บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1823 ขออภัยด้วยท่านลุงสี่
เจ๋อหลานเห็นท่าทีตื่นเต้นของเขา จึงหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่มีธุระอะไร ก่อนหน้านี้เจ้าเขียนจดหมายบอกว่าถนนการค้าของเมืองเหลียงโจว สร้างเสร็จแล้ว ข้าจึงพาน้องมาเที่ยวหาเจ้าหลายวัน”
“ดี งั้นข้าให้คนไปจัดเลี้ยงห้อง” จิ่งเทียนรีบลุกขึ้นมา เรียกเซินกงกงเข้ามา ให้เขาพาคนไปเตรียมห้องด้านข้างติดกันสองห้อง
ทั้งสามคนนั่งคุยกันอยู่สักพัก เซินกงกงก็มารายงานว่าจัดเตรียมห้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เจ๋อหลานลุกขึ้นมาพร้อมพูดขึ้นว่า วันนี้เดินทางมากับน้องชายค่อนข้างเหนื่อย อยากพักผ่อนแล้ว
พวกเขามาอย่างกะทันหัน ใช้เวลาของจิ่งเทียนไปไม่น้อยแล้ว พรุ่งนี้ยังจะให้จิ่งเทียนพาออกไปเที่ยว หากวันนี้คุยกันถึงดึก จิ่งเทียนก็จะต้องอ่านฎีกาไปอีกยิ่งดึก แบบนี้ไม่ดี ไม่ต้องเร่งรีบ
“งั้นดี พักผ่อนเช้าๆ พรุ่งนี้ข้าพาพวกเจ้าออกไปเที่ยว”
จิ่งเทียนส่งพวกเขามาถึงหน้าห้องด้วยตนเอง ทั้งสามคนนัดกันไว้ว่าพรุ่งนี้ หลังจากจิ่งเทียนที่ว่าราชการเช้าเสร็จแล้ว จะไปหาท่านอาจารย์ก่อน จากนั้นค่อยไปเดินเที่ยวถนนการค้า
หลังจากร่ำลากันแล้ว เจ๋อหลานล้างหน้าล้างตาเสร็จเพิ่งนอนลงบนเตียง ก็ได้ยินเสียงพ่อร้องเรียกว่า “กวาเอ๋อร์“
เจ๋อหลานตื่นตัวขึ้นมาในทันที พลิกตัวลุกขึ้นมานั่ง พร้อมถามขึ้นอย่างตกตะลึงว่า “ท่านพ่อ?”
แล้วก็เป็นอย่างที่คิด เสียงตื่นเต้นดีใจของหยู่เหวินเห้า ดังขึ้นมาอย่างรวดเร็วว่า “กวาเอ๋อร์ทานข้าวเย็นหรือยัง? ทานอะไรบ้าง?”
“ท่านพ่อ ข้าทานแล้ว แม่นางโจวต้มเกี๊ยวหมูผักกาดขาว อร่อยด้วย” เจ๋อหลานกลั้นลมหายใจ ถามขึ้นอย่างเงียบๆว่า “ท่านพ่อ ท่านกับแม่ไปบ้านคุณตาคุณยายไปอยู่เป็นเพื่อนพี่ชายสี่พี่ชายห้าสอบไม่ใช่หรือ? พวกพี่ชายสอบเสร็จแล้วหรือ?”
“สอบเสร็จแล้วๆ พวกพี่ชายของเจ้าสืบทอดยีนที่ยอดเยี่ยมของพ่อ เรื่องสอบเข้ามหาวิทยาลัยเรื่องเล็กแค่นี้ง่ายเหมือนกับการประพรมน้ำสำหรับพวกเขา” หยู่เหวินเห้าพูดขึ้นอย่างได้ใจ
เจ๋อหลานกอดผ้าห่มไว้ คิดถึงท่าทีที่ได้ใจของพ่อ แล้วก็หัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “ใช่ พวกพี่ชายฉลาดเหมือนอย่างพ่อ ใช่ ก่อนหน้านี้พ่อบอกว่าจะอยู่เป็นเพื่อนพวกพี่ชายสักระยะหนึ่งไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงกลับมาเร็วขนาดนี้ล่ะ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
“ไม่มีอะไร เพื่อนซี้ของแม่เจ้ามาที่บ้านของเรา พวกเราจึงกลับมา พวกเขาเพิ่งกลับไปเมื่อวาน เดิมพ่อเอาของขวัญกลับมาให้เจ้าเยอะมาก พวกพี่ชายคุณลุงกับคุณตาคุณยาย พวกเสด็จปู่ทวดปู่สิบแปดปู่ห้าคุณปู่โพ่ตี้อวี้ของเจ้า ต่างเอาไปแล้ว วันนี้คิดว่าจะไปหาเจ้า แต่เกิดเรื่องนิดหน่อย ตอนนี้มีฎีกาสะสมอยู่เป็นกอง พ่อจึงยังไปหาไม่ได้ นี่ก็เพิ่งตรวจเสร็จไปกองเดียว”
“อ้อ น่าเสียดายจังเลย แต่ว่าไม่เป็นไร ท่านพ่อ รอข้ายุ่งงานช่วงนี้เสร็จแล้วจะกลับไปหาพ่อกับแม่ พ่อต้องดูแลสุขภาพให้ดีอย่าเหน็ดเหนื่อยจนเกินไป” เจ๋อหลานแอบโล่งใจ คิดคำนวณยังไงก็คิดไม่ถึงว่าพ่อกับแม่กลับมาแล้ว ตกใจจนเหงื่อท่วมตัว
หยู่เหวินเห้าคิดขึ้นมาได้อย่างเฉลียวฉลาด พร้อมถามขึ้นว่า “ช่วงนี้กวาเอ๋อร์กำลังยุ่งอะไรอยู่หรือ?”
