บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1887 ทังหยวนเสนอความคิดเห็น
หยวนชิงหลิงนึกได้ว่าครั้งก่อนที่จิ้งเหอเข้าวังสีหน้าก็ไม่สู้ดีนัก ท่าทางเหมือนมีเรื่องหนักใจมาก ที่แท้ก็เป็นเรื่องของชุยฟู่เจิ่น
หรงเยว่กล่าว “เด็กคนนั้นกลัวท่าน ไม่เช่นนั้น ท่านไปพูดกับเขาหน่อย? บางทีเขาจะฟังท่านก็ได้เพคะ”
หยวนชิงหลิงงงงัน “เขากลัวข้าได้อย่างไร? ข้าเข้าหาง่ายขนาดนี้ ไปที่จวนของจิ้งเหอออกจะบ่อยขนาดนั้น ทุกครั้งก็ล้วนมีรอยยิ้มเป็นกันเองเข้าหาง่าย ข้าคิดว่าเขาควรจะกลัวเจ้าถึงจะถูก”
หรงเยว่ตกตะลึง “ท่านเข้าใจผิดกับการเป็นกันเองเข้าหาง่ายหรือไม่เพคะ?”
หยวนชิงหลิงมองดูนาง ในใจอดคิดคะเนไม่ได้ หรือว่าทุกครั้งขณะที่นางไปที่จวนของจิ้งเหอ ได้แสดงท่าทางที่เคร่งขรึมออกมางั้นหรือ? จำได้ว่าไม่มีนี่นา
หรงเยว่ยิ้มแล้วกล่าว “ บางทีท่านอาจจะคิดว่าตัวเองเป็นกันเองเข้าหาง่าย แต่ท่านเป็นฮองเฮานะเพคะ ฐานะของท่านวางอยู่ตรงนี่นะ ทุกครั้งที่ท่านไป คนในจวนทำความเคารพนอบน้อมต่อท่าน จิ้งเหออยู่ต่อหน้าท่านก็อ่อนน้อมถ่อมตนและสุภาพ มีฐานะชั้นนี้อยู่ แม้ว่าท่านจะเป็นกันเอง แต่ก็มีความเป็นกันเองอย่างกดดัน เข้าใจหรือไม่เพคะ? พวกเด็กๆเคารพท่าน และกลัวท่าน คำที่ท่านพูดจะมีน้ำหนักมากเพคะ”
หยวนชิงหลิงหัวเราะอย่างกระอักกระอ่วน เป็นเช่นนี้หรือ? พลังที่ทำให้กลัวของฐานะนี่ชั่งเป็นอำนาจที่ชั่วร้ายจริงๆ
ระหว่างพี่น้องสะใภ้ หลายปีมานี้ก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกันจนคุ้นชินแล้ว หยวนชิงหลิงก็ไม่ได้รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องในบ้านของจิ้งเหอจึงไม่ได้เข้าไปก้าวก่าย ล้วนเป็นครอบครัวเดียวกันทั้งหมด
ดังนั้น หยวนชิงหลิงจึงไปที่จวนอ๋องเว่ยกับหรงเยว่รอบหนึ่ง จึงลืมเรื่องความผิดปกติของพระชายาซุนไปชั่วขณะหนึ่งแล้ว
สีหน้าของจิ้งเหอซีดขาวเล็กน้อย ใต้ตาเขียวช้ำอย่างหนัก สาวรับใช้บอกต่อนางว่าจวิ้นจู่ไม่ได้นอนหลับดีๆมาหลายวันแล้ว
เสียงของจิ้งเหอก็เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า “เรื่องนี้ยังต้องลำบากให้ฮองเฮาเสด็จออกจากวังรอบหนึ่ง เกรงใจจริงๆเพคะ”
“พูดคำเหล่านี้ทำไม? เจ้าฟู่ล่ะ? ข้าพูดกับเขาละกัน” หยวนชิงหลิงกล่าว
จิ้งเหอยิ้มเจื่อน “ไม่ได้กลับมาสามวันแล้วเพคะ อาศัยอยู่ที่หอชุนฮวาแล้วเพคะ”
หยวนชิงหลิงขมวดคิ้ว “จะอาศัยอยู่ได้อย่างไร? เจ้าให้เงินเขาหรือ?”
จิ้งเหอนวดหว่างคิ้ว “ไม่ได้ให้เพคะ หอชุนฮวาทางนั้นให้เขาอยู่ฟรี ตอนนี้เขายิ่งรู้สึกว่าทางนั้นดีกว่าแล้วก็ท้าทายข้าน่ะเพคะ”
หรงเยว่กล่าว “ต้องการให้ข้าไปเจรจากับหอชุนฮวาทางนั้นหรือไม่?”
