บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1891 ปัญหาของพระชายาซุน
หลังจากที่หยวนชิงหลิงยุ่งกับเรื่องของชุยฟู่เจิ่นแล้ว จึงนึกถึงพระชายาซุนขึ้นมาได้
นางตั้งใจจัดงานรวมตัว ให้เหล่าพี่น้องสะใภ้เข้าวังมาชมดอกไม้ ผลสรุปพระชายาซุนก็ยังไม่มา บอกว่าสุขภาพไม่ดี
เนื่องจากพระชายาซุนบอกว่าไม่สบายเป็นเวลาหลายวัน หยวนชิงหลิงจึงเป็นห่วงเล็กน้อย จึงเปลี่ยนสถานที่รวมตัวของพี่น้องสะใภ้เป็นที่จวนอ๋องซุน
ทุกคนมาที่จวนอ๋องซุนด้วยกัน ในที่สุดก็ได้พบกับพระชายาซุนที่ไม่ได้พบกันเป็นเวลานาน
แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่ห่อเหี่ยว ดวงตาทั้งคู่ที่ว่างเปล่า ท่าทางจิตใจล่องลอยนั้น แม้ว่าจะนั่งอยู่กับทุกคน ก็ไม่ได้มีเสียงหัวเราะมีความสุขเหมือนที่ผ่านมาแล้ว
แม้แต่การพูดจาก็ฝืนใจและทำอย่างขอไปทีเป็นที่สุด
หรงเยว่ไล่ถามเหตุผล นางก็เพียงแค่ฝืนยิ้มเท่านั้น “ก็ไม่ได้มีเรื่องอะไร แค่หมดความสนใจต่อเรื่องต่างๆ”
หยวนชิงหลิงเห็นดังนั้น ก็รู้สึกว่านางอาจจะขัดแย้งกับท่านพี่สองก็ไม่แน่
แต่ว่า หลังจากที่พวกนางทานอาหารเที่ยงเสร็จก็นั่งอยู่ในสวนดอกไม้ อ๋องซุนเข้ามา พระชายาซุนก็พูดกับอ๋องซุนคำสองคำ ก็ราบเรียบเหมือนที่ผ่านมาเช่นนั้น ท่าทางไม่ได้ความขัดแย้งอะไร
หยวนชิงหลิงจึงดึงมือของพระชายาซุนเข้าไปในเรือนเล็กเสียเลย พูดคุยกับนางตามลำพัง
ทีแรกพระชายาซุนก็ไม่เต็มใจ แต่หลังจากที่หยวนชิงหลิงไล่ถามสองสามครั้ง นางก็เบ้าตาแดงขึ้นมาฉับพลัน “ข้าไม่ได้มีปัญหาใหญ่อะไรจริงๆ ข้าแค่รู้สึกว่าใช้ชีวิตเช่นนี้ช่างไร้รสชาติจริงๆ ลุกขึ้นมาในทุกวันก็คือรอคอยให้ฟ้ามืด ฟ้ามืดแล้วนอนไม่หลับ เมื่อรออีกฟ้าก็สว่างอีก แต่ละวันไม่มีความเฝ้าหวังใดๆ”
หยวนชิงหลิงจับมือของนาง “เริ่มเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
“ได้สองสามเดือนแล้ว” แววตาของพระชายาซุนไร้ชีวิตชีวา จากนั้นก็ยิ้มเจื่อนๆทันที หลั่งน้ำตาเล็กน้อย “อันที่จริง เรื่องของข้าพูดออกมาก็เป็นเรื่องเล็กน้อยน่ะ ข้ารู้สึกอายที่จะพูดออกมา หรือจะให้ข้าบอกกับพวกเจ้าว่า เป็นเพราะรู้สึกว่าการใช้ชีวิตกับท่านพี่รองของพวกเจ้ามันไร้รสชาติ อิจฉาที่พวกเจ้าเร่าร้อนเช่นนั้นน่ะหรือ? ข้าอายที่จะพูดออกมาจริงๆ ความจริงสามีภรรยาทุกคู่ก็ล้วนเป็นเช่นเดียวกับพวกข้า นานวันเข้าก็จะไม่รู้สึกอะไร แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะดูพวกเจ้ามากไปหรือไม่ ข้าไม่เต็มใจยอมรับนี่ ข้าก็อยากเป็นเหมือนพวกเจ้าเช่นนั้น”
หยวนชิงหลิงตะลึงงันแล้ว นางคิดไม่ถึงว่าจะเป็นเพราะปัญหานี้
ก่อนหน้านี้เวลารวมตัว พระชายาซุนก็ชอบพูดถึงเรื่องระหว่างสามีภรรยาเป็นที่สุด จากนั้นก็ฟังทุกคนพูดเรื่องที่น่าสนใจระหว่างสามีและภรรยาของตัวเอง
คิดไม่ถึงว่าฟังมากแล้ว นางจะเอาลักษณะสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาของคนอื่นมาเปรียบเทียบกับตัวเอง
