บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1824 พรุ่งนี้ก็จะกลับแล้ว
หลังจากคุยทางไกลกับพ่อเสร็จแล้ว เจ๋อหลานแอบบอกกับแม่ว่าตนพาน้องชายมาเที่ยวหาจิ่งเทียนหลายวัน ยังไงเรื่องแบบนี้ ปิดบังพ่อได้แต่ปิดบังแม่ไม่ได้
นางรักพ่อมาก แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบกับการที่นางจะมีความลับเป็นของตนเอง แม่เคยบอกไว้ นางสามารถเอาแต่ใจได้บ้าง
แล้วก็เป็นอย่างที่คิด แม่รู้แต่แรกแล้ว ยังให้นางช่วยทักทายจิ่งเทียนให้ด้วย บอกว่ารอสักพัก จะมาหาเขาเพื่อคุยเรื่องหนอนน้ำแข็ง ให้พวกเขาเที่ยวเล่นอย่างสนุก
หลังจากบอกแม่เรียบร้อยแล้ว เจ๋อหลานเที่ยวเล่นอยู่เมืองเหลียงโจวอย่างบ้าคลั่งห้าวัน
ภายใต้การไม่ส่งผลกระทบต่องานจิ่งเทียน ซึ่งจิ่งเทียนพานางกับน้องชายไปเที่ยวทานอาหารที่นี่จนทั่ว คืนนี้ยังดูโคมลอยที่ตลาดกลางคืนของถนนการค้า
ถนนการค้าของเมืองเหลียงโจวกับเมืองโร่ตูที่แตกต่างกันคือ ถนนการค้าของเมืองเหลียงโจวใหญ่มาก จิ่งเทียนตั้งใจแบ่งถนนการค้าออกเป็นสั่งฝั่ง เอาไว้สำหรับการแสดงกายกรรมที่หลากหลาย ผู้จำหน่ายเกมและการแสดงบนเวทีโดยเฉพาะ ประชาชนพ้นทุกข์ทั้งใกล้และไกล ยังมีผู้คนมากมายที่มาจากเมืองอื่นเพื่อมาเที่ยวเล่นหรือมาหาเงิน ดังนั้นตลาดกลางคืนที่นี่ก็คึกคักมากเช่นกัน ทุกๆวันราวกับเป็นวันเทศกาล ในทางกลับกัน ยังเป็นการส่งเสริมความสามัคคีของประเทศ
จิ่งเทียนเก่งมากจริงๆ ภายใต้การปกครองของเขา แคว้นจินพัฒนาอย่างรวดเร็ว
และนางคิดว่า พวกเขายังสามารถสร้างสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียงถนนการค้าได้ด้วย ถึงตอนนั้นนอกจากประชาชนจะได้ค้าขายทำธุรกิจกับพ่อค้าแล้วยังได้แลกเปลี่ยนหมุนเวียนกันด้วย ยังสามารถดึงดูดผู้คนจากประเทศอื่นๆ ได้มากขึ้น เพิ่มพูนเศรษฐกิจซึ่งกันและกัน
แต่คืนนี้มาเพื่อเที่ยว ไม่ควรที่จะคิดถึงเรื่องพวกนี้ เอาเรื่องเที่ยวเป็นหลัก หลังจากเที่ยวเล่นเสร็จแล้วค่อยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน
ทั้งสามคนพูดคุยกันไปด้วยเล่นเกมตามร้านต่างๆจนทั่วไปด้วย จิ่งเทียนยังปาลูกดอกลงเบ้าจนชนะได้โคมไฟปลาคราฟขนาดเล็กมาให้เจ๋อหลานอันหนึ่ง ไขปริศนาตะเกียงชนะได้มนุษย์น้ำตาลในร่างนักดาบมาให้หมิงหยู่ โยนห่วงได้กาน้ำชาแกะสลักกับแก้วน้ำเล็กๆรูปทรงแปลกๆ
จิ่งเทียนไม่เคยเที่ยวเล่นอย่างสนุกสนานเช่นนี้มาก่อน ห้าวันนี้เป็นห้าวันที่เขามีความที่สุด
