บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1894 มู่หรูกงกงพอใจเป็นอย่างมากต่อปัจจุบันนี้
- Home
- บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์
- บทที่ 1894 มู่หรูกงกงพอใจเป็นอย่างมากต่อปัจจุบันนี้
ท่านย่าหยวนกลับไปที่ยุคปัจจุบันแล้ว ระยะนี้นางมักจะรู้สึกเจ็บปวดในช่องท้อง แต่นางก็ไม่ได้บอกหยวนชิงหลิง เพียงแค่กลับไปตรวจดูด้วยตัวเองเล็กน้อย
ขณะที่หยวนชิงหลิงส่งนางกลับไป นางบอกเพียงแค่คิดถึงผู้คนทางนั้น อยู่พักหนึ่งแล้วจะกลับมา
หยวนชิงหลิงอยู่ในยุคปัจจุบันสองวันก็กลับเป่ยถังแล้ว ที่สำคัญก็เป็นเพราะจวนอ๋องซู่ทางนั้นไม่มีท่านย่าหยวนอยู่ นางเป็นห่วงเล็กน้อย
อีกทั้ง ขณะที่ส่งท่านย่าหยวนกลับไป ในใจก็มีลางสังหรณ์ไม่ดีเล็กน้อย มักจะรู้สึกว่าต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นนิดหน่อย ดังนั้น อยู่สองวันก็รีบกลับมาทันทีแล้ว
หลังจากกลับมานางไปที่จวนอ๋องซู่ก่อนรอบหนึ่ง ระยะนี้ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามค่อนข้างสงบเสงี่ยม ไม่ได้ก่อเรื่องอะไรออกมา สำหรับชายชราชุดดำคนอื่นๆ มีหลายสิบคนไปหาเงินที่เหมือง แม้แต่เจ้าเสือตัวก็ไปด้วยแล้ว
แม่นมชิวก็มีชีวิตชีวามาก แม่นมสี่และนางอยู่เป็นเพื่อน ยังมีท่านน้าอีกสองท่าน พี่สาวน้องสาวผู้อาวุโสไม่กี่คนรวมตัวเข้าด้วยกันก็มักมีคำพูดที่ไม่มีที่สิ้นอยู่เสมอ ได้เห็นพวกเขาอยู่เป็นเพื่อนกันยามแก่เฒ่า การใช้ชีวิตก็เต็มไปด้วยรสชาติ หยวนชิงหลิงรู้สึกโล่งใจเป็นพิเศษ
หลังจากที่นางอยู่กินอาหารมื้อหนึ่งที่จวนอ๋องซู่เสร็จแล้วจึงกลับไปในวัง ห่างไปสองวัน เจ้าห้าก็น้อยใจเป็นอย่างมาก บอกว่ากินไม่ได้นอนไม่หลับดีมาสองวันแล้ว
เขาถือโอกาสตัดพ้อเล็กน้อย บอกว่าตอนนี้หลังจากที่อายุมากขึ้นหน่อยแล้ว อยู่บ้านเองคนเดียวก็รู้สึกเงียบเหงาเดียวดายมาก หากว่าหลังจากนี้จะไปสองสามวัน ดีที่สุดก็พาเขาไปด้วย เวลาสองสามวันเขาสามารถหาออกมาได้ง่ายๆ
อีกทั้ง รสชาติของการนอนคนเดียวก็ทรมานมาก พระราชวังใหญ่โต มีแค่เขาคนเดียว ทุกที่ล้วนเป็นความเงียบเหงา
หาได้ยากที่เจ้าห้าจะออดอ้อนงอแง เดิมทีควรจะปล่อยให้ทำตามใจเล็กน้อย แต่หยวนชิงหลิงก็อดไม่ได้ที่จะบอกเขาว่า พระราชวังที่ใหญ่ขนาดนี้ไม่ได้เพียงแค่เขาผู้เดียวนี่นา เพียงแค่เรียกคำหนึ่ง ทุกที่ล้วนเป็นผู้คน อย่างน้อยมู่หรูกงกงและสวีอีก็จะพุ่งออกมาในเวลาแรก
ทว่า เจ้าห้าก็ยังโต้แย้งจนได้ “พวกเขาจะเปรียบเทียบกับภรรยาได้อย่างไรกันล่ะ? หรือว่าต้องการให้ข้านอนกับมู่หรูกงกงอย่างนั้นหรือ?”
