บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1820 ตอนนี้ท่านมีอะไรที่อยากทำหรือไม่
- Home
- บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์
- บทที่ 1820 ตอนนี้ท่านมีอะไรที่อยากทำหรือไม่
“ข้าสบายดี” เวลานี้เองนางถึงค่อยมองมาที่เจ้าห้า จ้องที่มือของเขา มือของเขาจับมือของนางไว้แน่น ความรู้สึกกังวลที่ส่งผ่านมาถึง ความสงสัย ความรู้สึกเหล่านั้นนางสามารถรับรู้ได้ทั้งหมด
นางเห็นหนอนน้ำแข็งในเลือดของเขา หรือก็คือผงฝุ่นจิตวิญญาณที่พระชายาจิ้งพูดถึง นางยังถึงขั้นมองเห็นการเคลื่อนไหวของหนอนน้ำแข็ง ผลของการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง คือในร่างกายล้วนเต็มไปด้วยผงฝุ่นจิตวิญญาณชนิดนี้ จนสุดท้ายแล้ว ไม่แน่ว่าร่างของเจ้าห้าอาจถูกยึดครองโดยผงฝุ่นจิตวิญญาณ
นี่อาจเป็นผลสืบเนื่องที่จะเกิดตามมาภายหลัง ดังที่พระชายาจิ้งได้ว่าไว้
นางยังเห็นผลของยา LR ในร่างกายของเขา ที่กลืนกินเซลล์เสื่อมสภาพ ในขณะเดียวกันก็กลืนกินเศษผงฝุ่นจิตวิญญาณเสี้ยวเล็ก ๆ ไปด้วย แต่เพราะความเร็วของการกลืนกิน ไม่ได้รวดเร็วเท่ากับความเร็วในการขยายพันธุ์ ซึ่งนี่เองเป็นเหตุผลว่าทำไมพระชายาจิ้งถึงบอกว่าต้องฉีด LR อีกครั้ง เพราะถ้าจะทำให้ผงฝุ่นจิตวิญญาณในร่างเกิดความสมดุล จำเป็นต้องฉีดยาอีกครั้ง
“หยวน เจ้าไม่เป็นไรจริง ๆ น่ะรึ?” หยู่เหวินเห้าถามขึ้นอีกครั้งด้วยความเป็นห่วง
“เจ้าห้า เจ้าจำเป็นต้องฉีดยา” หยวนชิงหลิงลูบไล้ใบหน้าของเขาเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ฉีดอีกเข็มเดียวก็ไม่เป็นไรแล้ว”
หยู่เหวินเห้ามองนางอย่างสับสนงงงัน “หา?”
เป็นไปอย่างที่พระชายาจิ้งว่าไว้จริง ๆ หลังจากที่เจ้าหยวนกินยาเข้าไป ก็เห็นด้วยที่จะให้เขาฉีดยาทันที นี่คงไม่ได้ถูกสะกดจิตเข้าแล้วหรอกนะ?
“ข้าไม่ได้ถูกสะกดจิตหรอก” หยวนชิงหลิงหัวเราะ “เจ้าห้า ฟังที่พระชายาจิ้งพูดเถอะ”
หยู่เหวินเห้าตกตะลึงจนปากอ้าตาค้าง เขาไม่ได้พูดออกมานะ แค่คิดในใจเท่านั้นเอง
รอยยิ้มซุกซนของหยวนชิงหลิง ส่งผลให้หยู่เหวินเห้ายิ่งสับสนงงงันหนักขึ้นกว่าเดิมแล้ว
แต่เขาก็ยังเชื่อฟัง ปล่อยให้เจ้าหยวนฉีดยาให้เขาแต่โดยดี
เดิมคิดว่าอาจจะสลบไปเหมือนครั้งแรก แต่คิดไม่ถึงว่า จะไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใด ๆ เลย
แต่เจ้าหยวนยังคงมองเขาอยู่ตลอดเวลา มองขึ้น ๆ ลง ๆ ราวกับว่านางรู้สึกพอใจมาก
“เจ้าหยวน มีปัญหาอะไรหรือไม่?” หยู่เหวินเห้าถูกนางจ้องมองเสียจนเริ่มจะรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนขึ้นมาแล้ว
“ดีมาก!” หยวนชิงหลิงยื่นมือออกไปกอดเขาอย่างมีความสุข “นี่แหล่ะ ถึงจะนับว่าเป็นวิธีแก้ไขปัญหาเรื่องผลสืบเนื่องที่จะตามมาของยานี้ได้อย่างแท้จริง”
“แล้วจิ่งเทียนล่ะ? เขาใช้ยานี้ด้วยได้หรือไม่?” หยู่เหวินเห้าลังเลอยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกว่าเขาสมควรจะถามแทนจิ่งเทียนสักหน่อย แต่ไม่ใช่เพราะเป็นห่วงหรอกนะ ก็แค่เห็นว่าป่วยด้วยอาการเดียวกันก็เท่านั้นเอง
“ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะพิจารณาดูอีกที” หยวนชิงหลิงตอบ
ยังต้องพิจารณาด้วย? ไม่ใช่ว่าเป็นหนอนน้ำแข็งแบบเดียวกันหรอกหรือ?