“ทุกวันนี้คำพูดที่รู้ใจสักคำท่านพี่รองของเจ้าก็ไม่พูดกับข้า ข้าบอกว่าป่วยแล้ว เขาก็ส่งคนไปหาหมอ ไม่ได้กอดข้าไว้แล้วไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบสักคำ ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงว่าจะยกยามาให้ข้าด้วยตัวเองแล้ว แม้ว่าทุกคืนนี้เขายังนอนอยู่ข้างกายข้า แต่พอข้าพูดกับเขาคำหนึ่ง เขาก็เหมือนตายแล้วเช่นนั้น”
“เขา…….หลับไปแล้วสินะ?” หยวนชิงหลิงรู้สึกว่าท่านพี่รองไม่ค่อยเข้าใจความโรแมนติกมากนัก แต่คิดไม่ถึงว่าระหว่างพวกเขาสามีภรรยาจะจืดชืดจนเทียบไม่ได้แม้แต่น้ำเปล่าแล้ว
พระชายาซุนกล่าวอย่างโกรธเคือง “แตะหมอนก็หลับ ข้าเป็นทุกข์ใจขนาดนี้แล้ว เขายังนอนหลับได้อีก มีบางครั้งข้าก็อยากจะหยิกเขาให้ตายจริงๆ”
นางโกรธเคืองอย่างรุนแรง แทบจะกัดฟันกรอดๆแล้ว หยวนชิงหลิงมองดูด้วยความงงงันเล็กน้อย
พระชายาซุนเห็นท่าทางของนาง ไหล่ตกทั้งสองข้าง หน้าตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความจนปัญญา “ใช่ไหมล่ะ ข้าก็บอกแล้วว่านี่เป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้คิดมาก”
หยวนชิงหลิงรีบเก็บสีหน้าท่าทางความงงงัน จับมือของนางไว้ กล่าวอย่างจริงจัง “พูดกับท่านพี่รองสักหน่อย”
พระชายาซุนส่ายหน้า “ไร้ประโยชน์ พูดกับเขาจะช่วยอะไรได้? แต่งานกับเขาตั้งหลายปีขนาดนี้แล้ว รู้ว่าเขาเป็นคนซื่อๆไม่ค่อยพูดจา เป็นข้าที่คิดหวังเพ้อเจ้อไปเอง ข้าไม่รู้จักพอ ความจริงก็มีคนตั้งมากมายอิจฉาข้านี่นา ท่านพี่รองของเจ้าก็ไม่มีผู้หญิงอื่น ก็เฝ้าอยู่ข้างกายข้าผู้เดียว จริงๆนะข้ามีความสุขเกินไปแล้ว ตอนนี้ข้าพูดเรื่องเหล่านี้กับเจ้า ข้าก็รู้สึกละอายใจตัวเองมาก ทำไมข้าถึงพูดเช่นนี้ได้? ทำไมถึงได้คิดเช่นนี้ได้นะ?”
นางพูดจบ เบ้าตาก็แดงต่ออีก นางละอายใจที่ตัวเองคิดอยากจะได้มากกว่านั้นจากตัวของสามี เพราะว่า นางได้รับมามากมายแล้ว
หากว่าไม่ได้เห็นความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาของพวกพี่น้องสะใภ้ นางก็รู้สึกว่ามีความสุขมากแล้วจริงๆ
ทำไมนางถึงได้ไม่รู้จักพอขนาดนี้นะ
นางไม่รักษาทำนองคลองธรรมของผู้หญิง
หยวนชิงหลิงปลอบใจนาง “พี่สะใภ้รอง ในเมื่อท่านรู้สึกว่าทุกวันนี้จืดชืดเหมือนน้ำ อยากทำการเปลี่ยนแปลงขึ้นมา ท่านต้องลงมือทำ ท่านไม่สามารถคิดเองอยู่ตรงนี้ได้ คิดแล้วจะทำอะไรได้ล่ะ? ท่านพี่รองที่เป็นแบบนี้ทั้งคนไม่ได้ผิด แต่สามารถเปลี่ยนได้ ท่านก็ลองเปลี่ยนแปลงเขาดูสิเพคะ เปลี่ยนวิธีการเข้าหากันของพวกท่านไงล่ะ”
พระชายาซุนน้ำตาคลอมองดูนาง “ฮองเฮา เจ้าไม่รู้สึกว่าข้าคร่ำครวญโดยไร้มูลเหตุหรือ? เจ้าไม่คิดว่าข้าก่อเรื่องขึ้นโดยไร้เหตุผลหรือ?”
“จะเป็นไปได้อย่างไร?” หยวนชิงหลิงหัวเราะแล้ว จับมือนางแน่นแล้วกล่าวให้กำลังใจ “พวกเราควรเผชิญหน้ากับความต้องการของตัวเอง พวกเราต้องการอะไร มีเพียงตัวเองที่รู้ อย่าใส่ใจกับสายตาของคนอื่น ไปพยายาม ไปเปลี่ยนแปลงท่านพี่รองสิเพคะ”
พระชายาซุนได้รับการกระตุ้น ประกายแสงสว่างส่องทะลุน้ำตาใสๆเล็กน้อย พยักหน้าอย่างหนักแน่น “ได้ ข้าจะลองดูเพคะ”