มู่หรูกงกงที่อยู่ด้านข้างได้ยินคำนี้ ดวงตาที่ละห้อยลงในเดิมทีก็เหลือบขึ้น กล่าวอย่างช้าๆสบายๆ “ข้าน้อยยังไงก็ได้นะพ่ะย่ะค่ะ”
“……” เจ้าห้าเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง กล่าวอย่างไม่พอใจ “มู่หรู ข้าพูดกับฮองเฮา เจ้าออกไปได้แล้ว หากว่าเจ้าไม่ออกไปก็แสร้งทำเป็นหูหนวกก็ได้ ไม่แสร้งหูหนวกก็แกล้งทำเป็นใบ้ ไม่มีใครถามเจ้า ไม่จำเป็นต้องพูดเสริม”
มู่หรูกงกงไม่ได้ออกไป ยืนอยู่ในตำหนักด้วยความเด็ดเดี่ยว แต่ก้มศีรษะลงแล้ว เริ่มแสร้งทำเป็นหูหนวกทำเป็นใบ้
ในฐานะของหัวหน้ามหาดเล็กรับใช้ประจำพระองค์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เขามีหลักการของตัวเอง ก่อนที่เจ้านายจะเข้านอน เขาก็ต้องปฏิบัติหน้าที่อยู่ตรงนี้
เขายังมีประโยชน์ ไม่ได้แก่
หลังจากที่ฮ่องเต้แห่งเป่ยถังออดอ้อนอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ได้เปล่งเสียงไล่เขาออกไปแล้ว มู่หรูกงกงรู้จักความเคยชินของเจ้านาย ขณะที่เข้านอนจะไม่ชอบให้มีคนปรนนิบัติ จึงได้ไล่คนที่อยู่ด้านนอกออกไปด้วย
ตอนนี้มู่หรูกงกงเข้าเวรดึกน้อยมากแล้ว ที่สำคัญคือฮ่องเต้ไม่ค่อยเต็มใจให้เขาเข้าเวรดึก แต่เขายังสามารถอดนอนได้นะ สุขภาพของเขาแข็งแรง ไม่แตกต่างอะไรกับคนอายุน้อย?
ทั้งภายในและภายนอกตำหนัก ตอนนี้ลูกศิษย์ของเขามากมายก่ายกอง ที่กตัญญูก็ไม่น้อย พยายามอย่างเต็มที่คิดอยากจะมุดเข้ามาอยู่ในตำหนัก หากสามารถปรนนิบัติใช้ฮ่องเต้แทนอาจารย์ได้ เช่นนั้นครอบครัวก็มีบุญวาสนาแล้ว
แต่ว่า มู่หรูกงกงก็ไม่ยอมยกตำแหน่งให้นี่นา เขาคิดว่าตัวเองยังเป็นหนุ่ม ยังสามารถปรนนิบัติฮ่องเต้ได้อีกสามสิบปี เพียงแค่มีคนแสดงความตั้งใจที่จะแทนที่ออกมาให้เห็นต่อหน้าเขา ก็จะต้องเผชิญกับสายตาที่ไม่พอใจอย่างรุนแรงของเขา
ทว่า คืนนี้มู่หรูกงกงมีความสุขมากจริงๆเชียวล่ะ ฮ่องเต้และฮองเฮามีความเชื่อใจต่อเขามากยิ่งขึ้น ขณะที่พูดเรื่องส่วนตัวที่เป็นความบลับเฉพาะ ก็อนุญาตให้เขาอยู่ด้วย
คืนนี้ฤดูใบไม้ร่วงเย็นสบาย เสี่ยวจิ่นจื่อลูกศิษย์ที่ไม่จำเป็นต้องเข้าเวรดึกก็อุ่นเหล้ารอเขา ดื่มเป็นเพื่อนเขาสองสามแก้ว เขาดื่มขึ้นมาแล้วก็พูดคำพูดที่เข้าใจกันเป็นการส่วนตัวกับเสี่ยวจิ่นจื่อเล็กน้อย
ชีวิตคนที่เหมือนอย่างเขาเช่นนี้ แทบจะสมบูรณ์แบบ แน่นอน ข้อบกพร่องทางร่างกายนี้ก็ช่วยไม่ได้แล้ว แต่หลายปีมานี้ไม่ว่าจะเป็นไท่ซ่างหวงหรือว่าฮ่องเต้ ก็ปฏิบัติต่อเขาอย่างดีเป็นอย่างมาก แทบจะไม่ได้ทำเหมือนกับเขาเป็นทาสเลย
ชีวิตมาถึงจุดนี้ ยังมีอะไรให้เสียใจอีกล่ะ? เขาดื่มไปไหหนึ่งและอีกไหหนึ่ง สุดท้ายก็ไล่เสี่ยวจิ่นจื่อออกไปด้วยความเมามาย ล้มนอนหลับไปบนเตียง
ก่อนหน้าที่จะหลับ ก็รู้สึกว่าในที่สุดอายุของตัวเองก็ขึ้นมาแล้ว ในอดีตดื่มเหล้าเพียงเท่านี้ จะเมาได้อย่างไร?
ไม่ได้ ต่อจากนี้จะต้องออกกำลังกายให้มากขึ้น เขาพูดแล้วว่าจะปรนนิบัติฮ่องเต้สามสิบปี สามสิบปีไม่ได้ แค่ยี่สิบปีก็ยังดีนี่ สิบปีก็ได้ ไม่สามารถถอยลงไปได้ ไม่สามารถอยู่ปรนนิบัติเบื้องหน้าของฮ่องเต้ได้ ชีวิตของเขาก็ไม่มีความหมายแล้ว