บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1839 เลื่อนขั้นแล้ว
ทุกคนต่างเข้าใจ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง
อ๋องฉีมองแม่ทัพหลี่อย่างยิ้มแย้ม พร้อมพูดขึ้นว่า “ฮ่องเต้จะเลื่อนขั้นให้เจ้าเป็นผู้ช่วยของใต้เท้ากู้ ยังไม่ขอบพระทัย?”
แม่ทัพหลี่คุกเข่าลงเสียงดัง พร้อมพูดขึ้นทั้งน้ำตา น้ำเสียงตื่นเต้นสั่นเทาว่า “กระหม่อมจะทำให้ดีที่สุด ปกป้องเมืองหลวง ปกป้องฮ่องเต้ อุทิศตัวเองทั้งหมด แม้ตายก็ไม่หวั่น”
แววตาหยู่เหวินเห้ากวาดมองดูใบหน้าของทุกคน ดูคนอื่น แล้วก็ดูพวกเจ้า? ทำอะไรมากหน่อยก็รู้สึกขุ่นเคือง
ทุกคนก้มหน้าก้มตา ทำเป็นมองไม่เห็น
หยู่เหวินเห้าค่อยยิ้มหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “ลุกขึ้นมาเถอะ ตั้งใจทำงานให้ดี อย่าทำให้ข้าผิดหวัง”
“ไม่แน่นอน เลือดไหลได้ หัวแตกได้ แต่จะไม่ทำให้ฮ่องเต้ผิดหวังเด็ดขาด” เสียงของแม่ทัพหลี่ดังก้องฟังชัด
หยู่เหวินเห้ามองดูพวกเขาอีกครั้ง พวกเขาจึงต่างก็ลุกขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน ยกมือประสานอย่างยิ้มแย้ม พร้อมพูดกับแม่ทัพหลี่ว่า “ยินดีด้วย ยินดีด้วย”
แม่ทัพหลี่รู้สึกเหมือนฝันไป หากไม่กลัวเสียมารยาท ขายหน้าต่อหน้าฮ่องเต้ ทำให้ฮ่องเต้คิดว่าเขาไม่น่าเชื่อถือ เขาอดไม่ได้ที่อยากจะหยิกขาของตนเอง ดูว่ากำลังฝันอยู่หรือเปล่า
แต่ต่อให้กำลังฝัน แล้วได้เจอฮ่องเต้ในฝัน ก็จะเสียมารยาทไม่ได้
หยู่เหวินเห้าประทานสุราให้กับเขา เขาก็ไม่กล้าดื่มเยอะ กลัวเมาแล้วกระทำความเสื่อมเสีย
ก่อนที่จะกลับ หยู่เหวินเห้ายังตามฮูหยินหลี่มาคุย ฮูหยินหลี่คุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยร่างกายแข็งทื่อ ฟันสั่นเทากระทบกัน
“ฮูหยิน ได้ยินว่าในจวนมีแมว เล็บแมวคมมาก มักจะทำให้ใบหน้าของแม่ทัพหลี่ได้รับบาดเจ็บ ต่อไปเขาจะต้องดูแลคนเป็นจำนวนมาก หากบนใบหน้ามักมีรอยข่วนของแมว จะทำให้เสื่อมเสียความน่านับถือ เจ้ากลับไปซื้อกรรไกร ตัดเล็บแมวเสีย จะข่วนก็ได้ แต่อย่าข่วนจนได้รับบาดเจ็บ หรือข่วนตรงที่มองไม่เห็นพวกนั้น เจ้าคิดว่าอย่างไร?”
ฮูหยินหลี่พยายามควบคุมฟันที่สั่นเทา ไม่กล้าแม้แต่ขยิบตา พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าน้อย….ข้าน้อยจะรีบกลับไปซื้อกรรไกร ข้าน้อยขอรับประกัน ต่อไปแมวจะไม่ทักทายใบหน้าของเขาอีกเด็ดขาด”
“ฮูหยินหลี่เด็ดเดี่ยวแน่วแน่จริงๆ ดี” หยู่เหวินเห้าหัวเราะขึ้นมา
ตอนกลางคืนกลับบ้าน พวกเขาสองสามีภรรยานอนอยู่บนเตียง ลืมตาโตมองดูเพดาน
เลือดทั้งกายราวกับรวมกันอยู่บนหัว ใบหูร้อนผ่าว ดึกดื่นมากแล้ว ทำไมถึงไม่ง่วงนอนเลยสักนิด?