“ไม่ใช่….” หยวนชิงหลิงชะงักไปครู่หนึ่ง ตระหนักขึ้นมาได้ว่านี่คือการอ่านใจ แต่นางไม่ชอบทำแบบนี้ โชคยังดีที่นางสามารถควบคุมมันได้อย่างอิสระ จนไม่ไปอ่านความคิดของเขาและคนอื่น ๆ
“ไม่ใช่อะไร?” หยู่เหวินเห้าถาม
“ข้าคิดจะพูดว่าระหว่างเจ้ากับจิ่งเทียน ไม่ใช่ว่ามีอาการป่วยแบบเดียวกัน แต่บางทียานี้ก็อาจจะช่วยเขาได้”
พระชายาจิ้งยืนมองนางอยู่ข้าง ๆ ดูจากแววตาที่ฉายออกมาก็พอจะมองออกได้ว่า สารยับยั้งในร่างได้สลายไปแล้ว
หยวนชิงหลิงก็หันมามองนาง ยิ้มอย่างรู้ทันกัน สำหรับคำร้องขอความช่วยเหลือจากพระชายาจิ้งนั้น ตัวนางเองมีคำตอบอยู่ในใจเรียบร้อยแล้ว
หลายวันต่อมา หยวนชิงหลิงได้เปิดโลกทัศน์ รับรู้ มองเห็นและเข้าใจโลกอีกโลกหนึ่ง เรื่องราวอันแปลกประหลาดมหัศจรรย์ ที่ก่อนหน้านี้เคยทำให้นางต้องตกตะลึงอึ้งค้าง แต่มาตอนนี้กลับไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว การพัฒนาของสมอง ทำให้นางได้เห็นความจริงแท้ของโลกใบนี้ รวมไปถึงโลกใบอื่น ๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วน
แท้ที่จริงแล้ว สมองของคนเราได้ซ่อนความลึกลับทั้งมวลของจักรวาลไว้นานมาแล้ว เหมือนกับหน่วยความจำอันทรงพลังอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ แต่มีไฟล์จำนวนมากถูกเข้ารหัสไว้ และต้องใช้รหัสผ่านเพื่อเข้าไปดูมัน แล้วยาที่นางพัฒนาในตอนเริ่มต้นนั้น ก็คือรหัสผ่าน
ติดอยู่แค่ว่า ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถใช้รหัสผ่านนี้ได้ แม้แต่นางที่อยู่ในฐานะนักพัฒนาคนหนึ่ง จนถึงตอนนี้ ถึงพอจะนับได้ว่าสามารถเปิดรหัสลับนี้ได้อย่างแท้จริง
พระชายาจิ้งถามนางขึ้นมาประโยคหนึ่งว่า “ท่านในตอนนี้มีเรื่องที่สามารถทำได้มากมายหลายอย่างแล้ว ตอนนี้ท่านมีอะไรที่อยากทำเป็นพิเศษหรือไม่?”
การที่พระชายาจิ้งถามเช่นนี้ เพราะแท้จริงแล้วอยากเห็นถึงความทะเยอทะยานของนาง เพราะอย่างไรเสีย สิ่งที่นางรู้ในตอนนี้ก็มีมากมาย เข้าใจกระจ่างก็มาก ควบคุมได้เชี่ยวชาญก็มาก อีกทั้งยังอยู่ในระดับที่สูง เป็นระดับที่สูงเกินกว่าที่ใครในโลกนี้จะเอื้อมคว้ามาได้อีกด้วย
หยวนชิงหลิงยกยิ้มเล็กน้อย “มีสิ มีเรื่องที่ข้าอยากทำอยู่มากมาย แต่ถ้าท่านจะถามข้าว่าตอนนี้ข้าอยากทำอะไร ข้า….ข้าอยากจะเย็บเสื้อผ้าให้ลูกสาวด้วยมือตัวเองสักชุด อันที่จริงฝีมือการใช้เข็มของข้าก็นับว่าไม่เลว แต่น่าเสียดายที่งานด้านการปักเย็บมักทำได้แค่พอไปวัดไปวาเท่านั้น ข้ารู้สึกว่าตอนนี้ ข้าน่าจะปักเย็บได้ดีมากแล้วล่ะ”
พระชายาจิ้งก็ยกยิ้มเช่นกัน เหมือนมีท่าทางวางใจไม่น้อย “ข้ารู้สึกว่าตอนนี้เจ้าจะเย็บปักเสื้อผ้าได้ดีมาก ๆ เลยเชียวล่ะ”