บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1932 ลองกล้าหาญสักครั้ง
หยวนชิงหลิงไม่เห็นด้วยกับการคลุมถุงชน ถึงแม้พวกเด็กๆ จะเคยแอบเจอกันแล้ว แต่ก็ยังอยากจัดการให้พวกเขาได้เจอกันอย่างเป็นทางการสักครั้ง พูดคุยกัน เข้าใจซึ่งกันและกัน
เจ้าห้าบอกว่าไม่จำเป็น นี่จะไม่เป็นการนัดบอดหรือ? นัดบอดเชยมากเลย
คำว่าเชยถูกพูดออกมาจากปากเจ้าห้า หยวนชิงหลิงรู้สึกค่อยข้างแปลก ตัวเขาเองก็เป็นคนเชยแบบแปลกๆ
“ก่อนแต่งงาน มีความรักต่อกันก่อนไม่ดีหรือ? ผู้หญิงทุกคนล้วนควรที่จะเคยมีความรักเสียก่อน”
อีกอย่างทั้งสองคนก็แลดูมีความรู้สึกที่ดีต่อกันแล้ว แต่คนสองคนจะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต มีแค่ความรู้สึกนั้นไม่พอ รู้อุปนิสัยก็ไม่พอ ยังต้องดูว่าทั้งสองคนเข้ากันได้ไหม มีคำพูดที่สนใจร่วมกันหรือเปล่า
ในใจเจ้าห้าไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง คิดว่ายังสอบจอหงวนไม่ได้ ก็ให้เขาได้เห็นแล้ว รู้สึกเสียเปรียบ
อีกอย่าง หากเขาเห็นกั่วเอ๋อรู้สึกดีต่อเขา บวกพวกผู้ใหญ่ก็เห็นดีเห็นงามด้วย แล้วเขาละความพยายามจะทำยังไง?
เหลิ่งจิ้งเหยียนบอกว่าเขามีความสามารถอย่างหาได้ยาก มีโอกาสแทนที่ตำแหน่งโสวฝู่ คนที่มีความสามารถเช่นนี้จะปล่อยให้เขาถูกความรักทำลายวิสัยทัศน์ไม่ได้
คิดถึงอนาคตของประเทศชาติ เจ้าห้าคัดค้านการกระทำของเจ้าหยวนอย่างเด็ดขาด จะให้ถังกั่วเอ๋อกับเสี่ยวหม้ายเจอกันไม่ได้
หยวนชิงหลิงคิดอยู่คนเดียว แล้วก็ถามขึ้นว่า “เอาเป็นวันพรุ่งนี้ เป็นอย่างไร?”
เจ้าห้าพูดด้วยสายตามุ่งมั่นว่า “พรุ่งนี้เป็นวันฤทธิ์งามยามดี ข้าเห็นว่าได้”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างดีใจว่า “ได้ งั้นเดี๋ยวข้าไปจัดการ”
เจ้าห้ามองดูใบหน้าดีใจของภรรยา ภายในใจถอดถอนใจ ว่าแล้วไง ผู้ชายเมื่อเผชิญกับความรัก ก็จะสูญเสียสติสัมปชัญญะ เขาเป็นฮ่องเต้มากว่าหลายสิบปี กลายเป็นคนที่กลัวภรรยา
ที่น่าโมโหที่สุดก็คือ เขายอมที่จะเป็นเช่นนี้ รู้สึกว่าการเชื่อฟังภรรยา ในใจรู้สึกสบาย
สถานที่จัดไว้ให้พวกเขาเจอกันก็คือภายในวัง ให้โสวฝู่เหลิ่งเป็นคนพาเขาเข้าวัง บอกว่าอยากให้เขาเสนอความคิดเห็นของตนเองให้กับฮ่องเต้ จากนั้นก็ให้เขาไปเดินเล่นในอุทยานอวี้ฮัว อีกทางด้านวางแผนให้ถังกั่วเอ๋อไปหา การเจอกันโดยบังเอิญแบบนี้ ทำให้คนสองคนที่มีความรู้สึกที่ดีต่อกันยิ่งเชื่อในบุพเพสันนิวาส
แต่เรื่องนี้พวกเด็กๆ รู้แล้ว เจ๋อหลานแอบไปบอกถังกั่วเอ๋อ ยังเสนอแผนการอย่างตื่นเต้นว่า “หรือว่า ข้าไปหาในฐานะเจ้าหญิงเฉาหยางก่อน ดูสิว่าเขาจะเอาใจข้าไหม ทั้งนี้จะได้รู้ว่าเขาเป็นคนยังไง ข้ายอมเสียสละตนเอง ล้วนทำเพื่อความสุขของพี่สาวในอนาคต พี่สาวไม่ต้องขอบคุณข้า”
