจะมีคำถามหรืออะไรใหม่ๆ หรือไม่
ซึ่งนี่ทำให้อ๋องอานไม่ค่อยพอใจ
เดิมอยากที่จะดูความสามารถในการดื่มเหล้า กลับคิดไม่ถึงว่าเขาจะสามารถดื่มเหล้าได้ดีขนาดนี้ ยังรอบรู้เหตุการณ์ในสมัยโบราณและปัจจุบันเป็นอย่างดี ทำให้คาดเดาไม่ออก
ถึงแม้เจ้านี้จะแลดูแล้วไม่เลว แต่ยังไงใจคนก็ยากที่จะคาดเดา
เมื่อแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น เขายกฝ่ามือตบบ่าหนิงหงเจา จนหนิงหงเจาตกใจ
“หลานชาย เมื่อกี้เจ้าพูดว่า อาจารย์ของเจ้าคือฉีฮั่ว?”
หนิงหงเจาพูดอธิบายขึ้นว่า “เพียงแค่โชคดีมีโอกาสได้รับการแนะนำจากท่านราชครูไม่กี่ครั้ง หลานชายด้อยความสามารถ ยังไม่สามารถไปไหว้ท่านราชครูเป็นอาจารย์”
“หลานชาย อย่าถ่อมตน ดีที่วันนี้อากาศไม่เลว เจ้ามาประลองเป็นเพื่อนข้า”
อ๋องอานลุกขึ้นมาทันที แล้วก็สั่งคนไปเอาดาบมาสองเล่ม
เดิมพระชายาอานอยากห้ามเขา แต่เมื่อลองคิดดูแล้ว ต่อให้ห้ามไว้ได้ เขาก็ต้องคิดหาวิธีหาโอกาสไปประลองให้ได้ จึงยอมตามใจเขาดีกว่า จะได้ดูได้ว่าเจ้าเด็กคนนี้เพียบพร้อมเก่งทั้งบุ๋นและบู๊หรือเปล่า และตอนนี้ก็มีนางกับอัครมหาเสนาบดีหนิง ไม่กลัวว่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น
ฝีมือการต่อสู้ของอ๋องอานนั้น เป็นที่รู้กันว่ามีฝีมือดี ในเมืองเจียงเป่ยไม่มีใครสามารถสู้เขาได้
ถึงแม้เขาจะไม่แสดงออกถึงความสามารถทั้งหมด แต่หนิงหงเจา กลับสามารถรับมือเขาได้อย่างสบายถึงยี่สิบสามสิบกระบวนท่า เห็นได้ชัดว่าก็มีฝีมือยอดเยี่ยม
แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้เขาก็เองใจร้อน
คนรุ่นหลังที่มีศิลปะการต่อสู้ยอดเยี่ยมขนาดนี้ ฮ่องเต้น้อยแคว้นจิน ปล่อยให้เขามาสู่ขอที่เมืองเจียงเป่ยได้ยังไง?
หรือว่า มีอุบายทางการเมืองจริงๆ?
ในฐานะที่เขาเป็นด้านหน้าของเป่ยถัง จะชะล่าใจไม่ได้เด็ดขาด
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ดาบจู่โจมของอ๋องอานก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
วันนี้จะต้องรู้ความตื้นลึกของเจ้าคนนี้ให้ได้
ทั้งสองคนยิ่งอยู่ก็ยิ่งสู้กันอย่างรวดเร็วขึ้นมา
เริ่มแรกหนิงหงเจายังสามารถป้องกันรับมือได้ จนสุดท้ายถูกเพลงดาบของอ๋องอานบีบบังคับให้ต้องหลบอย่างรวดเร็ว
ใครจะกล้าทำร้ายพ่อตาในอนาคตในวันที่มาสู่ขอ ไม่เท่ากับเป็นการเจตนาตัดสัมพันธ์หรือ
พระชายาอานกับอัครมหาเสนาบดีหนิงมองดูอยู่ด้านล่าง ยิ่งอยู่ก็ยิ่งเป็นกังวลหวั่นไหว
ทั้งสองคนสู้กันไปมา จากซ้ายไปถึงขวา จากขวาไปถึงซ้าย และจากพื้นดินจนถึงบนหลังคา
เจ้าตามข้าไล่ เจ้าไล่ข้าหนี นัวเนียกันอยู่
พระชายาอานเห็นแล้วทนไม่ไหวกำลังจะตะโกนห้าม กลับ “ปัง” เสียงถล่มดังขึ้นมาจาก เรือนด้านข้างที่บ่าวใช้ทานข้าวกัน
พระชายาอานตกใจจนหัวใจจะหลุดออกมา ไม่ทันได้สนใจมารยาท รีบวิ่งเข้าไปดูพร้อมกับอัครมหาเสนาบดีหนิง
เห็นอ๋องอานกับหนิงหงเจาช่วยเหลือกันออกจากกองซากปรักหักพัง บนร่างกายห้อยเต็มไปด้วยเศษอาหาร และด้านหลังหลังคาก็เป็นรูกว้างสองเมตร และคนใช้นับสิบคนที่ถือชามกับตะเกียบหนีออกมาอยู่นอกประตู
พวกคนใช้กลืนน้ำลาย เอาชามและตะเกียบในมือไปไว้ข้างหลังอย่างเงียบๆ พร้อมหลบไปอยู่ตรงมุม
“ท่านอ๋อง?” พระชายาอานเอามือปิดหน้า
จนถึงขั้นบ้านพังแล้ว นี้ถือว่ารุนแรงขนาดไหน