บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1845 แปลกประหลาดมาก
จิ่งเทียนพูดขึ้นอย่างขบคิดว่า “หมู่บ้านนี้แปลกประหลาดมาก”
หนิงหงเจาขมวดคิ้ว พร้อมพูดขึ้นว่า “ใช่ เมื่อกี้ตลอดทางที่เดินมา อย่างน้อยปรากฏให้เห็นผู้หญิงกว่า 30 คน หนึ่งในนั้นมีหญิงตั้งครรภ์เจ็ดแปดคน นอกนั้นทั้งหมดเป็นหญิงสูงวัยอายุสี่ห้าปี เด็กที่มาหาพวกเราพวกนั้นก็ล้วนเป็นเด็กผู้ชาย ไม่มีเด็กผู้หญิงสักคน” ต่อให้ชายวัยหนุ่มล่าสัตว์อยู่ข้างนอกเป็นเวลานาน ในหมู่บ้านก็ไม่ควรที่จะไม่มีผู้ชายอยู่สักคนเลย มีเพียงหญิงตั้งครรภ์กับคนแก่เด็กเล็ก
ได้ยินเช่นนี้แล้ว มู่โถวตบหัวตัวเอง พูดขึ้นอย่างหวาดผวาว่า “หรือว่าพวกนางเป็นปีศาจ กินผู้ชายเป็นอาหาร คลอดได้แต่เพียงผู้ชาย”
“พู” เหลิ่งหมิงหยู่ที่หอบดาบฟังอยู่อย่างเงียบๆอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา คาดหวังที่จะได้ฟังอะไรจริงจังจากมู่โถวไม่ได้จริงๆ พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้ามีสติหน่อย บอลโลกนี้ไม่มีปีศาจ”
“ตอนนี้รู้แล้ว” มู่โถวถูกคุณชายของตนเองเขกหัว เอามือกุมหัวแล้วไปคุกเข่าอยู่ตรงมุมกำแพง
เหลิ่งหมิงหยู่ดูท่าทางผิดหวังของเขา ทั้งโกรธทั้งน่าขำ แต่ก็ดึงเกาลัดแท้ออกจากถุงขนมแล้วยื่นให้
มู่โถวรับมาอย่างดีใจ เดินทางมาตั้งหลายวัน ขนมของเขาทานหมดแต่แรกแล้ว บนตัวเหลือเพียงอาหารแห้ง คุณชายเหลิ่งเป็นคนดีจริงๆ ไม่เสียแรงที่เป็นน้องชายของเจ้าหญิงเจ๋อหลาน
เด็กผู้ใหญ่ทั้งสามคงยังคงคิดวิเคราะห์ต่อ
“พวกนางบอกว่าคืนนี้มีเรื่องน่ายินดี แต่ก็ไม่เห็นพวกเขาแตกแต่งบ้านและจุดเทียนเลย” เมื่อกี้ก่อนที่ป้าหลิวจะจากไป ก็พูดว่าคืนนี้ในหมู่บ้านมีเรื่องน่ายินดี อาจจะดูแลได้ไม่ดีพอ ขอให้พวกเขาอย่าถือสา
ในเมื่อในหมู่บ้านไม่มีผู้ชาย งั้นก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นงานแต่งงาน และหญิงตั้งครรภ์ในหมู่บ้านพวกนั้น ท้องก็โตมากแล้ว เรื่องน่ายินดีคงไม่ใช่เป็นการคลอดลูกมั้ง? เจ๋อหลานรู้สึกค่อนข้างไม่เป็นสุข มักรู้สึกว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่ดี แต่ก็พูดไม่ออก
“พวกนางมีอัธยาศัยที่ดี เด็กน้อยก็ไม่กลัวคนแปลกหน้าเลยสักนิด น่าแปลก” จิ่งเทียนพูดขึ้น
หนิงหงเจาพูดเสริมว่า “ไม่เพียงไม่กลัวคนแปลกหน้า ยังมีความกล้าอยากที่จะจับดาบของหมิงหยู่กับมู่โถว”
