บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1933 หม้ายชิงหวาเข้าวัง
ถังกั่วเอ๋อจะเตรียมเรื่องแต่งงาน พี่ชายทุกคนต่างตื่นเต้นมาก
ตอนนี้ซาลาเปากับทังหยวนยังอาศัยอยู่ในวัง ตำหนักบูรพาตงกงยังต่อเติมไม่เสร็จ ดังนั้นเรื่องนี้พวกเขาต้องรู้แน่นอน
เจ๋อหลานยังยิ้มหัวเราะพร้อมพูดถึงแผนการของตนเองให้พวกเขาฟัง แต่ตามด้วยนิสัยของพี่ชายทั้งสอง คาดว่าคงไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้
แล้วก็ไม่คาดคิด พี่ชายองค์ชายรัชทายาทกลับเห็นด้วย
เหตุผลของเขาก็ง่ายมาก เขาพูดขึ้นว่า “ตามที่ข้ารู้มา เขาชอบกั่วเอ๋อมานานมากแล้ว ความชอบนี้ในตอนนี้ยังถือว่าบริสุทธิ์ใจ แต่ตอนนี้อยู่ระหว่างเตรียมสอบ แล้วก็ถูกพาเข้ามาในวัง งั้นความคิดก็จะมีมากหน่อย หากได้เจอเจ้าในตอนนี้ รู้ว่าสถานะของเจ้าคือเจ้าหญิงเฉาหยางที่เสด็จพ่อทรงรักใคร่โปรดปราน แล้วก็เห็นเจ้างดงามดั่งนางฟ้า สำหรับเขาถือเป็นสิ่งล่อใจ พวกผู้ชาย โดยเฉพาะผู้ชายที่จะประสบความสำเร็จ จะต้องทนต่อสิ่งล่อใจพวกนี้ได้ พวกเราจะแอบสังเกตอยู่อย่างลับๆ หากเห็นเขาเผยความรู้สึกที่ดีต่อเจ้า งั้นข้าก็คิดว่ากั่วเอ๋อไม่จำเป็นต้องแต่งงานกับเขา”
ทังหยวนก็เห็นด้วย พร้อมพูดขึ้นว่า “ถึงแม้จะเป็นวิธีที่เชย แต่ข้าเห็นด้วยกับสิ่งที่พี่ชายพูด ยังไงกั่วเอ๋อก็จะต้องอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต”
ต่อไปเมื่อรับราชการ เป็นขุนนางแล้วจะต้องเผชิญกับสิ่งล่อใจมากยิ่งกว่านี้ ทั้งยังในทุกๆ ด้าน หากไม่มีความหนักแน่น สำหรับกั่วเอ๋อถือเป็นหายนะ
เจ๋อหลานพูดขึ้นว่า “แต่เรื่องนี้พี่กั่วเอ๋อไม่เห็นด้วย ดังนั้นเราต้องแอบลงมือ ไม่ให้นางรู้”
“งั้นจะให้นางรู้ไม่ได้เด็ดขาด กั่วเอ๋อโกรธขึ้นมาก็น่ากลัว ใช่ไหมพี่ใหญ่?” ทังหยวนหัวเราะพร้อมพูดขึ้น
ซาลาเปานิ่งเงียบ แล้วพูดขึ้นด้วยสีหน้าหนักใจว่า “โกรธโมโหไม่ถือว่าน่ากลัวที่สุด ที่น่ากลัวที่สุดคือร้องไห้ เจ้าจะปลอบยังไง?”
พูดแล้วก็อดไม่ได้ที่จะตำหนิเจ๋อหลานว่า “ปกติไม่เห็นเจ้าร้องไห้ ทำให้พวกเราไม่มีประสบการณ์ในการปลอบน้องสาวเลย ความเชี่ยวชาญนี้หากไม่ชำนาญ ต่อไปเจอกับเรื่องพวกนี้ ก็จะทำอะไรไม่ถูก กลายเป็นจุดอ่อนของพวกเรา?”
เจ๋อหลานตะลึง แบบนี้ก็โทษนางได้หรือ? สาเหตุที่นางไม่เคยร้องไห้ ไม่ใช่เพราะมีพวกเขาคอยรักและปกป้องมาตลอดหรือ? ไม่เคยถูกรังแก จะร้องไห้ได้อย่างไร? จะให้เศร้าโศกในฤดูใบไม้ผลิเสียใจในฤดูใบไม้ร่วง ร้องไห้กับซากดอกไม้หรือ?
“พ่อก็เหมือนกัน มักจะดีกับแม่ขนาดนี้ ไม่เคยทำให้แม่ต้องร้องไห้ ทำให้พวกเราไม่มีประสบการณ์ในการปลอบเด็กผู้หญิง” ทังหยวนเองก็เศร้า คิดๆ ดูแล้ว ก็เกิดมีความคิดหนึ่งขึ้นมา แล้วก็พูดขึ้นว่า “งั้นก็ครั้งนี้ทำให้น้องกั่วเอ๋อร้องไห้ แล้วเราค่อยปลอบนาง ถือเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ดีไหม?”
