บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1940 หลังจากจัดให้เป็นระเบียบเรียบร้อยครั้งใหญ่แล้ว
- Home
- บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์
- บทที่ 1940 หลังจากจัดให้เป็นระเบียบเรียบร้อยครั้งใหญ่แล้ว
ท่านย่าหยวนฟังคำพูดพวกนี้อยู่ข้างใน หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ พร้อมพูดกับหยวนชิงหลิงว่า “ไม่คาดหวังให้พวกเขาจะสามารถเลิกเหล้าได้จริงๆ แต่อยากให้ดื่มน้อยลงหน่อย เมามายแบบนี้ให้น้อยครั้ง ก็จะสามารถมีชีวิตอยู่ต่ออีกหลายปี”
ถอดถอนหายใจ แล้วก็พูดขึ้นว่า “เหล้าชามโต เนื้อชิ้นใหญ่ ฟังดูแล้วชีวิตก็มีความสุข แต่มีกฎแห่งการเกิด แก่ เจ็บ และตาย”
หยวนชิงหลิงรู้ว่าท่านย่าเป็นห่วงพวกเขาอย่างมากจริงๆ คนเราทั้งชีวิตได้เจอมิตรสหายที่ดีถือว่าเป็นบุญมากแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ายังมีมากมายขนาดนี้
แต่เพื่อนในวัยชรา สำคัญที่สุดก็คือความชรา เพื่อให้พวกเขาได้มีสุขภาพที่แข็งแรง มีชีวิตอยู่ต่อได้มากหน่อย คุณย่าถือว่าทำทุกอย่างอย่างสุดแรงแล้ว
ที่ผ่านมาด่ายังไงก็ไม่มีประโยชน์ ครั้งนี้ป่วยครั้งใหญ่กลับมา เป็นลมต่อหน้าพวกเขาครั้งหนึ่ง แต่ละคนรู้จักกลัวแล้ว ที่กลัวก็เป็นเพราะความเป็นห่วงที่ท่านย่ามีต่อพวกเขา
หยวนชิงหลิงถามขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “จะไปเจอพวกเขาไหม? ยังเฝ้าอยู่ด้านนอกอยู่เลย”
“ให้พวกเขาเข้ามาเถอะ” ยังไงท่านย่าหยวนก็ทำใจไม่ได้ เพราะเมื่อกี้ด่าอย่างดุเดือดจริงๆ ด่าไปแล้วก็ต้องพูดปลอบบ้าง
ประตูถูกเปิด ทุกคนคืบคลานเข้ามา เห็นพี่จูตี้ลืมตาอยู่ค่อยโล่งอก
คนพวกนี้พูดไม่เก่ง เพียงแค่ยืนมองอย่างเงียบๆ ชายชราเงาดำที่มีสติกลับมามาแล้วพูดมากที่สุด ดังนั้นเชาจึงถามฮองเฮาเกี่ยวกับอาการป่วยของพี่จูตี้
หยวนชิงหลิงบอกพวกเขาว่า อาการป่วยหายดีบ้างแล้ว แต่มีโอกาสที่จะกำเริบ ระยะเวลาสองปีสองปีนี้เป็นช่วงเวลาสังเกตอาการที่สำคัญที่สุด เหน็ดเหนื่อยไม่ได้ โกรธโมโหไม่ได้ กินอาหารให้ถูกสัดส่วน ปลาใหญ่ เนื้อชิ้นโต ปิ้งย่างต่างๆ กินไม่ได้
แต่ละคนต่างไม่พูดไม่จา แต่ภายในใจคงรู้แล้วว่าอะไรเป็นยังไง
และแล้ว หลังจากออกไปพวกเขาก็เข้าไปประชุมกันในห้องประชุม
นอกจากดื่มเหล้าให้น้อยลงแล้ว ด้านอาหารการกินก็ต้องเปลี่ยนแปลง
เมื่อก่อนพวกเขาทานข้าว ข้าวชามโตข้างบนเต็มไปด้วยเนื้อชิ้นหนาหลายชั้น เนื้อล้วนไม่ชอบเพราะติดฟัน ชอบกินเนื้อติดมันชิ้นโตๆ เมื่อก่อนพี่จูตี้เคยพูดว่า ทานเนื้อติดมันเยอะไม่ได้ ดังนั้นต่อไปจึงเปลี่ยนเป็นเนื้อล้วน
ที่ผ่านมาผักผลไม้เป็นสิ่งที่ไม่ชอบอย่างที่สุด เห็นแล้วก็ต้องได้พูดออกมาว่าตนเองรังเกียจแค่ไหน แต่ต่อไปผักผลไม้จะต้องวางบนโต๊ะอาหาร
จำพวกบุหรี่ ต้องโยนออกไปจากจวนอ๋องซู่ ภายในจวนอ๋องซู่ทุกคนห้ามสูบบุหรี่
ส่วนเหล้า มื้อหนึ่งจากครึ่งกิโลก็กลายเป็นสองสามถ้วย แน่นอนว่าหากเป็นงานมงคลหรือมีโอกาสอะไรที่จะต้องฉลอง ยังต้องได้ดื่มพอประมาณ
แน่นอนว่าการตัดสินใจในครั้งนี้เป็นไปอย่างยุติธรรม ตัดสินโดยการลงคะแนน
ทุกคนยกมือ หลังจากอู๋ซ่างหวงลังเลอยู่สักพัก ก็ค่อยๆ ยกมือที่คดเคี้ยวขึ้นด้วยใบหน้าเศร้า ยังเป็นเพราะเซียวเหยากงช่วยเขายึดให้ตรง บอกว่าต้องยกสูงๆ เพื่อเป็นการบ่งบอกถึงความมุ่งมั่นในใจ
หลังจากประชุมกันเสร็จแล้ว อู๋ซ่างหวงรีบมาหาหยวนชิงหลิง ให้นางรีบจัดการเรื่องงานแต่งงานของกั่วเอ๋อ ยังมีงานแต่งงานของซาลาเปาด้วย ให้รีบกำหนดวันมงคลมาเลย
เขาก็น่าสงสาร ตอนที่อยู่เป็นเพื่อนพี่จูตี้ในยุคปัจจุบัน ถือว่าไม่ได้แตะต้องเหล้าเลย เดิมคิดว่ากลับมาทางนี้แล้วจะได้ดื่มสักครั้ง สุดท้ายเซียวเหยากงบอกว่าจะเลิกเหล้า ส่วนคนอื่นมื้อหนึ่งสามถ้วย แบบนี้ถือว่าดื่มเหล้ากันตรงไหน?