เซินกงกงที่แต่งตัวเป็นคนธรรมดามองดูทั้งสามคนอยู่ด้านหลังไกลๆ ตื่นเต้นจนน้ำตาไหล จับแขนเสื้อราชที่ปลอมตัวเป็นประชาชนเหมือนกัน พร้อมพูดขึ้นอย่างสะอึกสะอื้นว่า “ดีมากเลย ดีที่สุดเลย สามารถได้เห็นเจ้านายมีความสุขขนาดนี้ บ่าวไม่มีอะไรเสียใจแล้ว”
หมิงหยู่ที่ได้มนุษย์น้ำตาลมา ก็ดีใจอย่างที่สุด ใช้เงินที่ตนได้มาจากการชนะยิงธนูไปซื้อเกาลัดมาเลี้ยงพี่สาวกับจิ่งเทียน
เจ๋อหลานให้เจ้าของร้านช่วยแบ่งเป็นสามถุง ทั้งสามคนถือเกาลัดคนละถุงแล้วก็ไปดูละครตรงสุดถนน
ดูละครเสร็จออกมาก็ค่ำมากแล้ว แผงขายอาหารด้านนอกต้อนรับแขกอย่างอบอุ่น ทั้งสามคนกินเกี๊ยวชามใหญ่คนละชาม ในที่สุดก็กลับวังอย่างอิ่มใจ
กลับมาถึงวัง เซินกงกงที่กลับมาถึงก่อน ยกน้ำชาช่วยย่อยอาหารมาให้ทั้งสามคน
จิ่งเทียนเอากาน้ำชาแกะสลักให้เขา ถึงแม้ฝีมือจะธรรมดา วัสดุก็ไม่ดี แต่เซินกงกงก็รักมาก หลังจากขอบพระทัยแล้วก็หอบไว้ตลอด พูดพร้อมทั้งน้ำตาว่าจะเอาลงดินไปด้วยในอนาคต ไม่เพียงเขา ราชองครักษ์และขันทีน้อยที่ได้รับถ้วยรูปทรงแปลก ๆ ก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่ใช่ของมีค่า การใช้งานจริงก็ยังต้องดูก่อน แต่ทั้งหมดนี้ พวกเขามองเห็นฮ่องเต้ของพวกเขาโยนห่วงที่ถนนการค้ากับมือตนเองด้วยตาของพวกเขาเอง และก็ได้กันทุกคนไม่แพ้ใคร จึงมีความหมายอย่างมากมาย
วางถ้วยชาลง เจ๋อหลานเอาถุงหอมที่ได้มาจากไขปริศนาตะเกียงให้จิ่งเทียน พร้อมพูดขึ้นว่า “ทุกคนต่างมีของขวัญแล้ว ของเจ้าก็ต้องมีเหมือนกัน”
“เจ้าได้มาตั้งแต่เมื่อไหร่?” จิ่งเทียนคิดไม่ถึงเลยว่ายังจะมีสิ่งพิเศษรอตนเองอยู่ รีบกลับมาพร้อมพูดขึ้นว่า “เป็นถุงหอมหลายดอกกล้วยไม้ด้วย ของขวัญชิ้นนี้ข้าชอบอย่างที่สุด”
“ตอนที่เจ้ากับหมิงหยู่รอมนุษย์น้ำตาล” เจ๋อหลานยิ้มหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “ใช่ พรุ่งนี้ข้ากับน้องจะกลับแล้ว”
“อ๋าๆ จะกลับเร็วขนาดนี้เลยหรือ?” จิ่งเทียนจับถุงหอมไว้แน่น ความตื่นเต้นดีใจหายลับไปอย่างมาก และสีหน้าก็ดูเยือกเย็นลงอย่างรวดเร็ว แต่เจ๋อหลานมาเที่ยวเล่นได้หลายวันขนาดนี้ ก็ถือเป็นสิ่งพิเศษที่สุดสำหรับเขาแล้ว ดังนั้นเขาจะแสดงท่าทีเสียใจอย่างชัดเจนไม่ได้
เจ๋อหลานพูดอธิบายว่า “ไม่ได้กลับไป แต่มีสถานที่หนึ่งที่ข้าต้องไป”
“ที่ไหนหรือ?” จิ่งเทียนแปลกใจ ยังมีสถานที่ไหนที่เจ๋อหลานต้องไป?
เจ๋อหลานพูดขึ้นว่า “เป่ยโม่ ภูเขาพีลี่ แหล่งกบดานเหลยถิง”