บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1825 ไปดูโลกภายนอก
เหตุผลที่เจ๋อหลานจะไปแหล่งกบดานเหลยถิงนั้นง่ายมาก
อย่างแรกเพราะโจรพวกนี้ได้ทำร้ายญาติของนางมาสองครั้งติดต่อกันแล้ว ท่านอาจารย์บอกว่ามาแล้วไม่ตอบกลับเป็นการเสียมารยาท การไปให้ของขวัญถึงที่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก
อย่างที่สองเพราะภูเขาพีลี่ที่แหล่งกบดานเหลยถิงอาศัยอยู่ เป็นภูมิประเทศที่ยากลำบากต่อการต่อสู้ และอยู่บริเวณชายแดนเป่ยถังแคว้นจินกับเป่ยโม่สามประเทศ แต่แหล่งกบดานเหลยถิงเห็นแก่เงินไม่แก่คน ไม่ยอมรับการปกครองจากเป่ยโม่ สำหรับเป่ยโม่ ถือเป็นปัญหาที่น่าปวดหัว และก็อาจจะเป็นสาเหตุที่เป่ยโม่จ่ายเงินสั่งให้พวกเขาทำงาน เพราะเป่ยโม่ไม่มีทางยอมรับว่าตนเองจ่ายเงินเพื่อสร้างเรื่อง หากแหล่งกบดานเหลยถิงสร้างความเสียหายให้กับเป่ยถัง เป่ยถังส่งทหารมากำจัด เป่ยโม่ไม่เพียงได้รับประโยชน์โดยไม่ต้องทำอะไร ยังสามารถถือโอกาสส่งทหารมาช่วย สำหรับพวกเขาจึงมีแต่ประโยชน์ไม่มีผลร้าย
ด้วยสองเหตุผลนี้ เจ๋อหลานจึงให้ความสนใจแหล่งกบดานเหลยถิง เป่ยโม่ยุ่งไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่านางจะยุ่งไม่ได้ หากสามารถยึดครอบครองภูเขาพีลี่ได้ สำหรับเป่ยถังกับแคว้นจิน ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุด
จิ่งเทียนได้ยินว่านางจะไป ในใจก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง จึงถามขึ้นว่า “เจ้าวางแผนที่จะพาน้องหมิงหยู่ไปด้วยแค่นั้นหรือ?”
“ใช่ แค่ไปทำลายรังโจร” ในทางด้านนี้เจ๋อหลานมีประสบการณ์อย่างมาก
เจ๋อหลานพูดออกมาได้อย่างง่ายดาย จิ่งเทียน ยังคงไม่วางใจและนางก็เป็นคนที่มีความคิดเป็นของตนเองเป็นเด็กผู้หญิงที่มีความสามารถหากเรื่องอะไรที่ตัดสินใจแล้วก็จะต้องไปทำให้ได้
เขาอยากตามไปอย่างไม่คิดอะไร แต่สถานะของเขาไม่สามารถที่จะทำอะไรอย่างเอาแต่ใจได้
จิ่งเทียนนิ่งเงียบ ถูกถุงหอมไปมาด้วยท่าทีเคร่งขรึม
ที่แหล่งกบดานเหลยถิงเป็นสถานที่อะไร เป็นที่ชุมนุมของกลุ่มโจรภูเขาดุร้าย อันตรายอย่างที่สุด
เขารู้ว่าเจ๋อหลานมีประสบการณ์ แต่ถ้าหาก เขาคิดว่าหากตนเองไม่ได้ไปด้วย เพียงแค่คิดแค่นี้ ความเสียใจก็ปลุกคลุมไปทั่วร่าง ราวกับจะกลืนกินเขา จนหายใจไม่ออก
ไม่มีคำว่าถ้าหาก เขาทำไม่ได้
“เจ๋อหลาน” จิ่งเทียนพูดขึ้นว่า “เจ้ารีบไปไหม?”
เจ๋อหลานคิดดูแล้ว พ่อน่าจะไม่เสร็จงานเร็วขนาดนั้น จึงพูดขึ้นว่า “น่าจะช้าหน่อยได้ ทำไมหรือ?”