“ถ้าไม่ใช่เพราะในหมู่บ้านนี้มีคนดีถือดาบและชอบเด็กมาบ่อย ก็เป็นเพราะผู้ใหญ่ตั้งใจสอน” เจ๋อหลานพูดสรุป ยังไงคนที่ชอบคนเล่นกับคนอย่างมู่โถวไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลก แต่มาหลอกล่อน้องชายของนางที่ตัวสูงนั้นไม่ใช่เรื่องปกติ
เหลิ่งหมิงหยู่คาดเดา พร้อมพูดขึ้นว่า “พวกโจรบนเขาสอนหรือเปล่า เพื่ออยากให้พวกเราไม่ระวังตัว”
เด็กผู้ใหญ่สามคน เห็นด้วยพร้อมพูดขึ้นว่า “พูดถูก น่าจะเป็นแบบนี้แหละ”
มู่โถวที่อยู่ตรงมุมมองมาอย่างอิจฉา
เหลิ่งหมิงหยู่ดีใจขึ้นมาเล็กน้อย แล้วก็สุขุมลงทันที ฟังจิ่งเทียนพูดต่ออย่างว่าง่ายว่า “โจรพวกนี้ฉลาดมาก ไม่ควรประมาท ทุกคนต้องระวังตัวให้ดี”
หลอกเก่งกันขนาดนี้ ไม่รู้ว่าหลอกคนมาแล้วเท่าไหร่ เพราะยังไงคนปกติหากไม่เคยรู้เรื่องแหล่งกบดานเหลยถิง น้อยคนที่จะเหมือนอย่างพวกเขา ที่รู้จักระวังตอนตั้งแต่เริ่มแรก
หนิงหงเจาร้องขอต่อจิ่งเทียนกับเจ๋อหลานว่า “ข้ากับมู่โถวไปสืบดูใกล้ๆนี้ แล้วก็ไปดูด้วยว่ามีพวกกระต่ายป่าไหม” ถึงแม้พวกเขาจะมีอาหารแห้ง แต่เหลิ่งหมิงหยู่กับมู่โถว ยังเป็นเด็กที่ต้องเจริญเติบโต กินแค่อาหารแห้งนั้นไม่เพียงพอ น่าจะอีก 1 ชั่วยามฟ้าถึงจะมืด อาศัยตอนนี้ไปย่างกระต่ายป่าแล้วก็เด็ดผลไม้กลับมา ไม่ใช่ปัญหา
“ดี พวกเราออกไปคุยกับเด็กพวกนั้นดู ดูว่าจะสามารถถามอะไรได้บ้าง” เจ๋อหลานคิดว่า ยังไงหาเบาะแสจากเด็กมักจะง่ายกว่าหาจากผู้ใหญ่
และแล้วเมื่อพวกเขาออกมา ก็ถูกพวกเด็กผู้ชายโอบล้อม และพวกเด็กผู้ชายก็แบ่งหน้าที่กันชัดเจน แบ่งกันหลอกล่อพวกเขาทั้งหมด
ผู้หญิงในหมู่บ้านทักทายพวกเขาอย่างอบอุ่น แต่ยังคงต่างคนต่างทำงานของตนเอง ไม่ได้โอบล้อมมาเหมือนอย่างพวกเด็กๆ และก็ไม่เห็นว่าจะสนใจความเคลื่อนไหวของพวกเขา เหมือนอย่างไม่สนใจเลยสักนิด
แต่ยังไงเด็กก็ยังเป็นเด็ก เจ๋อหลานกับจิ่งเทียนชักชวนพาพวกเด็กๆไปยังมุมหนึ่งของหมู่บ้าน เอื้อมมือออกไปแสดงมายากลเล็กน้อย ก็ดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้สำเร็จ แล้วให้เด็กแต่ละคนพูดอะไรที่มีความสุขหรือไม่มีความสุขเพื่อแลกกับมายากลแบบใหม่
รอเมื่อหนิงหงเจากับมู่โถวกลับมา พวกเด็ก ๆ ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง
จิ่งเทียนปรบมือ พวกเขาจะกลับไปพักผ่อนแล้ว ให้พวกเด็กๆกลับบ้านใครบ้านมัน
ทั้งสองฝ่ายต่างได้ผลตอบแทน
กลับมาถึงในห้อง เจ๋อหลานพูดขึ้นก่อนว่า “คืนนี้มีหญิงตั้งครรภ์สองคนจะคลอดแล้วจริงๆ คนหนึ่งคือลูกสะใภ้คนโตของป้าหลิว ที่เห็นเมื่อตอนบ่าย อีกคนหนึ่งไม่รู้เป็นใคร”