บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1890 คำพูดของฮองเฮามีเหตุผล
หยวนชิงหลิงอยู่ตรงหน้าต่างชั้นบนมองไปที่ฉากเบื้องล่างฉากนี้ ในใจก็โล่งใจมาก รู้สึกขอบคุณลูกๆไม่กี่คนของตัวเองจริงๆที่ล้วนเชื่อฟังว่านอนสอนง่ายขนาดนั้น ไม่เคยเกิดเรื่องที่ทำให้นางด้วยเป็นห่วงและปวดใจเช่นนี้มาก่อน
อีกทั้ง เรื่องนี้ยังเป็นทังหยวนที่ได้จัดการให้สงบลงอีก ทังหยวนจัดการเรื่องราวได้อย่างมีวุฒิภาวะ เหนือความคาดหมายของนางจริงๆ
ทั้งทำให้เจ้าฟู่รู้ว่าแม่นางอันดับต้นผู้นั้นไม่ได้จริงใจต่อเขา และไม่ได้ถูกทำให้อับอายเรื่องโฉมหน้าเพิ่มเติม หลีกเลี่ยงจุดที่เขาอ่อนแอที่สุดและน้อยเนื้อต่ำใจที่สุด ในเวลาเดียวกันก็ทำให้เขาตระหนักได้ว่าบ้านมีความสำคัญต่อเขามากเพียงใด
สิ่งสำคัญที่สุดคือ เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้ผู้คนจำนวนมากตื่นตระหนกเกินไป ข่าวการถูกไล่ออกจากบ้าน แพร่กระจายเพียงแค่หอชุนฮวาอย่างแม่นยำโดยเฉพาะเท่านั้น
เรื่องนี้ดูเหมือนจะจัดการง่าย แต่มิใช่เช่นนั้น เพราะว่าแพร่กระจายข่าวนี้กับหอชุนฮวา หอชุนฮวาจะต้องมีการหาหลักฐานเป็นแน่ ดังนั้น การปิดล้อมรอบนอกจึงสำคัญมาก หอชุนฮวาไปหาหลักฐาน ทั้งหมดที่ได้พบก็ต้องเป็นคนที่ทังหยวนจัดเตรียมไว้ดีแล้วเป็นแน่
และหอชุนฮวาเองก็มีช่องทางข่าวสารของตัวเอง อีกทั้งไม่ได้มีเพียงหนึ่งเดียว ดังนั้นในนี้จะต้องมีการลงมือแน่นอน ควบคุมช่องทางของข่าวสารไว้แล้ว ไม่ว่าจะใช้วิธีการอะไรควบคุม แต่สามารถทำได้ภายในหนึ่งวัน ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ
นางสามารถเดาได้ว่าเป็นผลงานขององครักษ์ทุกท่านที่จวนอ๋องซู่ แต่ว่า ทังหยวนสามารถยืมใช้ความสามารถของพวกเขาได้ ก็ทำให้นางรู้สึกเหนือความคาดหมาย
ชายหนุ่มมักจะต้องการพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง เพิ่งออกจากบ้านไปทำงานก็ต้องการสร้างชื่อเสียงให้โด่งดัง สามารถลงสนามเองได้ก็ลงสนามเอง เห็นได้ชัดว่าทังหยวนไม่ได้คิดเช่นนี้ ความคิดของเขาจะมีวุฒิภาวะกว่ามาก
ในตอนเย็นหลังจากที่หยวนชิงหลิงกลับไปที่พระราชวังแล้วก็พูดเรื่องนี้กับเจ้าห้า
เจ้าห้าที่อยู่ท่ามกลางงานที่ยุ่งวุ่นวาย ดึงมือออกมาจากด้านหลังของนาง ลูบแก้มของนาง ยิ้มอย่างรักและเอ็นดู “เจ้าให้กำเนิดบุตรชายที่ดีเป็นกอง ยังมีบุตรสาวที่ดีอีกคนหนึ่ง ยายหยวน นี่ล้วนเป็นผลงานของเจ้า ให้กำเนิดได้ดี ไม่ต้องสอนเลยเชียวล่ะ”
หยวนชิงหลิงจัดการเสื้อผ้าเงียบๆเล็กน้อย ตั้งใจทำหน้าตาขุ่นเคือง “ข้าไม่ถือว่าเป็นผลงาน พวกลูกๆรู้เรื่อง เป็นจุดเด่นของพวกลูกๆ ไม่ใช่ว่าข้าให้กำเนิดมาดี”
“ตอนนี้ดูแล้ว ซาลาเปากับทังหยวนล้วนไม่ต้องเป็นห่วง ข้าวเหนียวและเจ้าแฝดก็หาเรื่องที่ตัวเองอยากทำเจอแล้ว มีเพียงลูกสาวตัวน้อยผู้เดียว ที่ข้าไม่สามารถวางใจได้อย่างสมบูรณ์”
ตลอดมาความเป็นห่วงในใจของเจ้าห้าก็คือลูกสาวตัวน้อย
อันที่จริงเขาก็รู้สึกรางๆว่าความคิดในใจของลูกสาวตัวน้อยนั้นยิ่งใหญ่ กลับไม่ได้จำเป็นต้องเป็นห่วงที่สุด แต่ก็พูดเกลี้ยกล่อมตัวเองไม่ได้
หยวนชิงหลิงกล่าว “ตอนนี้นางก็อยู่ในเมืองหลวง อยู่ภายใต้สายตาของท่าน พูดคุยกับท่านแทบจะทุกวัน ท่านยังไม่วางใจอะไรอีกล่ะ?”