จิ่งเทียนโล่งอก ยิ้มอย่างอ่อนโยนพร้อมพูดขึ้นว่า “รออีกหลายวันได้ไหม จะได้พาข้าไปดูโลกภายนอกด้วย”
“เจ้าก็อยากไป?” เจ๋อหลานอึ้งไปสักพัก จากนั้นก็ยิ้มหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “ได้ งั้นค่ากับน้องชายเล่นต่ออีกหลายวัน เพื่อรอเจ้า”
นางเห็นว่า ตอนนี้แคว้นจินพัฒนาไปจนมั่นคงแล้ว พรรคพวกของอ๋องเจิ่นกั๋วล้วนถูกจิ่งเทียนจัดการหมดแล้ว คนสนิทของจิ่งเทียน ต่างก็ล้วนถูกฝึกฝนมาแล้ว ที่จริงเขาสามารถที่จะได้ปล่อยวางตนเองบ้าง ถือเป็นเรื่องที่สมควร เหมือนอย่างท่านพ่อ
ยิ่งไปกว่านั้น อย่างนี้ท่านอาจารย์ที่คอยช่วยเขาเฝ้าบ้าน
ได้รับคำตอบจากเจ๋อหลานแล้ว ท่าทีเคร่งขรึมของจิ่งเทียน ในที่สุดก็ผ่อนคลายลง
แต่ยังมีงานราชการอีกไม่น้อยที่เขาจะต้องไปจัดการก่อน และแผนการเดินทางในครั้งนี้ การจัดสรรคน ยังมีอัครมหาเสนาบดีหนิง จะต้องให้พวกเขารีบเดินทางกลับมา มีเวลาเตรียมการเพียงไม่กี่วัน ที่จริงถือว่าค่อนข้างเร่งรีบ เขาจะต้องรีบจัดการเสร็จให้เร็วที่สุด ถึงตอนนั้นจะได้ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง จะทำให้เจ๋อหลานเสียใจที่ต้องรอเขาไม่ได้
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาก็รีบลุกขึ้นมาแล้วตรงไปยังห้องพระอักษร พร้อมพูดขึ้นว่า “งั้นข้าจะรีบไปจัดเตรียมการทั้งหมด”
รอเมื่อได้สติกลับมา เขาก็วิ่งกลับมาจับขอบประตูไว้แล้วก็พูดขึ้นว่า “เจ้ากับน้องชายพักผ่อนเช้าหน่อย รอฟังข่าวดีจากข้า”
เจ๋อหลานไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี แค่จะไปทำลายรังโจร ทำไมจิ่งเทียนจะต้องตื่นเต้นขนาดนี้
“พี่สาว ตอนเด็กที่บ้านพี่จิ่งเทียนเข้มงวดเข้มงวดมาก ไม่ให้ออกไปเล่นหรือ? แม้แต่เหลิ่งหมิงหยู่ก็อดไม่ได้ที่จะถามเพื่อนมา ปกติเขาจะไม่สนใจนอกเหนือจากเรื่องของพี่สาว ดังนั้นก่อนหน้านี้จึงไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้จิ่งเทียนไปเจออะไรมาบ้าง
เจ๋อหลานพูดขึ้นว่า “ใช่”
“ตอนที่เขาเป็นเด็กน่าสงสารมาก” เหลิ่งหมิงหยู่มองดูมนุษย์น้ำตาลในกล่อง เขากินไม่ลง พี่จิ่งเทียนช่วยเขาเอาก้อนน้ำแข็งใส่ไว้ที่ด้านล่างของกล่อง มนุษย์น้ำตาลจะได้เก็บไว้ได้นาน
เจ๋อหลานลูบหัวของเขา ยิ้มหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่เป็นไร ต่อไปเวลาพวกเราออกไปเที่ยวก็พาเขาไปด้วย”
“ได้”
จิ่งเทียนไม่รู้ว่าทั้งสองพี่น้องคุยอะไรกัน เขากำลังตั้งใจตั้งหน้าตั้งตาทำงานอยู่
ในที่สุด ผ่านไปสามวัน
สองพ่อลูกตระกูลหนิงกลับมาเข้าเฝ้า ทั้งสามคนก็ขี่ม้าแอบออกจากเมืองไป
เดิมเจ๋อหลานอยากเร่งเดินทางไปถึงโดยเร็ว แต่เห็นว่าจิ่งเทียนเพิ่งผ่านการทำงานมาอย่างหนัก ทั้งสามคนจึงไม่รีบ เดินทางไปด้วยกินไปด้วย
แต่เพิ่งเดินทางไปได้ไม่ไกล หนิงหงเจาก็พาองครักษ์ติดตามมา