ซาลาเปาครุ่นคิดขึ้นมา เอามือเท้าคางแล้วก็คิดว่าแผนการของทังหยวนใช้ได้ไหม?
เจ๋อหลานเห็นเช่นนี้แล้วก็รีบพูดขึ้นว่า “กระทำให้คนของตนเองร้องไห้ใช้ได้ที่ไหน? ไม่เอา ข้าไม่ยอมให้พี่กั่วเอ๋อร้องไห้เสียใจ พวกเจ้าเป็นพี่ชายกันแบบนี้หรือ?”
ซาลาเปาพูดกับทังหยวนอย่างมีเหตุผลถูกต้องและวาทเต็มไปด้วยสัจธรรมขึ้นมาทันทีว่า “เจ้าเป็นพี่ชายแบบนี้หรือ? ห้ามทำให้นางร้องไห้”
ทังหยวนพึมพำพูดขึ้นว่า “เมื่อกี้เจ้าก็เห็นด้วยที่จะให้กวาเอ๋อร์ไปลองใจเสี่ยวหม้ายไม่ใช่หรือ? หากเสี่ยวหม้ายติดเบ็ดจริง ๆ น้องกั่วเอ๋อก็ต้องร้องไห้”
“เรื่องนี้เจ้าไม่เข้าใจ ลองใจแบบนี้เพื่อให้พวกเราวางใจ” ซาลาเปายังคงพูดอย่างมีเหตุผลถูกต้องและวาทะเต็มไปด้วยสัจธรรมอย่างมาก ที่สำคัญก็เพราะชีวิตในตอนนี้ค่อนข้างน่าเบื่อหน่าย ทำงานอยู่ทุกวัน เจ้าตาทับทิมก็มัวแต่ร่ำเรียน ไม่ค่อยมีเวลาสนใจเขา
อืม พวกเขาน่ารังเกียจมาก
เมื่อกำหนดแผนการแล้ว สวฝู่เหลิ่งพาเสี่ยวหม้ายเข้ามาในวัง
ภายในห้องทรงพระอักษร เจ้าห้ามองดูลูกเขยในอนาคตที่คุกเข่าอยู่บนพื้น ถึงแม้ลักษณะแบบนี้ ท่าทีแบบนี้ การวางตัวเช่นนี้ ดูแล้วก็พอใจมาก แต่เมื่อคิดถึงว่าเขาจะมาแย่งลูกสาวของตนเอง ก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจขึ้นมา
โสวฝู่เหลิ่งตั้งคำถามให้เขาตอบเกี่ยวกับปัญหาสถานการณ์ในตอนนี้ต่อหน้าเขา เขาพูดตอบอย่างคล่องแคล่ว และมีความคิดเห็นของตนเองอย่างพิเศษ เมื่อพูดกดดันก็ไม่ได้มีมุมคมคายเหมือนหนุ่มคนอื่น ๆ ทำให้เจ้าห้าพอใจอย่างมาก
โดยรวมแล้ว เสี่ยวหม้ายถือว่าใช้ได้
คิดได้ถึงแผนการของเจ้าหยวน จึงเรียกมู่หร่งกงกงเข้ามา ให้เขาพาเสี่ยวหม้ายไปเดินเล่นอุทยานอวี้ฮัว
มู่หร่งกงกงชายชราเจ้าเล่ห์คนนี้ ก็มีส่วนร่วมในแผนการของฮองเฮา หาเสี่ยวหม้ายไปถึงอุทยานอวี้ฮัวก่อน จากนั้นก็หาเหตุผลจากไป แล้วแอบมองดูท่าทีตอนที่เขาได้เจอกับเจ้าหญิง จากนั้นก็รอฮองเฮาจัดการให้กั่วเอ๋อออกมาเจอเขา
หยวนชิงหลิงสั่งคนไปตามกั่วเอ๋อ บอกว่าให้นางมาเดินเล่นเป็นเพื่อนตนที่อุทยานอวี้ฮัว แต่คนที่ส่งไปกลับถูกซาลาเปาลากถ่วงเวลาไว้
เวลานี้ ต้องให้เจ๋อหลานที่ตั้งใจแต่งตัวอย่างเต็มยศไปปรากฏตัวก่อน
เสี่ยวหม้ายเดินอยู่ในอุทยานอวี้ฮัว ที่จริงดอกไม้ในอุทยานอวี้ฮัวก็ธรรมดาอย่างมาก ไม่เห็นว่าจะมีดอกไม้ล้ำค่ามีชื่อเสียงอะไร
แต่เขาก็ไม่มีกะใจชมดอกไม้ ในใจยังคงตื่นเต้นอย่างมาก เพราะเขาได้เจอฮ่องเต้แล้ว ความตื่นเต้นนี้ไม่ได้เผยออกมา ในใจหวนคิดถึงตอนที่ตอบคำถาม มีตรงไหนที่ตนอธิบายไม่ชัดเจน หรือตรงไหนที่พูดตกหล่นไป