บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1946 แต่ละคนล้วนแตกต่างกัน
เจ๋อหลานบอกเรื่องที่คุณชายเสี่ยวหม้ายได้เป็นจอหงวนให้ถังกั่วเอ๋อรู้เป็นอันดับแรก
เดิมคิดว่าพี่สาวจะดีใจจนกระโดดโลดเต้น กลับคิดไม่ถึง นางเพียงแค่โล่งอก เผยรอยยิ้มที่โล่งอกออกมา พร้อมพูดขึ้นว่า “ดีจัง เขายอดเยี่ยมมากจริงๆ”
“แค่นี้?” เจ๋อหลานเห็นนางสงบเงียบ จึงพูดขึ้นว่า “ข้ายังคิดว่าเจ้าจะดีใจจนกรี๊ดร้องออกมา”
ถังกั่วเอ๋อดึงนางมานั่งลงแล้วพูดขึ้นว่า “ข้าดีใจมาก ดีใจที่สุด ดีใจจนพูดไม่ออก ช่วงเวลานี้เขาจะต้องทุกข์ทรมานอย่างมากแน่ ในที่สุดก็มีผลงานแล้ว ข้าก็โล่งอกแทนเขา”
เจ๋อหลานพูดว่า “เขายอดเยี่ยมมาก ข้อสอบครั้งนี้ยากมากจริงๆ แต่คำตอบของเขาทำให้ทุกคนพอใจอย่างมาก เสด็จปู่ยังบอกว่าเขาเป็นคนที่มีความสามารถที่หาได้ยาก”
“ไท่ซ่างหวงยังพูดเช่นนี้หรือ?” ถังกั่วเอ๋อแสดงท่าทางภาคภูมิใจ และรู้สึกประหลาดใจ
“ไม่โกหกเจ้าแน่ เสด็จปู่ยังไม่กลับหมู่ตึกเหมย คาดว่าคงจะเรียกเขามาเข้าเฝ้า พรุ่งนี้เขาก็จะเข้ามาในวัง พี่สาวอยากเจอเขาสักครั้งไหม?”
ถังกั่วเอ๋อครุ่นคิดสักพัก พร้อมพูดขึ้นว่า “ก็อยากอยู่ แต่พรุ่งนี้เขาเข้าเฝ้าเพื่อขอบพระคุณ และไท่ซ่างหวงก็จะพบเขา…. เขาไม่สะดวกที่จะมาวังหลัง ข้าก็ไม่สะดวกที่จะไปวังหน้า จะเจอกันได้อย่างไร? หากดึงดันไปหา ก็เป็นการเสียมารยาทมาก เวลายังอีกยาวไกล ไม่ต้องเร่งรีบในตอนนี้”
เจ๋อหลานยิ้มหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “นั่นก็ถูก สอบได้เป็นจอหงวนแล้ว เรื่องงานแต่งงานยังไงก็เป็นที่แน่นอนแล้ว รอเพียงให้พ่อมีพระราชทานให้แต่งงานลงมา”
ถังกั่วเอ๋อเอียงอาย ดึงมือเจ๋อหลานไว้ พร้อมพูดขึ้นอย่างจริงใจว่า “น้องสาว เหนื่อยเพราะเรื่องของข้าตั้งหลายครั้ง ขอบใจมากนะ”
“เราเป็นพี่น้องกัน จะพูดจาเกรงใจแบบนี้ทำไม?” ตาคิ้วเจ๋อหลานอบอุ่น รอยยิ้มเผยตรงมุมปาก ทำให้แลดูให้เห็นถึงใบหน้าอ่อนโยนนวลเนียน
ที่นางยอมวิ่งไปมาเป็นธุระให้ก็เพื่อหวังอยากให้พี่สาวมีความสุข แต่ก็มีเหตุผลของตนเอง
นางอยากเห็นถึงความรักที่งดงามที่สุด เหมือนอย่างที่พวกพี่ชายพูดถึง การสะสมประสบการณ์ความรัก
นางสามารถจัดการเรื่องทุกอย่างมากมายได้อย่างเรียบร้อย มีความคิดที่ชัดเจน เพียงทางด้านความรักที่หลังค่อนข้างไม่มั่นใจ
นางมีความรู้สึกดีต่อจิ่งเทียน เวลาอยู่กับเขาก็มีความสุขสบายใจมาก เขาละเอียดอ่อนทำให้นางสบายใจ
ช่วงเวลาที่นางอยู่ในเมืองหลวง ก็มักจะคิดถึงเขาเป็นบางครั้ง แต่ก็เป็นแค่บางครั้ง ไม่ได้คิดถึงอย่างสุดซึ้ง
เดิมพี่สาวบอกว่านางระมัดระวัง บางทีอาจก็มีส่วนบ้างหรือ?