ถังกั่วเอ๋ออมยิ้มมองดูนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าไม่ต้องพูดอย่างยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ช่วงนี้เจ้าเบื่อหน่าย จึงอยากหาเรื่องแกล้งคุณชายหม้าย ส่วนการทดสอบแบบนี้ ไม่มีความจำเป็น อุปนิสัยของคนเราจะทำการทดสอบไปเรื่อยไม่ได้”
“พี่สาวกลัวหรือ?” เจ๋อหลานควงแขนของนางไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “กลัวว่าเขาจะเอาใจข้าหรือ? รู้ว่าข้าคือเจ้าหญิงเฉาหยาง จากนั้นก็ทำการจีบข้า”
“ข้าเชื่อว่าเขาไม่ทำ” ถังกั่วเอ๋อพูดขึ้นอย่างมั่นใจว่า “และหากข้าเตรียมที่จะคุยเรื่องแต่งงานกับเขา ก็จะไม่กระทำเรื่องล้อเล่นพวกนี้ แบบนี้ไม่ยุติธรรมกับคุณชายหม้าย”
“พี่สาว เจ้าเชื่อใจเขาขนาดนี้เลยหรือ?” เจ๋อหลานค่อนข้างประหลาดใจ แบบนี้ไม่เหมือนเป็นการกระทำของพี่สาว หรือว่าความรักทำให้คนเราสูญเสียสติสัมปชัญญะ?
“เชื่อสิ” ถังกั่วเอ๋อหัวเราะ ในใจกลับคิดว่า แล้วใครจะสามารถเชื่อได้อย่างสนิทใจ? แต่ทุกคนล้วนเคยสืบประวัติเขาแล้ว ล้วนพูดว่าเขาเป็นคนดี อุปนิสัยไม่น่ามีปัญหาอะไรอยู่แล้ว
แต่ทุกคนมีความรักเพราะความงาม น้องสาวงดงามสดใส หากนางเป็นผู้ชายก็จะต้องชอบน้องสาวแน่
โดยเฉพาะ นี่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับอุปนิสัย หากเขาหวั่นไหว ก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับความรัก
ในเมื่อมีความเสี่ยง แล้วจะลองเพื่ออะไร? ถึงแม้ต่อไปเขาอาจจะได้เจอกับผู้หญิงมากมาย แต่เมื่อถึงตอนนั้นพวกเขาก็มีความรักต่อกันระดับหนึ่งแล้ว ต่อให้ชื่นชมผู้หญิงงดงามแต่ก็จะไม่หวั่นไหวโดยง่าย
เจ๋อหลานพูดขึ้นว่า “พี่สาว จะเชื่อมั่นคนคนหนึ่งหมดทั้งใจไม่ได้”
“น้องสาว เป็นวัยรุ่นลองกล้าหาญสักครั้ง” ถังกั่วเอ๋อหันกลับมาพูดโน้มน้าวเจ๋อหลานว่า “ข้ารู้สึกว่ามีบางครั้งเจ้ามัวแต่คิดหน้าพวงหลัง ทำให้สูญเสียความประมาทที่ในวัยนี้ควรมี”
“ความประมาทกลับกลายเป็นคำชม?” เจ๋อหลานตกตะลึง
ถังกั่วเอ๋อหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องมีสติขนาดนี้แล้ว ท่าทีระมัดระวังของเจ้า จะทำให้คนที่รักเจ้าก้าวเดินไปอย่างยากลำบาก”
เจ๋อหลานอึ้ง ความอ่อนไหวและความมีสติของนาง ทำให้นางระมัดระวังในเรื่องมากมาย พี่สาวสามารถมองออก แต่พวกนางมีเวลาอยู่ด้วยกันไม่นานเลย
ส่วนในด้านความรัก นางก็ไม่ได้ระมัดระวังขนาดนั้น เพียงแต่รู้สึกว่านางยังอายุน้อย ยังไงก็เคยอยู่ในยุคปัจจุบันมาก่อน หากมีความรักในวัยนี้ นางรู้สึกว่าเป็นความรักที่ไวเกินไป รู้สึกเหมือนมีความผิด
แน่นอนว่าสาเหตุหลักก็เป็นเพราะพ่อ พ่อคาดหวังให้นางไม่ต้องแต่งงานไปตลอดชีวิต ทุกครั้งที่พูดถึงจิ่งเทียน ดวงตาของเขาก็จะเบิกโตอย่างกับน้ำในโอ่ง