บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1925 ขอพบโสวฝู่เหลิ่งทันที
อยู่ต่อหน้าสวีถังถัง เขาไม่ใช่คุณชายหม้ายที่เก่งทั้งบุ๋นและบู๊มีชื่อเสียงโด่งดัง เขาตั้งใจร่ำเรียนมาหลายปีนี้ ไม่ว่าทั้งบุ๋นหรือบู๊ พยายามให้ตนเองมีความสามารถมากที่สุด เพื่อสามารถคู่ควรกับนาง
แต่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า คนที่มีค่าที่สุดในใจของเขา คนอื่นกลับดูถูก แต่ตนเองที่เป็นคนธรรมดาขยันหมั่นเพียร กลับถูกยกย่องให้สูงเทียบฟ้า
ตอนนี้นางยืนอยู่ตรงหน้าตนเอง ฟ้าสวรรค์รู้ดี ในใจของเขามีความไม่เชื่อมั่นขนาดไหน
ในใจถังกั่วเอ๋อยังคงรู้สึกเก้อเขิน เพราะคุณชายหม้ายคนนี้จ้องมองนางอยู่ตลอดเวลา เสียมารยาทมาก น้องสาวก็จริงๆ เลย ทำไมถึงได้ทิ้งนางแล้วหนีไปก่อน? ต่อไปจะไม่พานางออกมาอีก
“ข้า….ดูเสร็จแล้ว จะกลับแล้ว” ถังกั่วเอ๋อที่ปกติสง่างามและใจกว้าง ภายใต้การจ้องมองของเขา ทำให้รู้สึกทำอะไรไม่ถูก เมื่อพูดเสร็จแล้วก็กำลังจะเดินตรงไปยังกำแพง
แต่เมื่อกี้ตนปีนกำแพงเข้ามา อย่างลับๆ ล่อๆ หรือว่าตอนที่จะกลับก็จะกลับแบบนี้หรือ?
นางหยุดฝีเท้า แล้วก็ได้ยินเขาพูดขึ้นว่า “หากแม่นางจะกลับ ข้าพาแม่นางออกทางประตูหลัก”
ถังกั่วเอ๋อค่อยโล่งอก หันกลับมา พร้อมพูดขึ้นด้วยท่าทีสง่างามว่า “ขอบใจคุณชาย”
ถึงแม้หม้ายชิงหวาไม่อยากให้นางกลับ แต่ก็รู้ว่าการเจอกันครั้งแรก จะใจร้อนไม่ได้ จึงยิ้มพูดขึ้นอย่างมีมารยาทว่า “เชิญแม่นาง”
ในมือของเขายังถือดาบอยู่ ตอนที่ยกมือเชิญ ปลายดาบถูกรวบเก็บ ไม่ให้ถังกั่วเอ๋อได้เห็นถึงคมมีด
รอเมื่อเขาหันตัวพานางเดินออกไป ถังกั่วเอ๋อค่อยมองเห็นดาบเล่มนั้น ลำดาบเป็นสีเขียว เฉียบคมอย่างมาก ถือเป็นดาบที่ดีเล่มหนึ่ง
ในใจอดไม่ได้ที่จะชื่นชอบอย่างมาก ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะมีดาบเป็นของตนเองสักเล่ม?
เมื่อเขาเดินมาถึงระเบียงก็รอนาง ไม่ได้เป็นการเดินตามกัน แต่เป็นการเดินไปพร้อมกัน หม้ายชิงหวาไม่ได้จ้องมองนางอีก กลัวเสียมารยาท แล้วถามขึ้นด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “ไม่ทราบว่าแม่นางชื่อแซ่อะไร”
“ข้าชื่อสวี…..เถียนเถียน” ถังกั่วเอ๋อกลัวว่าจะทำให้พ่อเสียหน้า พ่อเพิ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าพระยาจงภักดี แต่ที่ผ่านมามีคนมากมายดูถูกเขา
“เถียนเถียน” หม้ายชิงหวามองดูนางแวบหนึ่ง แววตายิ้มแย้ม แลดูอ่อนโยนและเป็นมิตร พูดไม่ออกว่าหล่อเหลาสง่างามแค่ไหน พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าชื่อหม้ายชิงหวา ยินดีที่….. แม่นางชอบอาวุธของข้า”
ถังกั่วเอ๋อทำเป็นแสดงท่าทีตกใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “ที่แท้เจ้าก็คือคุณชายหม้ายหรือ? ได้ยินชื่อเสียงมานาน แต่ว่าคุณชายหม้ายเป็นบัณฑิตไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงได้ฝึกฝีมือการต่อสู้ด้วย?”
