บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1895 ส่งต่อบุญวาสนา
หยู่เหวินเห้าและหยวนชิงหลิงหลับได้ถึงกลางดึก ถูกกองทหารรักษาพระองค์ที่อยู่ด้านนอกทำให้ตกใจตื่น มีคนเคาะประตูอย่างแรง
ประตูตำหนักถูกเคาะในกลางดึกเช่นนี้ จะต้องเกิดเรื่องใหญ่เป็นแน่ หยู่เหวินเห้าและหยวนชิงหลิงแทบจะลุกขึ้นพร้อมกัน สวมชุดนอนตัวหนึ่งแล้ววิ่งออกไป
เป็นองครักษ์ฟ้าผ่าของจวนอ๋องซู่เข้าวังมาหาหยวนชิงหลิงยามดึก เดิมทีองครักษ์ฟ้าผ่านั้นขุดเหมืองอยู่ที่หมู่ตึกเหมย ตอนกลางคืนก็ค้างแรมที่นั่น
ดังนั้น เมื่อหยวนชิงหลิงเห็นเขา จึงคิดขึ้นทันทีว่าต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเหล่าชายชราชุดดำที่หมู่ตึกเหมยหรือไม่
แต่โดยปกติแล้วองครักษ์ฟ้าผ่าจะดูหนักแน่นมาก ปัญหาใหญ่ค้ำฟ้าก็ไม่เคยเห็นสีหน้าเขาเปลี่ยนไป แต่คืนนี้สีหน้าของเขาซีดขาว หลังจากที่พบพวกเขาจึงเชิญให้ฮองเฮารีบเอากล่องยาไปที่จวนอ๋องซู่ แม่นมสี่เกิดเรื่องแล้ว
ทันทีที่หยวนชิงหลิงได้ฟัง ก็วิ่งไปกับเขาทั้งที่สวมชุดนอนอยู่ หลังจากที่หยู่เหวินเห้ากลับตำหนักไปหยิบเสื้อผ้าให้นาง จึงได้รีบตามไปพร้อมกับสวีอีที่รีบเข้ามาไถ่ถาม
กลางทาง หยวนชิงหลิงได้ฟังเรื่องของแม่นมสี่ที่องครักษ์ฟ้าผ่าเล่า
เดิมทีแม่นมสี่ได้นอนไปตั้งนานแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีแมวป่าเข้ามาในจวนกลางดึก ถูกกับดักหนูที่เหล่าชายชราชุดดำวางไว้ทำให้ได้รับบาดเจ็บ ร้องขึ้นในกลางดึกอย่างน่าสังเวช แม่นมสี่จึงลุกขึ้นไปช่วยแมว แต่คิดไม่ถึงว่าจะร้อนใจ และไม่ได้จุดตะเกียง เท้าเหยียบอากาศ ตกลงมาจากบันไดหิน หัวกระแทกพื้น ขณะที่โสวฝู่ฉู่ที่อยู่ห้องด้านข้างพบนาง ก็ใกล้จะหมดลมแล้ว
คืนนี้องครักษ์ฟ้าผ่ากลับมาเอาของ ค้างที่จวนคืนหนึ่ง บังเอิญพบกับเรื่องนี้ จึงรีบบุกเข้าวังมาหาหยวนชิงหลิง
หยวนชิงหลิงร้อนใจจนแทบไม่ไหว “บันไดหินก็มีไม่กี่ขั้น จะล้มลงมาบาดเจ็บได้ยังไงกันล่ะ?”
