บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1807 ความยากระดับนรก
“หนิงหงเจา ต่อให้เจ้าซื่อตรงเป็นสุภาพบุรุษแค่ไหน อย่างไรก็ต้องตกอยู่ในกำมือของข้า วันนี้ข้าจะล้างแค้นเรื่องที่เจ้าบังอาจไล่ตะเพิดข้าเมื่อครั้งก่อน!”
คุณหนูคนนั้นเข้ามาในห้อง หลังจากยืนยันได้ว่าคนที่กำลังนอนอยู่บนเตียง ถูกห่มคลุมด้วยผ้าห่มนั้นเป็นหนิงหงเจาจริง ๆ นางก็เริ่มเปลื้องเสื้อผ้าตัวเองออกอย่างมีความสุข
นางเพิ่งจะถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกไปได้ครึ่งบ่า เผยเรือนร่างงามเย้ายวนน้อย ๆ ก็ได้ยินเสียงสาวใช้ที่หน้าเรือนมารายงานว่า “คุณหนู คนของเราคลาดกับหยู่เหวินเมิ่งเหอ กระทั่งจดหมายก็หายไปด้วยเจ้าค่ะ”
“หมายความว่าอย่างไร?”
“จดหมายของเราส่งไปไม่ถึง เช่นนั้นหยู่เหวินเมิ่งเหอก็จะไม่มาที่นี่แล้ว คุณหนู เราจะทำอย่างไรกับหนิงหงเจาผู้นี้ดีเจ้าคะ?”
คุณหนูคนนั้นหันกลับมามองหนิงหงเจาอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ กัดฟันพูดว่า “ทำตามแผนเดิม”
“แต่ว่าคุณหนู ข้างกายฝั่งหยู่เหวินเมิ่งเหอดูเหมือนจะ….”
“ปัง!”
หลังจากปิดประตู คุณหนูคนนั้นก็แค่นเสียงเย็นชา แล้วสาละวนถอดเสื้อผ้าออกต่อไป “อย่ามาขวางทางเรื่องดีงามของข้า ข้าเลี่ยวหงจวงสวยที่สุดในหมู่บ้านบนหุบเขา ผู้ชายกี่คนต่อกี่คน ต้องก้มลงกราบกรานใต้ชายกระโปรงข้า แทบอดรนทนไม่ไหวพร้อมจะแลกชีวิตตัวเองเพื่อให้ได้รับความโปรดปรานจากข้า ข้าไม่เชื่อหรอกว่าหลังจากที่เขาได้ลิ้มรสของข้าแล้ว จะยังสนใจนางผู้หญิงผมเหลืองคนนั้นอยู่!”
สาวใช้ลังเลอึกอักอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ถอยออกไป
“นางช่างมั่นใจในตัวเองเสียจริงนะ ” อานจือหน้าแดงก่ำ มือกำเป็นหมัดแน่น แทบอดใจไม่ไหว อยากจะลงไปต่อยหน้าเรียกสตินางสักหลาย ๆ หมัด
เจ๋อหลานกดกำปั้นของนางลงไปอย่างเงียบ ๆ กระซิบว่า “พี่สาว อย่าได้ร้อนรนไป มีโอกาสให้เจ้าได้ต่อยหน้านางแน่นอน”
นางเองก็ยังรู้สึกเลยว่าเลี่ยวหงจวงผู้นี้ออกจะมั่นใจในตัวเองเกินไปหน่อยจริง ๆ คงจะยังไม่เคยเห็นพี่อานจือล่ะสิ
แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องร้ายอยู่สักหน่อย คุณชายหนิงคนนี้ก็ไม่เคยเห็นพี่อานจือมาก่อนเหมือนกัน หากเขาเกิดหลงใหลไปกับแผนสาวงามพลีกายของแม่นี่ขึ้นมาจริง ๆ … เช่นนั้นก็ต้องสมน้ำหน้าเขาแล้ว ที่ต้องพลาดโอกาสเคียงคู่กับพี่อานจือไป!
อานจือขมวดคิ้วนิ่วหน้า นางไม่เข้าใจเลย ถ้าตอนนี้ไม่รีบลงมือ หรือจะต้องรอจนกว่าผู้หญิงหน้าด้านคนนี้จะลงมือก่อนอย่างนั้นรึ?