คิดถึงว่าชีวิตที่เหลือจะต้องบอกลาเหล้าแล้ว เขาเจ็บปวดราวกับถูกแย่งของที่รัก
หยวนชิงหลิงมองดูใบหูของเขาอยู่สักพัก อดทนที่จะไม่ไปดึง แล้วก็พูดขึ้นอย่างเชื่องช้าว่า “รอชายาเฟิงอันกลับมา แล้วทานค่อยไปพูดกับนาง”
อู๋ซ่างหวงยิ้ม ลูบจมูกแล้วเดินไปอย่างหลังค้อม
หลังจากหยวนชิงหลิงจัดการเรียบร้อยแล้วกลับวัง พวกแม่นมสี่ล้วนคุยกันอยู่กับอะซี่ เห็นหยวนชิงหลิงกลับมา ก็รีบถามนางเกี่ยวกับอาการของท่านย่าหยวน ได้ยินว่าท่านย่าหยวนกลับมาแล้ว และยังโกรธจนเป็นลมเพราะพวกคนเมา พวกนางโกรธโมโหอย่างมาก ตรงกลับจวนไปทันที
กลับมาถึงจวนอ๋องซู่ แม่นมสี่กับท่านน้าสองคนพร้อมแม่นมชิวไปเยี่ยมท่านย่าหยวนก่อน หลังจากคุยกันพร้อมทำน้ำตาสักพักแล้ว เพอออกมาก็ไม่พูดไม่จาถือไม้กวาดแล้วก็ไล่ตีคนทั่วทั้งจวน
จวนอ๋องซู่ก็เกิดอลหม่านวุ่นวายขึ้นมาอีก ในขณะที่เกิดเรื่องอลหม่านวุ่นวาย ท่านย่าหยวนอมยิ้มกำหนดเมนูอาหาร พาอู๋ซ่างหวงคนทรยศที่สั่นสะท้านเอาบุหรี่ในจวนไปเผาทิ้งทั้งหมด แล้วก็นำเนื้อปลาตากแห้งพวกนั้นไปแจกจ่ายคนอื่น
จวนอ๋องซู่ผ่านการจัดการเรียบร้อยแล้ว ก็ว่าง่ายอย่างมาก ถึงแม้จะได้ยินคำบ่นอยู่บ้าง แต่หลังจากบ่นแล้ว ควรกินหญ้าก็ยังต้องกินหญ้า
อู๋ซ่างหวงเก็บข้างของ บอกว่าจะเข้าไปอยู่ในวังสองสามวัน ท่านย่าหยวนบอกกับเขาอย่างเรียบเฉยว่า ภายในวังมีหยวนชิงหลิง เข้มงวดยิ่งกว่านางอีก อย่าแม้แต่จะคิดว่าจะมีโอกาส
อู๋ซ่างหวงลังเลสักพัก กลับห้องไปโยนกระเป๋าทิ้ง
เป็นแบบนี้มากกว่าครึ่งเดือน หยวนชิงหลิงออกมาทำการเจาะเลือดตรวจสุขภาพครั้งใหญ่ แต่ละคนสถิติดีมาก ไม่มีผลสืบเนื่องจากการเลิกเหล้า ทำให้น่าวางใจ
หลังจากกลับวัง หยวนชิงหลิงบอกกับหยู่เหวินเห้าว่า หากสามารถรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพและใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปได้ พวกเขายังสามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกนาน
หยู่เหวินเห้าหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “ก่อนหน้านี้ควบคุมยังไงก็ไม่มีประโยชน์ ท่านย่าป่วยแล้วก็เป็นลม พวกเขาค่อยรู้จักกลัว จัดการได้ดีมาก”