บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1884 เจ้าอิจฉาโฉมหน้าอันงดงามขององค์ชายรองหรือ
- Home
- บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์
- บทที่ 1884 เจ้าอิจฉาโฉมหน้าอันงดงามขององค์ชายรองหรือ
ทังหยวนพาทั้งสองคนออกไปวิ่งสองสามวัน และพอใจต่อทั้งสองเป็นอย่างมาก
เดิมทีคิดว่ามาจากครอบครัวสูงศักดิ์ทั้งหมด จะค่อนข้างอ่อนแอ แต่คิดไม่ถึงว่าถึงเวลาทำงานหนัก ตากแดดจนสีหน้าเปลี่ยนสีแล้ว คำว่าลำบากสักคำก็ล้วนไม่เอ่ย ยังแสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้นอย่างชัดเจนอีก บอกว่าชีวิตที่ยุ่งวุ่นวายเช่นนี้จึงจะมีความหมาย
เวลาสองสามวันสั้นๆ พวกเขาตากแดดจนดำขึ้นมาก เผยให้เห็นว่าฟันขาวยิ่งขึ้น แต่รอยยิ้มนั้นสดใสเป็นพิเศษ
เพราะว่ามู่ฉางฉางมีฝ้ากระ ทังหยวนจึงตั้งใจขอครีมกันแดดจากท่านแม่โดยเฉพาะ ขณะที่พาพวกเขาออกไปตอนกลางวัน ก็ให้พวกเขาทาไว้ก่อน
มู่ฉางฉางรู้สึกว่าการทาอะไรบนใบหน้าเหมือนพวกผู้หญิงเล็กน้อย ไม่ค่อยเต็มใจนัก ทังหยวนหยิกแก้มของเขาและกล่าว “ทาเถอะ อย่าให้หาภรรยาไม่ได้ในภายหลัง แล้วยังจะมาโทษใส่ข้าอีกล่ะ”
“หาภรรยาไม่ได้ไม่สำคัญ ทำการค้าให้ดีก็ได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ” เขาใช้เท้าแตะหยางชิงชิงเบาๆ “ข้าพูดถูกหรือไม่?”
หยางชิงชิงหัวเราะเบาๆทีหนึ่ง พยายามถูไปบนใบหน้าอย่างเต็มที่ “ข้าหาภรรยาได้หรือไม่ได้ก็ไม่สำคัญ แต่จะหน้าตาน่าเกลียดเกินไปไม่ได้”
“นั่นก็ใช่” มู่ฉางฉางก็รีบถูขึ้นมาแล้ว ใบหน้าของคนทำการค้าก็คือหน้าร้าน บางทีหน้าตาน่าเกลียดปัญหาไม่ได้ใหญ่ แต่สง่างามหน่อย ก็มีส่วนดีเสมอ
“องค์ชาย ทำไมตัวท่านเองไม่ทาล่ะพ่ะย่ะค่ะ?” หลังจากหยางชิงชิงทาเสร็จแล้ว เห็นว่าองค์ชายไม่มีแววว่าจะใช้สักนิด จึงอดไม่ได้ที่จะถาม
“งดงามโดยธรรมชาติ ไม่จำเป็น” ทังหยวนกล่าวอย่างโอ้อวดเล็กน้อย
หยางชิงชิงมองดูใบหน้าอันหล่อเหลาไร้ที่เปรียบนั่นของเขา เห็นได้ชัดว่าทุกคนล้วนวิ่งออกไปตากแดดด้วยกัน แต่แสงอาทิตย์กลับไม่ได้ทิ้งร่องรอยไว้บนใบหน้าของเขาเลย ก็แบกคำว่างดงามโดยธรรมชาติคำนี้ได้จริงๆ
“ชิงชิง เจ้าจ้องมองอะไรองค์ชายรองอยู่น่ะ?” มู่ฉางฉางใช้ข้อศอกสัมผัสนาง “ข้ามักจะรู้สึกว่าเจ้าชอบจ้องมององค์ชายรองอย่างเหม่อลอย หรือว่าเจ้าก็อิจฉาโฉมหน้าขององค์ชายรองงั้นหรือ?”