“พี่สาวอานจือกำลังจะต้องแต่งงานแล้ว ช่วงนี้ข้าก็ไหลไปอยู่เป็นเพื่อนนาง วันนี้เพิ่งกลับเมืองโร่ตู จึงมีงานกองสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก แม่นางโจวบอกว่าหากข้าทำงานไม่เสร็จจะไม่ให้ข้าออกไปไหนอีก” เจ๋อหลาน อธิบายขึ้นอย่างใจเย็น
สองพ่อลูกน่าสงสารเหมือนกัน หยู่เหวินเห้าพูดขึ้นอย่างเป็นห่วงไม่กี่ประโยค แล้วก็ถามขึ้นว่า “อ้อ อานจือบ้านเจ้าสี่หรือ อายุเพิ่งเท่าไหร่เองก็จะแต่งงานแล้วหรือ?”
“ท่านลุงสี่ไม่ค่อยเห็นด้วย ยังคงคุยกันอยู่ แต่ว่าไม่นานเขาก็น่าจะยอมตกลงแล้ว หลายวันก่อนท่านลุงสี่ประลองฝีมือการต่อสู้กับคนที่มาสู่ขอคนนั้น ทั้งคู่หล่นตกลงมาจากบนหลังคา ยังได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย” ขออภัยด้วยท่านลุงสี่ เบี่ยงเบนเรื่องพูดต้องพึ่งพาท่านแล้ว
และแล้ว เมื่อเพิ่งพูดเสร็จ ข้างหูก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังลั่นของหยู่เหวินเห้า พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าหยวนๆ วางผ้าขนสัตว์ลงก่อน เจ้าฟังข้านะ น่าขำมาก น่าขำมากจริงๆ ข้าจะบอกเจ้า เจ้าสี่ประลองฝีมือกับคนหนุ่ม จนตกลงมาจากหลังคา นี่เป็นการประลองหรือเป็นการรื้อบ้าน ฮ่าๆๆ เจ้าสี่ก็มีวันนี้กับเขาด้วย ฮ่าๆๆ”
“….พ่อ แม่นางโจวเรียกหาข้าแล้ว ข้าออกไปก่อนนะ ครั้งหน้าค่อยคุยกันใหม่” เจ๋อหลานคิดถึงภาพที่แม่ไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี จึงบอกลาพ่ออย่างรู้สึกผิด
“ได้ได้ กวาเอ๋อร์ อากาศยิ่งอยู่ก็ยิ่งหนาวแล้ว เจ้าสวมใส่เสื้อผ้าหนาหน่อย ข้าจะให้คนเอายารักษาบาดแผลไปให้ท่านลุงสี่ของเจ้าเยอะๆหน่อย ฮ่าๆฮ่าๆฮ่าๆ ไม่ได้ยารักษาภายในก็ต้องส่งไปบ้าง ฮ่าๆฮ่า” หยู่เหวินเห้า บร็อไปด้วยร่ำลาเจ๋อหลานไปด้วย
มั่นใจว่าพ่อไม่ได้ติดต่อหาตนเองอีกแล้ว เจ๋อหลานค่อยโล่งอก ยังไงแผนการก็ตามความเปลี่ยนแปลงไม่ทัน พ่อกับแม่กลับมารวดเร็วมากเลย
เห็นทีแผนการต้องขยับเข้ามาแล้ว ไม่งั้นหากพ่อรู้เข้า ก็จะไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว