บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1921 จะต้องรับมือกับเรื่องไม่ดีมากมายแค่ไหน
- Home
- บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์
- บทที่ 1921 จะต้องรับมือกับเรื่องไม่ดีมากมายแค่ไหน
หลังจากหยู่เหวินเห้าคุยงานในห้องทรงพระอักษรเสร็จ ก็กลับไปทานข้าวเที่ยงกับภรรยา
หยวนชิงหลิงรู้เรื่องที่สวีอีได้เลื่อนตำแหน่งแล้ว นางไม่รู้สึกกะทันหัน เพียงแค่รู้สึกว่าตำแหน่งนี้ได้มาช้าไปแล้ว
หยู่เหวินเห้าพูดขึ้นอย่างทอดถอนใจว่า “ข้ากระทำไม่ยุติธรรมต่อเขามาตลอด รู้สึกผิดต่อเขามาก ที่จริงควรจะเลื่อนตำแหน่งแต่แรกแล้ว”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นว่า “เจ้าไม่เลื่อนตำแหน่ง เพราะอุปนิสัยของเขายังต้องฝึกฝน และเจ้าก็ไม่วางใจให้เขาคบค้ากับคนอื่น เขาถูกหลอกได้ง่าย และถูกโน้มน้าวได้ง่าย หลังจากผ่านเรื่องนี้ คาดว่าต่อไปจะทำอะไรเขาก็จะระมัดระวังมากขึ้น ไม่หลงเชื่อ ช่วยเหลือคนอื่นง่ายๆ”
“ข้าไม่ค่อยวางใจเขาในทุกๆ ด้านจริงๆ ตอนนั้นหากแต่งตั้งเขาให้เป็นเจ้าพระยาตั้งแต่แรก ตอนนั้นเขายังเป็นหนุ่มมีกำลัง และเพิ่งสร้างผลงานกลับมา เพราะกลัวว่าจะไม่สามารถควบคุมนิสัย ก่อให้เกิดเรื่องได้ง่าย ถูกคนหลอกใช้ได้ง่าย”
“ดังนั้น รอจนถึงวันนี้ก็เหมาะสมแล้ว” หยวนชิงหลิงอิงอยู่ข้างกายเขา ใบหน้าชวนฝัน พร้อมพูดขึ้นว่า “สวีอีได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าพระยาแล้ว เขาโตเป็นผู้ใหญ่จริงๆ แล้ว”
หยู่เหวินเห้าพูดขึ้นอย่างหดหู่ว่า “เจ้าหยวน เจ้าสนใจผิดที่แล้ว ไม่ควรจะเป็นเรื่องที่เขาต้องย้ายออกไปหรือ?”
หยวนชิงหลิงหัวเราะ หลายปีมานี้ เขาอยู่กับสวีอีมาตลอด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนที่เป็นองค์ชายรัชทายาท แทบจะอยู่ด้วยกันตลอดเวลาทั้งวันทั้งคืน หลังจากเป็นฮ่องเต้ สวีอีก็อาศัยอยู่ในวังกับเขา
ตั้งแต่พวกเขาอยู่ด้วยกัน ก็ไม่เคยแยกจากกัน ถึงตอนวัยกลางคนค่อยแยกจากกัน ในใจเจ้าห้าจะต้องเสียใจแน่
นี่ต่างหากที่เป็นสาเหตุที่เขาไม่ยอกแต่งตั้งให้สวีอีรับภาระหนัก สวีอีอยู่ข้างกายเขา ในใจเขาค่อยวางใจ เพราะเรื่องสำคัญมากมายในชีวิตของเขา ล้วนผ่านมาพร้อมกับสวีอี
ผ่านไปสักพัก สวีอีกับอะซี่มาขอบพระทัย
พวกเขายังอยู่ในความปีติยินดีหลังจากได้รับการเลื่อนตำแหน่ง โดยเฉพาะสวีอียิ้มจนมองไม่เห็นตา ฟันหน้าแวววาวเป็นประกาย เป็นที่สะดุดตา
เห็นเขายิ้มอย่างดีใจขนาดนี้ หยู่เหวินเห้ารู้สึกใจสลายอย่างมาก แววตาลุกเป็นไฟ มีอะซี่อยู่ด้วยจึงไม่ระบายออกมา แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีที่ดีแต่อย่างไร พูดก้นด่าสวีอีว่า “ต่อไปอย่าเจอใครก็ช่วยไปหมด ต่อไปดูแลเพียงงานในกรมทหารของเจ้าก็พอ ไม่ต้องเป็นคนดี โดยเฉพาะคนที่เคยรังแกเจ้าพวกนั้น ไม่จำเป็นต้องไว้หน้าพวกเขา วางมาดความเป็นเจ้าพระยาผู้องอาจของเจ้า ตอนนี้สถานะของเจ้าสูงส่งขึ้นมาก ต่อให้ไม่ทำเพื่อตัวเจ้าเอง ก็ต้องคิดเผื่อลูกสาวกับลูกชายของข้า รู้ไหม?”
สวีอียิ้มกว้าง ตอบรับอย่างเดียว ตอนนี้ฮ่องเต้ว่าอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ต่อให้ผายลมก็ว่าหอม ดีใจจนแทบจะลืมตัวแล้ว
หยู่เหวินเห้าเห็นเขาเป็นแบบนี้ก็ยิ่งโกรธ แต่คิดถึงเรื่องลูกสาวบุญธรรมของตน จึงยับยั้งอารมณ์ไว้แล้วพูดขึ้นว่า “ตอนนี้ถังกั่วเอ๋ออยู่ระหว่างการจะแต่งงาน เจ้าได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าพระยาแล้ว ต่อไปใครยังจะกล้าพูดว่าเจ้าใฝ่สูง? เจ้าก็ไม่ต้องมัวแต่คิดว่าจะต้องเลือกคนที่มีสถานะด้อยกว่าให้กับถังกั่วเอ๋อ เหมาะสมก็พอ คนที่ท่านย่าเลือกไม่ผิดแน่ หม้ายชิงหวาคนนั้นข้าให้คนไปสืบมาแล้ว มีความสามารถจริงๆ แต่ไม่รู้ว่าอุปนิสัยเป็นยังไง ข้าจะให้ใต้เท้าทังไม่สืบดู”
หยวนชิงหลิงที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้นว่า “คุณชายหม้ายเป็นคนซื่อสัตย์จริงใจ เก่งแต่ไม่หยิ่งผยอง”
ทุกคนหันไปมองหยวนชิงหลิง นางรู้ได้อย่างไร?
“เจ้าเคยไปสืบมา?” หยู่เหวินเห้าถามขึ้น
“ทั้งสามคนที่ท่านย่าพูดมา ข้าให้คนไปสืบมาหมดแล้ว นิสัยของคนทั้งสามคนล้วนไม่มีปัญหาจริงๆ แต่ภายในครอบครัวคุณชายหม้ายค่อนข้างซับซ้อน เพราะสายตาท่านย่าของเขาจวิ้นจู่ใหญ่อานอยู่เหนือหน้าผาก ใต้เท้าหม้ายเองก็มีสนมมากมาย ครอบครัวอลม่านวุ่นวาย เติบโตมาท่ามกลางสภาพแวดล้อมเช่นนี้ คุณชายหม้ายถือเป็นคนออกมาจากดินโคลนแต่ไม่เปื้อนโคลน จนถึงตอนนี้เขาก็ไม่มีคู่นอนสักคน”
“อายุเท่าไหร่แล้ว? คู่นอนก็ยังไม่มี?” หยู่เหวินเห้าแปลกใจอย่างมาก
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นว่า “สิบเก้าแล้ว มีความรอบรู้มากความสามารถ บทกวีก็ประสบความสำเร็จ ที่เขียนบรรยายล้วนไม่ใช่พรรณนาสายลม บุปผา เหมันต์ จันทรา มีความสง่าผ่าเผยน่าเกรงขาม ข้าเคยอ่านหลายบทความ ถือว่าไม่เลว”
สวีอีกับอะซี่ต่างมองตากัน ฮองเฮาชมเขาไม่ขาดคำ? งั้นจะต้องไม่เลวแน่
“แต่ไม่รู้ว่าเขาจะชอบถังกั่วเอ๋อไหม?” หยู่เหวินเห้าเชื่อมั่นในสายตาภรรยาแน่นอน หากนางบอกว่าดี งั้นก็ต้องดีแน่
เพียงแต่ภายในครอบครัวซับซ้อน ก็ถือว่ายาก ถังกั่วเอ๋อแต่งงานไป จะต้องรับมือกับเรื่องไม่ดีมากมายแค่ไหน?