แต่ที่ผ่านมา น้องสาวพูดถูกเสมอ นางจึงพยายามระงับความโกรธ เฝ้ารอความเปลี่ยนแปลง
ความสนใจของเลี่ยวหงจวงอยู่ที่หนิงหงเจา เป็นธรรมดาที่นางย่อมไม่ทันสังเกตเห็นสาวน้อยน่ารักทั้งสองที่ซ่อนตัวอยู่ด้านบนอย่างมีเจตนาแฝงเร้น
นางรู้ข่าวแล้วว่าอานจือจะไม่มาที่นี่แล้ว ความเร็วของนางจึงชะลอลง ราวกับว่านางกำลังเพลิดเพลินกับขั้นตอนเหล่านี้ที่มันดำเนินไป
เสื้อคลุมร่วงลงบนพื้น เสื้อตัวในปิดคลุมตัวอยู่ นางเดินเท้าเปล่าไปที่ข้างโต๊ะ แล้วจุดธูปหอม กลิ่นหอมแปลก ๆ ลอยอ้อยอิ่งขึ้นมา แล้วกระจายไปทั่วห้องอย่างรวดเร็ว
จากนั้นนางก็ดึงสายรัดเอวออก สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เฮือกหนึ่ง พึมพำอย่างลำพองใจ “กลิ่นหอมนี้ถ้ารวมเข้ากับยาในร่างกายของเจ้า แม้แต่คนตายก็ยังทนไม่ได้ แต่ข้าไม่รีบร้อน รอให้เจ้าเป็นฝ่ายเริ่มจู่โจมเองแล้วกัน ฮ่า ๆ ”
อานจืออยากจะลงไป แต่ตอนนี้แม่ผู้หญิงมากความมั่นใจคนนี้จุดกลิ่นหอมแปลก ๆ ขึ้นมาแล้ว อีกทั้งพอได้เห็นผิวที่เดิมทีเป็นสีขาวของนาง ค่อย ๆ กลายเป็นสีชมพู ก็รู้ได้ทันทีว่ากลิ่นหอมนี้มีฤทธิ์แรงมาก
นางไม่มีวิธีทำลายฤทธิ์ของเครื่องหอมชนิดนี้ได้ จึงทำได้แค่กังวลใจอยู่ด้านบนต่อไปเท่านั้น
แม้แต่เจ๋อหลานก็ยังขมวดคิ้วอย่างกังวลขึ้นมาแล้ว
เดิมทีนี่เป็นแค่การทดสอบธรรมดา แต่หลังจากที่จุดเครื่องหอมนั่นแล้ว มันก็กลายเป็นความยากลำบากระดับขุมนรกขึ้นมาทันที
ถ้านางลงมือ การทดสอบก่อนหน้านี้ก็จะไม่มีผลลัพธ์อะไรออกมาให้เห็น แต่ถ้าไม่ลงมือล่ะก็ ดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่กลหญิงงามอย่างเดียวเสียแล้ว
ช่างเถอะ อย่างไรก็ชิงลงมือเลยแล้วกัน
ในเวลานี้เอง หนิงหงเจาที่อยู่บนเตียง เหมือนว่าจะเริ่มมีการเคลื่อนไหว
เลี่ยวหงจวงที่กำลังนึกกระหยิ่ม เฝ้ารอคอยอย่างใจจดใจจ่อ ไม่ทันคาดคิดว่าจู่ ๆ ภาพตรงหน้าจะมืด
ลงอย่างกะทันหัน ทั้งตัวถูกห่อคลุมด้วยผ้าห่ม รอจนนางมีปฏิกิริยาตอบสนอง ก็ถูกโยนขึ้นไป
นอนอยู่บนเตียงแล้ว และคนที่ลงมือ ก็คือหนิงหงเจาที่สมควรจะนอนอยู่บนเตียงนี้นั่นเอง
นางรู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งเคลื่อนไหวไปมาผ่านผ้าห่มซึ่งห่มคลุมตัวนางอยู่ ทำให้เลือดของนางพุ่ง
พล่าน ห้องนี้ทั้งห้องก็มีแค่พวกเขาสองคนเท่านั้น แปลว่ามันก็ต้องเป็นมือของหนิงหงเจาแน่แล้ว!
“หนิงหลาง จะทำเป็นหยอกเย้าไปมาผ่านผ้าห่มไปทำไมกัน ดึงผ้าห่มออกแล้วมาสนุกกันเถอะน่า” นางทั้งแสนยินดี แสนจะมีความสุข ก่อนหน้านี้นางเคยยั่วเย้าให้ท่าหนิงหงเจาสองครั้ง แต่เจ้าหนูนี่ไม่เคยแสดงสีหน้าดี ๆ ให้นางเลยสักครั้ง ผลสุดท้าย นี่ไม่ใช่ว่าร้อนรนจนเป็นลิงติดสัดเลยหรอกรึ
แต่เพียงไม่นาน นางก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ
นางขยับตัวไม่ได้แล้ว
เดิมทีในตอนแรก นางรู้สึกว่าร่างกายเริ่มทนไม่ไหวจึงคิดจะขยับตัว แต่กลับพบว่าตนเองขยับไม่ได้แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการดึงผ้าห่มบนหัวออก เพื่อจะดูหน้าของหนิงหงเจาเลย
นั่นแปลว่าสิ่งที่เคลื่อนไหวไป ๆ มา ๆ บนตัวนาง ไม่ใช่มือของหนิงหงเจา แต่เป็นเชือก นางถูกมัดจนดิ้นไม่หลุดเสียแล้ว!
เลี่ยวหงจวงตื่นตระหนกขึ้นมาแล้ว นางพยายามดิ้นรนอย่างหนักให้ตัวเองหลุดพ้น “หนิงหงเจาเป็นเจ้าสินะ? นี่เจ้าทำอะไรน่ะ ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ!”