“ฮูหยิน เขาก็คือคนที่เขารัก เจ้ายังจะหึงอยู่ไหม?” แม่ทัพหลี่พึมพำถามขึ้น
“ไม่หึงแล้ว จะไม่หึงอีกต่อไปแล้ว ข้าถือพระราชโองการไว้ ไม่ให้มีรอยเล็บบนใบหน้าของเจ้า ข้าต้องปฏิบัติตามคำรับสั่ง”
“แน่นอน ต่อไปข้าจะต้องทำงานแทนฮ่องเต้แล้ว” แม่ทัพหลี่พูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจ
“งั้น… ไม่รู้ว่าเงินเดือนจะเพิ่มให้เจ้าไหม?”
“พูดถึงเรื่องพวกนั้นทำไม? หยาบคาย” แม่ทัพหลี่รู้สึกโกรธมาก นี่เป็นมิตรภาพระหว่างเขากับฮ่องเต้ พูดถึงเงินทำให้เสียความรู้สึก จึงพูดขึ้นว่า “ต่อให้ไม่ให้เงินข้าก็ทำ ต้องเสียค่าก็ทำ”
“แบบนั้นไม่ได้ เราไม่กิน ลูกๆไม่ต้องกินกันหรือ?” ฮูหยินหลี่ยังคงมีสติอยู่ พร้อมพูดขึ้นว่า “อย่างมากเจ้าก็ขยันหน่อย ตั้งไจทำงานให้ดี ก็ถือเป็นการตอบแทนพระคุณที่ฮ่องเต้เลื่อนขั้นให้เจ้าแล้ว ต่อไปข้าจะไม่ทะเลาะไม่ทำให้เจ้าลำบากใจอีก”
“ไม่ใช่ปัญหา ข้ายอมให้เจ้าสร้างความลำบากใจให้กับข้า ข้าไม่เคยรู้สึกน้อยใจเลยสักนิด” บนใบหน้าหยาบกร้านของแม่ทัพหลี่ มีน้ำตาไหลลง
ฮูหยินหลี่หัวเราะขึ้นมาอย่างหวานซึ้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “ครอบครัวของข้าคงจะต้องมองข้าแตกต่างออกไป ที่ผ่านมามักจะพูดว่าข้าแต่งงานกับเจ้าแล้วจะต้องลำบาก จะต้องเสียใจ บอกว่าชั่วชีวิตนี้เจ้าก็ไม่มีทางเจริญก้าวหน้า เป็นเพียงแค่คนเฝ้าประตูเมือง”
“ลำบากเจ้าแล้ว หลายปีมานี้ สิ่งที่ข้าอยากเป็นที่สุดก็คือเป็นหัวหน้าเฝ้าประตูเมือง น่าเสียดายที่ยังเป็นได้แค่คนเฝ้าประตูที่ธรรมดา ที่จริงแม่ทัพจูหัวหน้าเฝ้าประตูเมืองป่วยมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็ไม่เห็นว่าจะเลื่อนขั้นให้ข้า คิดไม่ถึงว่า ตอนนี้ได้มีโอกาสไปอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของใต้เท้ากู้ เจ้ารู้ไหม? ประตูเมืองหลวงทั้งเจ็ดประตูล้วนอยู่ภายใต้การดูแลของเขา กองทหารรักษาพระองค์ด้วย ทหารรักษาเมืองก็อยู่ภายใต้การดูแลของเขา”
ยังไงแม่ทัพหลี่ก็หนีไม่พ้นคำพูดนี้ พยายามอยากที่จะให้นางรู้ว่าตอนนี้ตนเองมีความสามารถแค่ไหน
ฮูหยินหลี่ซบพิงเขา เผยยิ้มออกมาอย่างหวานซึ้งที่สุด