บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1846 ยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน
ที่แท้หนึ่งในกลุ่มเด็กผู้ชายพวกนะ อีกคนหนึ่งชื่อต้าเป่า เป็นหลานของป้าหลิว ต้าเป่าแบ่งปันสองเรื่อง อย่างแรกเรื่องน่ายินดีก็คือย่าบอกกับเขาว่า คืนนี้เขาจะมีน้องชายแล้ว รอย่าช่วยแม่คลอดน้องชายของเขาออกมาแล้ว พ่อก็จะมารับพวกเขาไปมีชีวิตที่ดี เมื่อเด็กผู้ชายคนอื่นได้ยิน ต่างก็อิจฉามาก ถึงว่าคืนนี้แม่ของตนเองก็จะคลอดน้องชาย เพราะว่าพวกเขาก็ไม่ได้เจอพ่อมานานมากแล้ว ล้วนต่างอยากไปหาพ่อที่เป็นวีรบุรุษอยู่บนเขา
ต้าเป่าแบ่งปันเรื่องที่ไม่น่ายินดีก็คือ ได้ยินย่าคุยกับแม่ของเขาว่า น้ำแกงคลอดบุตรไม่เพียงพอสำหรับสองคน ให้แม่ของเขาอดทนหน่อย ดังนั้นเขาจึงเป็นห่วงมาก หากแม่ไม่สามารถคลอดน้องชายได้สำเร็จ เขาก็จะไม่ได้เจอพ่อแล้ว
เมื่อถามอย่างละเอียดแล้ว สามารถเดาได้คร่าวๆว่า หลังจากพวกเด็กๆครบเดือน แม่ลูกจะถูกพวกโจรภูเขารับไปอยู่บนเขาสักพักหนึ่ง อาศัยอยู่ประมาณหนึ่งถึงสามปี เมื่อแม่ของเด็กตั้งครรภ์อีกครั้ง ก็จะถูกส่งมาที่หมู่บ้านนี้อีก จากนั้นแม่ของเด็กก็วนเวียนคลอดลูก จนมาถึงวัยเหมือนอย่างป้าหลิว แล้วก็อาศัยอยู่ในหมู่บ้านจนแก่ตาย ส่วนพวกเด็กผู้ชายเมื่อครบห้าขวบแล้ว ก็จะสามารถขึ้นไปบนเขาเพื่ออาศัยอยู่กับพ่อไปตลอด นี่จึงเป็นสาเหตุที่เด็กผู้ชายที่นี่ล้วนมีเพียงอายุสามสี่ขวบ
มู่โถวเอามือปิดหัวไว้แล้วถามขึ้นว่า “ทำไมคนครอบครัวเดียวกันถึงไม่ได้อยู่ด้วยกัน?”
เจ๋อหลานหัวเราะเย้ย พร้อมพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “เพราะพวกโจรภูเขาไม่ได้เห็นแม่ของเด็กพวกนี้เป็นคนในครอบครัวของพวกเขา ล้างสมองเด็กๆตั้งแต่เด็กว่าตนเองเป็นวีรบุรุษ ให้พวกเด็กๆยกย่องเทิดทูนพวกเขา ภูมิใจในตัวเองที่เป็นโจร ลดสถานะความสำคัญของคนเป็นแม่ รอเมื่อพวกเด็กๆอายุครบห้าขวบแล้ว ก็จะได้จากแม่ไปมีชีวิตใหม่ รับพวกเด็กๆไปอยู่บนเขา เลี้ยงดูให้กลายเป็นโจรอีกรุ่นหนึ่ง แม่ของเด็กๆในสายตาพวกเขา เป็นแค่เครื่องมือ ท้องได้ก็คลอด เมื่อไม่มีประโยชน์แล้วก็โยนทิ้งมาในหมู่บ้านนี้อย่างไร้ค่า”
“ยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน”
ทุกคนต่างโกรธโมโหมาก แทบทนรอไม่ไหวที่จะยกดาบขึ้น แล้วขึ้นไปบนภูเขาเพื่อตัดหัวของพวกเขา ก็คงมีเพียงเป่ยโม่ ที่สามารถทนต่อการดำรงอยู่ของวายร้ายดังกล่าว ให้อยู่ในแผ่นดินของตนเอง
เมื่อสงบสติลงบ้างแล้ว เหลิ่งหมิงหยู่พูดขึ้นว่า “แต่ทำไมพวกนางถึงสามารถคลอดได้แต่ลูกผู้ชาย”
เด็กผู้ใหญ่ทั้งสามคนนิ่งอึ้งไปสักพัก เมืองมองหน้ากันแล้ว จิ่งเทียนพูดขึ้นว่า “พวกนางคงไม่อยากให้ลูกสาวของตนเองเติบโตแล้วต้องเผชิญกับชะตาชีวิตเหมือนอย่างตนเอง จึงไม่กล้าคลอดลูกสาว”
“อ่อๆ” เหลิ่งหมิงหยู่กับมู่โถวไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่ได้ถามต่อ
เด็กผู้ใหญ่ค่อยโล่งอก หนิงหงเจาก็เล่าเรื่องที่ตนเองพบที่ด้านนอก
ในส่วนลึกของหมู่บ้านมีบ้านเล็กๆหลังหนึ่ง ข้างในขังหญิงตั้งครรภ์คนหนึ่งไว้ หญิงตั้งครรภ์ถูกมัดทั้งมือทั้งเท้า นอกประตูยังมีผู้หญิงอายุมากคนหนึ่งเฝ้าไว้
“เห็นทีคนนี้ ก็คือหญิงตั้งครรภ์คนที่กำลังจะคลอดลูก”
จิ่งเทียนกับเจ๋อหลานมองตากัน พร้อมพูดขึ้นว่า “ตอนกลางคืนพวกเราไปดูกัน”
“ดี”
หนิงหงเจากับมู่โถวย่างไก่ป่าสองตัว แล้วก็จับปลามาสองตัว เพียงพอให้ทุกคนได้กินอิ่ม
เทกับข้าวที่ป้าหลิวเอามาให้ ทุกคนก็นอนลงบนเตียงแกล้งหลับ
หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งธูป ป้าหลิวพาผู้หญิงหลายคนมา เก็บอาวุธของพวกเขาไป แล้วก็มัดพวกเขาไว้
ใบหน้าที่อบอุ่นใจดีของป้าหลิวหายไปแล้ว เหลือไว้เพียงใบหน้าเย็นชา พร้อมพูดขึ้นว่า “เดิมยังคิดว่ารอพรุ่งนี้ค่อยจัดการพวกเจ้า คิดไม่ถึงว่าพวกเจ้ากลับไปหลอกถามพวกเด็ก ยุ่งมากขนาดนั้น รนหาที่ตายจริงๆ”
“พี่หลิว เรียกคนหรือว่า?” หนึ่งในผู้หญิงคนหนึ่งถามขึ้น
“ขังไว้ที่นี่ก่อน รอทุกอย่างเรียบร้อยแล้วค่อยเรียกคนมา” ป้าหลิว พูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “อย่าทำให้เสียเรื่องของพวกเรา”
พวกเขาออกไปจากห้อง แล้วก็ล็อคประตูด้านนอก
รอพวกนางเดินไปไกลแล้ว เจ๋อหลานลืมตาขึ้น พร้อมพูดขึ้นว่า “พวกนางกำลังต้มน้ำยาแล้ว”