จิ้งเหอกล่าว “เจรจาก็ไม่มีประโยชน์ ทำได้เพียงใช้ไม้แข็ง แต่หากว่าใช้ไม้แข็งบอกให้คนที่อยู่อันดับต้นนั่นจากไป เจ้าฟู่ก็จะรู้สึกเศร้าเสียใจยิ่งขึ้น ยิ่งจะต้องเป็นนางให้ได้แล้ว ข้าแค่อยากให้เขารู้ให้กระจ่างว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ชอบเขาจริงๆ”
หรงเยว่พลั้งปากออกมา “เช่นนั้นไม่ง่ายหรือ? บอกให้เจ้าถวนไป อย่างน้อยเจ้าถวนของข้าก็เป็นลูกภรรยาหลวงของจวนอ๋องหวย ข้าไม่เชื่อคนที่อยู่อันดับต้นนั่นจะไม่ต้องตา”
จิ้งเหอตะลึง “เจ้า……เจ้าจะบอกให้เขาไปสถานที่ประเภทนั้นได้อย่างไร? ไม่ได้ ข้าไม่เห็นด้วย นี่จะทำให้ชื่อเสียงของเจ้าถวนเสียหาย”
หรงเยว่หัวเราะแล้ว “เขาไม่ได้ไปแค่ครั้งแรกแล้ว เขาไปอยู่บ่อยๆ”
จิ้งเหอตะลึงจนกรามแทบจะตกลงมาแล้ว กล่าวเสียงหลงว่า “อะไร? เช่นนั้นเจ้าก็นั่งดูอยู่เฉยๆหรือ? เจ้าก็ปล่อยให้เขาไป? โอ้สวรรค์ เจ้าถวนเพิ่งจะอายุเท่าไหร่เจ้าก็ให้เขาไปสถานที่ประเภทนั้นบ่อยๆแล้ว?”
“อย่าลืม ตอนนี้ภายใต้ชื่อของฮองเฮายังมีหอนางโลมอยู่แห่งหนึ่ง ก็คือที่ข้าดูแลอยู่ เขาไปช่วยงานข้า”
“เช่นนั้น……เช่นนั้นก็ไม่ได้นี่” จิ้งเหอรู้สึกตะลึง
หยวนชิงหลิงรีบกล่าว “อย่าฟังที่หรงเยว่กล่าวเลอะเทอะ หอนางโลมแห่งนั้นที่นางดูแลไม่ได้มีเรื่องยุ่งเหยิงเหล่านั้น แต่งกลอน ร้องเพลง กินเหล้าก็มี แต่ไม่มีสิ่งเหล่านั้น
หอนางโลมก็มีหลายประเภท หอนางโลมนั่นที่หรงเยว่ดูแลอยู่ตอนนี้เดิมทีเป็นของท่านชายสี่ ต่อจากนั้นท่านชายสี่ได้มอบให้หยวนชิงหลิง หยวนชิงหลิงเองไม่ได้ดูแล จึงปล่อยให้หรงเยว่ดูแล
แต่นั่นไม่ได้ทำการค้าเนื้อหนัง เหล่าแม่นางพวกนั้นก็หยิ่งยโสเป็นที่สุด ไม่ใช่ว่าผู้ใดอยากพบก็สามารถพบได้ ไม่มีความสามารถปราดเปรื่องเล็กน้อย มีเงินมากมายเพียงใดบอกว่าไม่พบก็คือไม่พบ
และด้วยเหตุนี้ ทางนั้นจึงกลับได้รวบรวมคนที่มีความรู้ความสามารถไว้กลุ่มหนึ่ง หรงเยว่จึงวางใจให้เจ้าถวนไปได้โดยไม่ต้องสงสัย
“ฮองเฮา ท่านเห็นว่าอย่างไรล่ะเพคะ?” หรงเยว่เอ่ยถามด้วยความสนใจเป็นที่สุด
อันที่จริงหยวนชิงหลิงคิดว่านี่ก็ไม่ได้นับว่าเป็นวิธีที่ดีอะไร อย่างไรเสียก็ไม่สามารถบอกได้ว่าจะใช้ฐานะเชื้อพระวงศ์ของพวกนางข่มเหงหอชุนฮวาลงไปได้
เพียงแต่ตอนนี้พวกนางใช้วิธีการที่ชั่วช้าเช่นนี้ คิดพยายามเอาคนที่อยู่อันดับต้นแต่งงานเข้าจวนอ๋องเว่ย เจ้าฟู่ก็เอาใจใส่ต่อหอชุนฮวามากขนาดนี้ ทันทีที่คนที่อยู่อันดับต้นแต่งงานเข้ามา หอชุนฮวาก็นับว่ามีที่พึ่งแล้ว
นางคิดแล้วคิดอีก “ทำเช่นนี้ไม่ดี”
ที่สำคัญคือนางยังต้องการที่จะพูดคุยกับเจ้าฟู่ก่อน เรื่องของผู้หญิงคนนั้นกลับไม่ใช่เรื่องใหญ่ เด็กในช่วงกบฏนี้ตั้งใจต่อต้านพ่อแม่ จึงจำเป็นต้องขัดเกลาทันที
แต่หลังจากที่ความคิดเห็นของหรงเยว่เกิดขึ้นแล้วก็ทนรอที่จะดำเนินไม่ได้ รีบกลับไปบอกกับเจ้าถวนทันที บังเอิญวันนี้เจ้าถวนติดตามท่านพี่ทังหยวนไปที่หมู่ตึกเหมยพอดี ได้ยินเรื่องที่ท่านแม่รับสั่งให้ไปทำ ดีใจเป็นที่สุด รีบไปหาท่านพี่ทังหยวนทันที ปรึกษาหารือวางแผนรับมือพร้อมกันกับเขา
ทังหยวนก็รักและทะนุถนอมพวกน้องชายน้องสาวที่บ้านของจิ้งเหออย่างที่สุด รู้ว่าเดิมทีพวกเขานั้นถูกทิ้งที่สำนักนางชีอย่างโดดเดี่ยวและลำบาก เขารู้ว่าก่อนหน้านี้ชุยฟู่เจิ่นเรียนหนังสือดี แค่ถูกความรักผูกมัดไว้ชั่วขณะเท่านั้น
แต่ เขาคิดว่าวิธีของท่านอาสะใภ้หรงเยว่นี้ไม่ใช่วิธีที่ดี เขามีความคิดเห็นของตัวเอง