“อ่านหนังสือเป็นงานอดิเรก ฝึกฝีมือการต่อสู้เป็นสิ่งที่รัก” เขามองดูนางอย่างลึกซึ้งแวบหนึ่ง พร้อมพูดขึ้นว่า “แม่นางเองก็คงเป็นคนฝึกฝีมือการต่อสู้ หวังอย่างยิ่งว่าจะมีสักวันที่ได้ร่วมประลองกับแม่นาง”
ถังกั่วเอ๋อยิ้มอย่างไม่มั่นใจ ฝีมือการต่อสู้ของนางความจริงยังไม่ถึงขั้นที่จะสามารถประลองกับใครได้
ส่งมาถึงหน้าประตู หม้ายชิงหวากลับยื่นดาบของตนเองให้นาง พร้อมพูดขึ้นอย่างถ่อมตนว่า “แม่นางเป็นคนรักดาบ ดายนี้ยกให้แม่นาง แม่นางอย่าได้รังเกียจ”
ดาบถูกยื่นมาตรงหน้าถังกั่วเอ๋อ นางค่อยมองเห็นลายสะลักบนดาบอย่างชัดเจนว่า ไม่ใช่ลายดอกอะไร แต่เป็นรูปลูกอมเป็นเม็ด
นางพูดขึ้นอย่างตกตะลึงว่า “ลายสะลักบนดาบนี่……”
“คือลูกอม ปกติข้าชอบลูกอม” เขายิ้มพร้อมพูดขึ้น คิ้วโค้งเรียวเหมือนดาบ ฟันขาวสะอาด
หัวใจถังกั่วเอ๋อเต้นแรง ความรู้สึกแปลกอย่างหนึ่งบังเกิดขึ้นมา รู้สึกราวกับว่ามีบางอย่างถูกกำหนดไว้อย่างแปลกประหลาด
นางอดไม่ได้พูดขึ้นว่า “ชื่อเล่นของข้าก็คือกั่วเอ๋อ ดาบเล่มนี้กับข้ามีวาสนาต่อกันจริงๆ”
เขาประหลาดใจ พร้อมพูดขึ้นด้วยดวงตาเป็นประกายว่า “จริงๆ หรือ งั้นถือว่ามีโชคชะตาต่อกันจริงๆ แม่นางจะต้องรับดาบเล่มนี้ไว้นะ”
มีโชคชะตาต่อกันตรงไหน? เขาตั้งใจเองต่างหาก อาวุธทั้งหมดของเขาล้วนสลักเป็นรูปลูกอมทั้งหมด
ถังกั่วเอ๋ออยากรับเอาดาบเล่มนี้ไว้มาก แต่จะรับของรักของคนอื่นได้อย่างไร? นางส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ดีกว่า คุณชายน่าจะชอบดาบเล่มนี้มาก ข้ารับไว้ไม่ได้”
นางย่อตัวทำความเคารพ ดวงตายิ้มแย้ม ยังแอบเหลือบมองดูดาบทองสัมฤทธิ์แวบหนึ่ง พร้อมพูดขึ้นว่า “หวังว่าโอกาสหน้าจะได้พบกันอีก”
หันร่างเดินจากไป ตอนที่เดินลงบันได ยังรู้สึกได้ถึงสายตาตาร้อนรุ่มจ้องมองอยู่ด้านหลัง นางอดไม่ได้หันไปมองดู กลับเห็นตรงมุมหนึ่งบนกำแพงมีหัวน้อย ๆ ของคนคนหนึ่งยื่นออกมา คือน้องสาวเจ้าหญิงไม่ใช่หรือ?
เจ้าคนนี้ กลับจะตีก้นให้เจ็บเลยทีเดียว
รอเมื่อมองไม่เห็นนางแล้ว หม้ายชิงหวาค่อยรวบสายตา แต่ในใจยังคงตื่นเต้นอย่างมาก เขาคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่านางจะมา ยังแอบมองดูเขาอยู่บนกำแพง
เขาไม่ไปครุ่นคิดถึงจุดประสงค์ของนาง แค่นางมาก็เป็นสิ่งที่น่ายินดีดีที่สุดแล้ว
แทบเป็นการอดใจไม่ไหว เขาหันกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เขาจะรีบไปขอพบโสวฝู่เหลิ่งที่จวน ไม่ว่ายังไงก็ต้องขอร้องให้เขาช่วยเป็นสะพานเชื่อมรักให้กับตนเอง