หลายวันมานี้ออกไปเดินเตร่ มู่ฉางฉางสังเกตเห็นหญิงสาวมากมายแสดงสีหน้าตกตะลึงขึ้นมาเมื่อได้เห็นองค์ชายรอง มีบางคนถึงกระทั่งปิดหน้าแล้ววิ่งหนีไปด้วยความเขินอาย ที่กล้าหาญก็จะจ้องมองเขาอยู่ตลอดเวลา
ผู้หญิงจะเป็นเช่นนี้ แต่ผู้ชายกลับจะเผยสีหน้าอิจฉาออกมา โดยคร่าวๆแล้วในใจล้วนคิดว่า ชาติที่แล้วชายหนุ่มผู้นี้ได้ทำเรื่องดีๆอะไรไว้กันแน่ ถึงได้เกิดมามีรูปโฉมที่งดงามเช่นนี้
ไม่ต้องเอ่ยถึงคนอื่น แม้แต่บางเวลาที่มู่ฉางฉางเองมองดูใบหน้าขององค์ชายรอง ก็รู้สึกว่าทำไมในโลกนี้ถึงได้มีผู้ชายที่หน้าตาดีขนาดนี้อยู่ได้นะ?
หยางชิงชิงจะอิจฉา ก็ไม่น่าแปลกใจเลยสักนิด
หยางชิงชิงรีบเก็บสายตากลับมา หันหน้าไป พยายามถูกอีกนิด “ใครอิจฉากัน? ข้าแค่คิดว่าคิ้วขององค์ชายรองมีความพิเศษเล็กน้อย”
มู่ฉางฉางหัวเราะแฮ่ะๆ คิ้วมีอะไรพิเศษกัน? ก็ไม่ใช่ว่าเป็นคิ้วที่สง่างามหรือ? ครั้นแล้วจึงลากนางเข้าไปจูงม้า ทั้งสามคนควบม้าออกไปที่หมู่ตึกเหมย
คนงานขุดเหมืองได้ย้ายเข้ามาอยู่ และเริ่มทำงานแล้ว
งานอื่นๆสามารถมอบอำนาจให้คนนอกได้ แต่โครงการนี้ ทังหยวนไม่สามารถปล่อยมือมอบหมายออกไปได้ ที่สำคัญคือเกรงว่าคนงานขุดเจาะจะเกิดข้อพิพาทขึ้นกับเสด็จปู่ ต่อกรกับคนงานไม่ใช่เรื่องง่ายนี่นา
เรื่องนี้เจ๋อหลานบอกว่าต้องการมาช่วย เพราะนางมีประสบการณ์ ขณะอยู่ที่เมืองโร่ตูก็เป็นผู้นำไปเปิดเหมือง ทว่านางจะเข้าไปช้าหน่อย รับปากท่านพี่รัชทายาทไว้ ว่าจะต้องจับตาดูเจ้าตาทับทิมให้เขียนอักษร รอจนเจ้าตาทับทิมฝึกเสร็จแล้ว นางจึงพาเจ้าตาทับทิมเข้าไปรวมตัวกันได้
การทำเหมืองแร่ในปีนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะยังเป็นการขุดเจาะหินอ่อนขนาดมหึมาอีก จำเป็นต้องใช้กำลังคนเป็นจำนวนมาก ไม่ต้องพูดถึงเรื่องต้นทุนสูง แถมยังไม่มีประสิทธิภาพอีก
ดังนั้น ขณะที่ทังหยวนรับสมัครคนงาน ก็ให้ราคาไม่เลว แน่นอนว่าได้ดึงดูดกุลีให้มาลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก
ในนั้น มีเหล่าชายชราชุดดำที่โดยส่วนใหญ่มาจากจวนอ๋องซู่ด้วย
ขณะที่พวกเขามาลงชื่อ ทังหยวนก็อึ้งแล้ว ไม่จ้าง? คนอื่นก็ล้วนพกมีดมาด้วย จ้าง? เอ๊ะ อายุแต่ละคนก็มากแล้ว ยังจะทำงานหนักเป็นกุลีเช่นนี้ได้อย่างไร? หากว่าต้องการหาเงินจริงๆ เขามอบเงินเล็กน้อยให้พวกเขาไปใช้จ่ายโดยตรงยังจะดีซะกว่า
ด้วยเหตุนี้ ในตอนนั้นเขาจึงให้ตั๋วเงินที่มีมูลค่าไม่เลวไปใบหนึ่ง บอกว่าให้พวกเขาไปกินดีๆสักมื้อ อันที่จริงก็คือการแสดงความเคารพต่อพวกเขา
พวกเขาก็ไม่ได้ขัดเจตนาดีของทังหยวน รับตั๋วเงินไว้แล้ว
ขณะที่ทังหยวนกำลังจะโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง ชายชราเงาดำที่ซ่อนตั๋วเงินไว้ดีแล้วท่านนั้นก็เอ่ยถาม “เริ่มงานเวลาใด? พวกเราจะได้เตรียมตัวให้ดี”
ก็เช่นนี้ คนงานก็กำหนดออกมาแล้ว ส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนชราของจวนอ๋องซู่ มากกว่าหลายสิบคนเต็มๆ