นางเองก็ไม่เข้าใจ
กลางคืน นางถือโอกาสตอนที่พ่อพูดคุยอยู่กับอู๋ซ่างหวงไท่ซ่างหวง มาหาแม่ ทั้งสองแม่ลูกอยู่ด้วยกันบนเตียงหลัวฮั่น
สาวน้อยที่กำลังง่วงนอน แต่ก็ยังเล่าความในใจให้แม่ฟังอย่างเคยชิน
นางบอกว่าตนเองไม่รู้เรื่องความรัก และก็ไม่ได้รักใครอย่างจริงจังเหมือนอย่างพี่สาว มักจะรู้สึกว่าทำอะไรไม่ถูกในด้านนี้ และในใจมักจะรู้สึกว่ายังมีเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่า
นางเงยใบหน้าเล็กน้อยมองดูแม่ ตาคิ้วเต็มไปด้วยความเศร้าพร้อมพูดขึ้นว่า “แม่ ข้าถือว่าเป็นคนที่ปิดกั้นความรักไหม?”
หยวนชิงหลิงลูบคลำเส้นผมดำเงาสลวยของลูกสาว พร้อมพูดขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า “อืม….มีความเป็นไปได้หรือไม่ ลูกสาวของแม่ยังไม่เติบโต? ยังไม่ถึงวัยที่รู้จักความรัก?”
เจ๋อหลานควงคอของแม่ แนบหัวซบอกของนางพร้อมพูดขึ้นว่า “แต่ตอนที่ข้าอยู่เมืองโร่ตู ก็ได้ยินผู้หญิงมากมายพูดว่า ตอนที่อายุสิบเอ็ดก็รู้จักมีใจให้กับผู้ชายแล้ว”
“เรื่องของความรัก เปลี่ยนแปลงไปตามคน ใช่ว่าทุกคนจะเหมือนกัน เป็นเรื่องไม่แน่นอน และเจ้าเคยเป็นเจ้าเมืองเมืองโร่ตู เป็นห่วงประชาชนและความเจริญรุ่งเรืองของที่นั่น บวกกับ…” หยวนชิงหลิงลูบใบหน้าของนางอย่างเอ็นดู พร้อมพูดขึ้นอย่างถอดถอนใจว่า “ตอนที่เจ้าคลอด สิ่งเหนือธรรมชาติถูกเปิดเผย ติดตามฝึกวิชาสงบจิตกับอาจารย์มาหลายปีขนาดนี้ ความสามารถในการควบคุมอารมณ์จิตใจของเจ้าดียิ่งกว่าคนอื่นทั่วไป อารมณ์ที่เกิดจากความรัก ก็จะถูกควบคุมโดยสัญชาตญาณ”
เจ๋อหลานรู้ว่าแม่รู้สึกผิด นางคิดว่าตนเองไม่ควรถามคำถามแบบนี้ทำให้นางทรมาน จึงรีบหัวเราะแล้วพูดขึ้นว่า “งั้นก็แสดงว่าข้ามีความสามารถในการควบคุมตนเองได้ดีกว่าคนอื่นอย่างมากใช่ไหม? นั่นถือเป็นความสามารถที่ดี มีคนมากมายไม่สามารถทำการใหญ่ได้ เพราะไม่มีความสามารถในการควบคุมตนเอง คุณข้าควรที่จะภาคภูมิใจ”
หยวนชิงหลิงอดกลั้นความทุกข์ใจไว้ พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “ลูก เส้นทางชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทางเดินของแต่ละคนต่างกัน เจ้าไม่ต้องเอาตัวเองไปเปรียบกับใคร เป็นตัวของตัวเองก็พอ”
“แม่ ข้าเข้าใจแล้ว” เจ๋อหลานซบแนบอกแม่ ลมหายใจและการเต้นของหัวใจแม่ทำให้นางรู้สึกสงบและปลอดภัย เวลานี้สมองรู้สึกมีสติอย่างมาก ก่อนหน้านี้เพราะเรื่องงานแต่งงานของเสี่ยวหม้ายกับพี่สาว ทำให้ในใจของนางรู้สึกสั่นไหว คิดถึงปัญหาเกี่ยวกับเรื่องความรัก
แต่ตอนนี้นางค่อนข้างมีสติมากขึ้น นางไม่อยากมีความรักและแต่งงานเร็ว ทั้งชีวิตของผู้หญิงมีเวลาเป็นของตนเองไม่มาก โดยเฉพาะในวัยสาวของผู้หญิงยิ่งมีความสำคัญ ช่วงเวลานี้ กระทำเรื่องที่ตนเองอยากทำ หนึ่งในนั้นรวมถึงการอยู่กับพ่อแม่
ช่วงเวลาที่นางอยู่กับพวกเขานั้นน้อยมากจริงๆ