“มักจะรู้สึกว่านางกดดันนิสัยของตัวเองเกินไป นางไม่ได้มีความสุขมาก”
หยวนชิงหลิงรู้สึกกังวลใจขึ้นมาเล็กน้อย “กดดันตัวเอง นี่เป็นเพราะความสามารถของนางทำให้นางเป็นเช่นนี้ ตั้งแต่แรกเกิดก็ถูกลิขิตไว้แล้วว่านางไม่สามารถเป็นคนธรรมดาผู้หนึ่งได้ แต่ในความพยายามของนาง ข้าเชื่อว่านางจะสามารถหาวิธีการใช้ชีวิตที่เหมาะสมกับตัวเองได้ นางจะมีความสุข”
เจ้าห้าอืมคำหนึ่ง แล้วกล่าวอีก “ตอนนี้สถานการณ์ของจิ่งเทียนเป็นอย่างไรบ้าง? สุขภาพไร้กังวลโดยสิ้นเชิงแล้วสินะ?”
“ตอนนี้ไม่มีปัญหาใหญ่อะไร หากว่าหลังจากนี้เกิดอะไรขึ้น ก็จะมีวิธีการอื่นเพคะ” หยวนชิงหลิงพิงศีรษะบนไหล่ของเขา “ยังคิดถึงเรื่องที่เขาต้องการจะสู่ขอเจ๋อหลานอยู่อีกหรือ?”
เจ้าห้ายื่นมือออกไปโอบนางไว้ “ก่อนหน้านี้คัดค้านมาก แต่ตอนนี้คิดๆดู บางทีเขาอาจจะเหมาะสมกับเจ๋อหลาน เขามีความอดทนต่อเจ๋อหลานโดยไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีเงื่อนไข เจ๋อหลานอยู่ต่อหน้าเขาก็สามารถเอาแต่ใจตัวเองได้มากขึ้น หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เจ๋อหลานต้องปิดบังลึกขึ้น สำหรับนางแล้วนี่ไม่ใช่เรื่องที่ดี”
มือสองข้างของหยวนชิงหลิงคล้องคอของเขา “เช่นนั้นท่านทำใจให้นางแต่งงานไปได้หรือ? แบบนั้นหลังจากนี้หนึ่งปีก็อาจจะไม่ได้พบสักครั้ง”
“นี่ไม่ได้พูดจาเพ้อเจ้อแล้วหรือ? อยากไปก็สามารถไปได้ตลอดเวลา ตอนนี้พวกเราก็ไม่ได้เป็นคนธรรมดาสักหน่อย” เจ้าห้ากล่าวอย่างภาคภูมิใจ
หยวนชิงหลิงพบว่าตัวเองชอบสีหน้าท่าทางที่เจ้าห้าแสดงอาการชื่นชอบความสามารถพิเศษนี่เป็นอย่างมาก ราวกับว่าเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมเรื่องหนึ่ง
เดิมทีนางยังมีความรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่การตอบสนองของเจ้าห้าทำให้ความรู้สึกผิดของนางสลายไปอย่างสมบูรณ์ เพราะเขาถือว่านี่เป็นเรื่องที่โชคดีเรื่องหนึ่ง
นางพบว่าตัวเองยิ่งรักผู้ชายคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆแล้ว อีกทั้ง ระยะนี้ยิ่งสังเกตเห็นการเปล่งแสงบนตัวของเขาได้มายิ่งขึ้นเรื่อยๆ
โดยเฉพาะเมื่อเป็นฮ่องเต้แล้ว จัดการกิจการของประเทศที่หนักอึ้งทุกวัน กลับถึงข้างกายของนางก็ยังคงสามารถรักษาจิตใจที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาเช่นนั้นได้ นี่เป็นจุดที่ล้ำค่าที่สุดของเจ้าห้า
ตลอดมาเขาไม่เคยลืมความตั้งใจเดิม
“เจ้าห้า!” สีหน้าของนางแฝงด้วยความรัก เริ่มนั่งบนตักของเขาด้วยตัวเอง กระซิบเบาๆข้างหูของเขา “ช่วงนี้ข้าได้พูดหรือไม่ว่า ข้ารักท่านมาก?”
แววตาของหยู่เหวินเห้ากะพริบไหว มือสองข้างโอบเอวของนาง “ไม่มี เจ้าพูดอีกครั้งสิ”
“ข้ารักท่านนะ!”
“ไม่ได้ยิน!” รอยยิ้มสดใสและเร่าร้อน ประทับลงไปบนริมฝีปากที่ยกขึ้นเล็กน้อยของนาง “พูดอีกพูดอีก ต้องพูดทุกวัน”
หยวนชิงหลิงเกี่ยวเสื้อผ้าของเขาไว้ “พูดเป็นร้อยครั้ง ไม่เท่ากับการปฏิบัติ”
สองมืออุ้มขึ้น สาวเท้าก้าวใหญ่ไปทางบนเตียง “ฮองเฮาพูดมีเหตุผล!”