องครักษ์ฟ้าผ่าแจ้งให้ทราบ บอกว่าพอดีที่ด้านขวาของบันไดหินนั้นมีเศษหินหยกสีขาวที่นำกลับมาจากหมู่ตึกเหมยทางนั้นกองอยู่ เดิมทีต้องการนำมาใช้สร้างเส้นทางเล็กๆในลาน รอให้เสร็จงานที่เหมืองทางนั้นแล้วก็สามารถสร้างได้แล้ว นึกไม่ถึงว่าแม่นมสี่จะล้มลง ทั้งยังล้มลงบนปลายหินแหลมที่ยื่นออกมาพอดีอีกด้วย
หยวนชิงหลิงร้อนใจดังไฟเผา หลังจากมาถึงจวนอ๋องซู่ สีหน้าของพวกเขาทั้งสามก็เปลี่ยนไปแล้ว ริมฝีปากสั่นเทา อดีตที่ผ่านมาพวกเขาไม่กลัวฟ้า ไม่กลัวดิน กลัวเพียงคนรอบข้างจะเกิดเรื่องและจากไปเพียงอย่างเดียว
ถึงอายุปูนนี้ พวกเขารู้ว่าไม่ช้าไม่เร็วก็ต้องยอมรับเรื่องเช่นนี้ แต่แม่นมสี่เกิดเรื่องอย่างกะทันหัน บวกกับความผูกพันอันลึกซึ้งที่มีต่อแม่นมสี่ พวกเขาจนปัญญาจะรับได้
เห็นหยวนชิงหลิงมา พวกเขาล้วนใช้ดวงตาอันเลือนรางและคลอไปด้วยน้ำตามองดูนาง ความหวังสุดท้ายล้วนอยู่บนตัวนางแล้ว ก่อนหน้าที่นางจะมาถึง ยาที่สามารถใช้ได้ก็ให้แม่นมสี่ใช้ไปหมดแล้ว แต่ก็ไม่เห็นผล
หยวนชิงหลิงมองดูสีหน้าซีดเผือดของแม่นมสี่ น้ำตาไหลออกมาอย่างรวดเร็ว
รีบเปิดกล่องยา พลาสมาลอยขึ้นมาชั้นที่หนึ่งแล้ว แม่นมสี่จำเป็นต้องถ่ายเลือดอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้กล่องยาถูกหยวนชิงหลิงควบคุมได้อย่างคล่องแคล่ว ยาที่ต้องการลอยขึ้นมาทีละชั้นๆ
สามผู้ยิ่งใหญ่เฝ้าอยู่ในห้อง เหล่าชายชราชุดดำเฝ้าอยู่ด้านนอก แม่นมชิวและท่านน้าทั้งสองคุกเข่าอยู่ในลาน อธิษฐานต่อสวรรค์ ทุกอย่างเงียบสนิทไร้สิ้นเสียง
หลังจากที่เจ้าห้าและสวีอีมาถึง หยวนชิงหลิงก็กำลังเย็บปากแผลแล้ว พวกเขามาช้าไปเล็กน้อย หลังจากที่เข้ามา หยู่เหวินเห้าไปกุมมือของโสวฝู่ฉู่ก่อน
จิตใจของโสวฝู่ฉู่กระวนกระวายไร้คำมาเปรียบเปรย เป็นความรู้สึกสิ้นหวังชนิดหนึ่ง เขาไม่ได้เป็นครั้งแรก แต่ก็ยังคงเจ็บปวดเหมือนถูกทิ่มแทงเข้าไปที่กระดูกอยู่เสมอ
มักจะรู้สึกว่ายังสามารถอยู่กับนางดูแลกันไปจนชั่วอายุคนได้ต่อไปอีกเรื่อยๆ ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข แต่อุบัติเหตุเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่สามารถยอมรับได้
ฮ่องเต้จับมือของเขา แล้วมองดูท่าทางการรักษาอย่างมืออาชีพของฮองเฮา จิตใจของเขาจึงได้ค่อยๆสงบลง เพียงแต่ ร่างกายยังคงสั่นเทาเป็นอย่างมาก
เขาอยากจะถามฮองเฮาว่า เสี่ยวสี่จะฟื้นหรือไม่ แต่ไม่กล้าถาม เพียงแค่อดทนรอเช่นนี้ รอฮองเฮาถ่ายพลาสมาอีกถุง เมื่อเห็นว่าสีหน้าของนางไม่ได้ซีดขาวเหมือนก่อนหน้านี้เช่นนั้น ปลายเท้าของเขาจึงขยับไปด้านหน้า ริมฝีปากสั่นเล็กน้อย “ฮองเฮา นาง……”
หยวนชิงหลิงใส่เครื่องมือวัดการเต้นของหัวใจความดันโลหิตที่มือของแม่นมสี่ มองดูค่าตัวเลข ได้รอดพ้นจากดัชนีภาวะช็อกแล้ว นางหันกลับมาบอกโสวฝู่ฉู่ว่า “เปลี่ยนไปในทางที่ดี”
โสวฝู่ฉู่ร้องไห้แบบไร้เสียงออกมา เขากลัวเป็นอย่างมากจริงๆ กลัวมากๆเชียวล่ะ
อู๋ซ่างหวงและเซียวเหยากงเข้ามาล้อมเขาไว้ อู๋ซ่างหวงกล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึม “เจ้าวางใจ ข้าอยู่ ข้าเอาบุญวาสนาของข้าให้นาง นางจะไม่เป็นอะไร”
“บุญวาสนาของข้าก็ให้นางด้วย” เซียวเหยากงกล่าว
“บุญวาสนาของพวกเราล้วนให้นางทั้งหมด” ด้านนอก ก็มีเสียงดังขึ้น แต่ละเสียงๆ ใช้ความรู้สึกสร้างเป็นสะพานส่งทอดบุญวาสนา
พวกเขาไม่ได้ยึดติดอะไรต่อบุญวาสนา เพียงแค่ไม่ได้แบ่งเนื้อในถ้วยไป ทุกอย่างก็ให้แม่นมสี่ได้หมด