บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1797 ใจดี
หนิงหงเจาเพิ่งยกแก้วชาขึ้นมา กำลังจะดื่ม ก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายด้านนอกห้องพิเศษ
เขาวางแก้วลง ถามบ่าวใช้ที่อยู่ด้านนอกประตูว่า “มู่โถว เกิดอะไรขึ้น?”
มู่โถวตอบกลับว่า “คุณชาย มีเด็กมาขายผลไม้แห้งคนหนึ่ง ข้าบอกว่าท่านได้สั่งในโรงน้ำชาแล้ว แต่เขาก็ยังบอกว่าเขาขายไม่เหมือนกับของในโรงน้ำชา จะให้ท่านลองชิม อยากให้ท่านช่วยซื้อ”
หนิงหงเจาอมยิ้ม พร้อมพูดขึ้นว่า “ให้เข้ามา”
มู่โถวได้ยินเช่นนี้ เปิดประตูห้องพิเศษ
เด็กตัวผอม เสื้อผ้าสกปรก ถือตะกร้าไม้ใบเล็กๆ เดินเข้ามาอย่างกะโผลกกะเผลก
“คุณชายผู้เป็นมงคล ข้าน้อยขายผลไม้แห้งอยู่ที่ถนนหนานเป่ย ผลไม้แห้งของข้าน้อยอร่อยที่สุดในเมืองเจียงเป่ย ท่านอยากลองชิมไหม?”
หนิงหงเจาเหลือบมองผลไม้แห้งในตะกร้าไม้เล็กๆ ของเขา สภาพแย่กว่าที่ขายในโรงน้ำชานี้เสียอีก ยังปะปนกับก้อนหินมากมายอีกด้วย
เขาถามขึ้นว่า “ผลไม้แห้งของเจ้าขายยังไง?”
เด็กน้อยตอบว่า “หนึ่งกำมือหกสิบเหวิน”
“เจ้าเด็กนี่ ในโรงน้ำชานี้ครึ่งโลก็แค่สามสิบเหวิน นี่เจ้าเอาเปรียบคุณชายของข้าเกินไปไหม” มู่โถวตามหลังเขาเข้ามา ได้ยินเขาบอกราคา ก็อดไม่ได้ที่จะพูดเถียงขึ้นว่า “ผลไม้แห้งของเจ้านี้ทำมาจากเงินหรือ?”
ได้ยินมู่โถวพูดขึ้นมาอย่างรังเกียจ เด็กน้อยกำมือหนึ่งกำในตะกร้าอย่างไม่ยอมแพ้ อยากยื่นให้กับหนิงหงเจา พร้อมพูดขึ้นว่า “คุณชาย ท่านลองชิมดู อร่อยมากจริงๆ ข้าน้อยขอร้อง ท่านช่วยซื้อด้วยเถอะ”
บนมือของเขายังเปื้อนไปด้วยฝุ่น ในเล็บก็ยังมีดินติดไว้ด้วย
มู่โถวอยากห้าม กลับถูกหนิงหงเจาเอื้อมมือไปห้าม
“หากข้าไม่ซื้อล่ะ?” หนิงหงเจาถามขึ้น
เด็กคนนั้นได้ยินแล้ว ก็รีบคุกเข่าให้กับหนิงหงเจา ในมือที่มีผลไม้แห้งยกขึ้นสูง พยายามพูดโน้มน้าวเขาว่า “คุณชาย ข้าน้อยขอร้องท่านช่วยเมตตา ช่วยข้าน้อยซื้อบ้างเถอะ”
“ข้าสามารถช่วยซื้อผลไม้แห้งทั้งหมดนี้ของเจ้าได้ และยังสามารถให้เงินส่วนต่างกับเจ้าอีก” หนิงหงเจายื่นมาออกมา วางเงินไว้บนโต๊ะ และห่างไปไม่ไกล ก็วางเงินไว้อีกส่วนหนึ่ง พร้อมพูดต่อว่า “แต่เจ้าจะรับประกันยังไง หลังจากออกไปจากโรงน้ำชานี้แล้ว เงินพวกนี้จะยังเป็นของเจ้า?”
เด็กคนนั้นได้ยินแล้วก็อึ้ง สายตาไม่ดีมองเงินนั่นนาน แต่ยัดผลไม้แห้งกลับเข้าไปในตะกร้าเหมือนเดิม ก้มคำนับหนิงหงเจา พร้อมพูดขึ้นว่า “คุณชาย ขอร้องท่านช่วยสอนข้าด้วย”
ไกลออกไป เหลิ่งหมิงหยู่มองดูเด็กคนนั้นทั้งคุกเข่าทั้งก้มหัวคำนับหนิงหงเจา จึงถามเจ๋อหลานอย่างแปลกใจว่า “พี่สาว ทำไมถึงให้เด็กขอทานคนหนึ่งไปขายผลไม้แห้งให้กับคุณชายหนิง?”
“เพื่อดูความมีน้ำใจของเขา” เจ๋อหลานแบ่งผลไม้แห้งให้เขาหนึ่งกำ พร้อมพูดอธิบาย
เหลิ่งหมิงหยู่รับมา แต่กลับวางไว้ในมือ และพูดวิเคราะห์ขึ้นว่า “อ้อ จะดูว่าเขาซื้อหรือไม่ใช่ไหม? เจ้าขอทานน้อยสภาพน่าสงสารขนาดนี้ หากเขาไม่ซื้อ แสดงว่าไม่มีน้ำใจ หากเขาซื้อ ก็ถือว่ามีน้ำใจ”
อานจือยิ้มหัวเราะ ส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ใช่ และก็ไม่ใช่”
เหลิ่งหมิงหยู่เอียงหัว ถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจว่า “ทำไมหรือ?”
“น้องชาย เวลาเราสังเกตการณ์ จะดูเพียงภาพลักษณ์ภายนอกไม่ได้ จะต้องฝึกสังเกตดูอย่างละเอียด มองไปไกลกว่าผิวเผิน ขอทานน้อยน่าสงสาร แต่ผลไม้แห้งของเขาแย่กว่าของคนอื่น ยังปะปนไปด้วยหินทำให้ไม่น่ากิน แต่กลับขายแพงกว่าคนอื่นหนึ่งเท่า เห็นได้ชัดว่าไม่คู่ควรที่จะซื้อ หากดูคนคนหนึ่งน่าสงสาร ไม่ว่าอีกฝ่ายจะดีหรือเลว ก็ให้ความช่วยเหลืออย่างไม่มีข้อแม้ กระทั่งช่วยเหลือมากจากเดิม ถือเป็นน้ำใจที่ล้นเหลือ เหมาะที่จะเป็นพระแม่มารีย์ ไม่เหมาะที่จะเป็นคู่ครองที่ดี” เจ๋อหลานแกะผลไม้แห้งไปด้วย พูดอธิบายอย่างใจเย็นไปด้วย
เหลิ่งหมิงหยู่เข้าใจขึ้นมาในทันใด แล้วก็ถามขึ้นอย่างแปลกใจว่า “แต่เขามีเงินอย่างมากมาย ผลไม้แห้งแค่ หกสิบเหวินก็ไม่ยอมจ่าย ไม่ถือว่าเป็นการไม่มีน้ำใจเลยหรือ คนแบบนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นคนดีอะไร”