บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1947 สิ่งที่เจ๋อหลานอยากทำ
ในใจหยวนชิงหลิงรู้สึกผิดต่อลูกสาวมาตลอด เพราะตั้งแต่เล็กก็ถูกส่งไปให้ฉีฮั่ว ไม่เหมือนกับเด็กคนอื่น ที่ได้อยู่ข้างกายพ่อแม่
และเพราะมีความสามารถเหนือธรรมชาติ บีบบังคับให้นางเป็นผู้ใหญ่เร็วกว่าคนอื่น
แต่นางก็เชื่อว่าลูกสาวจะสามารถเดินไปตามทางของตนเอง และนางก็จะมีความสุข มีความภาคภูมิใจ และถือเป็นสิ่งที่จะต้องทำไปตลอดชีวิต
ดังนั้นนางจึงพูดคุยกับลูกสาวเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถามนางว่าต่อไปอยากจะเป็นคนยังไง
คำถามนี้ นางก็เคยถามลูกชายทั้งห้าคน ตอนนี้แม้แต่ข้าวเหนียวก็มีสิ่งที่ตนเองเลือกแล้ว นางยังไม่ได้ถามเจ๋อหลานมาตลอด ทุกคนก็ไม่ถาม ราวกับนัดกันไว้แล้ว เพราะถามแล้วต่างก็มักจะมีที่ไป ไม่ถามนางก็ยังอยู่ที่บ้าน
เจ๋อหลานลังเลสักพัก แล้วก็เงยหน้าขึ้นพร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “แม่ หากข้าพูดกับแม่แล้ว แม่อย่าไปบอกพ่อนะ เพราะเรื่องนี้ข้าเพียงแค่คิดอยู่ในหัวสมอง ไม่ได้คิดอยากที่จะไปทำจริง”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “เราสองแม่ลูกพูดคุยความในใจกัน จะไปเล่าให้เขาฟังทำไม? เขากลับพวกพี่ชายก็คุยเรื่องในใจกันเป็นบางครั้ง เราก็ไม่ฟังเรื่องพวกผู้ชายของพวกเขา”
เจ๋อหลานหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นด้วยสายตาอย่างกับเด็กน้อยที่เห็นได้ยากว่า “ก็ถูก เราไม่ยุ่งเรื่องของพวกผู้ชาย”
หยวนชิงหลิงจ้องมองดูนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “อืม งั้นลูกสาวของแม่มีอะไรจะแบ่งปันเล่าให้แม่หรือ?”
เจ๋อหลานหายใจเข้าลึกๆ เห็นได้ชัดว่าความคิดนี้อยู่ในใจของนางมาเนิ่นนานแล้ว นางไม่พูดมาตลอด อาจจะคิดว่าเป็นเรื่องไร้เดียงสาหรือไม่เหมาะสม พูดขึ้นว่า “แม่ ข้าถามเจ้า พ่อครองแผ่นดินนี้ ทุกหนแห่งล้วนยุติธรรมหรือเปล่า?”
“อืม…อาจจะไม่ใช่ ถึงแม้พ่อของเจ้าจะเป็นกษัตริย์ที่ดี แต่ใช่ว่าทุกที่จะเป็นขุนนางที่ดี ต่อให้ล้วนเป็นขุนนางที่ดี แต่ก็ต้องมีสถานที่ดูแลไม่ทั่วถึง”
“งั้นเวลาประชาชนเจอเรื่องเดือดร้อน หรือถูกรังแก ล้วนมีคนให้ความยุติธรรม? คนที่กระทำผิดทุกคนต่างได้รับโทษตามกฎหมายไหม?”
“ถึงแม้แม่จะไม่อยากพูดขนาดนี้ แต่ความจริงแล้วก็ยากที่จะทำเช่นนี้ได้ มีบางคนกระทำผิด แต่หากไม่มีหลักฐาน หรือไม่มีคนรู้เรื่อง ก็จะสามารถหลุดพ้น และมีประชาชนบางคนทุกข์ยาก ถูกใส่ร้าย ก็ใช่ว่าจะสามารถ ได้รับความยุติธรรมอย่างมีเหตุผล หรือมีคนช่วยเหลือพวกเขา”
เจ๋อหลานเงียบไปสักพัก เงยหน้าขึ้นแล้วพูดขึ้นว่า “แม่ ข้ายังมีความสามารถอีกอย่างหนึ่ง บางทีแม่อาจจะไม่รู้ นั่นก็คือข้าสามารถมองเห็นคนคนหนึ่ง แล้วก็สามารถรู้ได้ว่าเขามีคดีฆาตกรรมหรือไม่”
หยวนชิงหลิงอึ้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “จริงหรือ? ไม่เคยได้ยินเจ้าพูดถึง”
เจ๋อหลานหัวเราะอย่างขมขืน พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้ารู้ว่าพวกเขามีคดีฆาตกรรม แต่ไม่สามารถหาหลักฐานมาให้กฎหมายจัดการพวกเขา แต่ข้าเป็นเจ้าหญิง ไม่สามารถใช้การลงทัณฑ์ได้ ทำได้เพียงมองดูพวกเขาหลุดพ้นไปอย่างอิสระ”
“นี่คือสิ่งที่ข้าสับสน การที่ว่าเวรกรรม คือการฆ่าคนก็ต้องชดใช้ด้วยชีวิต ต่อให้ไม่ชดใช้ด้วยชีวิต ก็ควรที่จะได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง”
“กฎหมายภายในโลก จะต้องมีหลักฐานกระทำผิด สิ่งนี้ไม่ผิด ย่อมไม่ขัดกับวิถีแห่งสวรรค์ แต่ปัญหาอยู่ที่คนไม่ใช่เทวดา เป็นไปไม่ได้ที่จะรู้ความบาปทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโลก สิ่งนี้นำไปสู่ผู้คนที่ได้รับความอยุติธรรมมาโดยตลอดและตะโกนว่าสวรรค์ไม่ยุติธรรม หากข้ามองไม่เห็นความผิดบาปกับความทุกข์ทรมานพวกนั้น บางทีอาจจะมีความสุขบ้าง แต่แม่ ข้ามองเห็น ก็กลับทำได้เพียงแค่มอง”
จ๋อหลานพูดอย่างทรมาน นี่เป็นความลับที่นางเก็บไว้ในใจมาตลอด และก็เป็นเหตุที่ทำให้นางโศกเศร้ามาตลอด
หยวนชิงหลิงเอื้อมมือไปกอดลูกสาว สงสารอย่างมาก อยากพูดปลอบนาง แต่ก็รู้ว่าลูกสาวเป็นคนฉลาด หลักการเหตุผลทั่วไปนางล้วนรู้ทุกอย่าง และปัญหาที่นางพูดออกมา ตนเองก็ไม่สามารถโต้เถียงได้
“เพราะความผิดที่ไม่มีหลักฐานพวกนั้น พวกคนที่โหดร้ายร้ายกาจ ความเจ็บปวดในความมืดมิดที่ไม่มีใครรู้พวกนั้น ล้วนมีอยู่จริง”
อาจเป็นเพราะแบบนี้ หัวสมองของนางจึงปิดกั้นความสามารถบางอย่างโดยอัตโนมัติ ไม่มองไม่ฟังไม่เห็น เป็นสิ่งที่ดีที่สุด
“ดังนั้น เจ้าอยากทำอย่างไร?” หยวนชิงหลิงถามขึ้น
เจ๋อหลานลังเลอยู่นาน และก็ไม่รู้ว่าควรที่จะพูดออกมาไหม แต่หลังจากครุ่นคิดดูแล้ว นางคิดว่าสามารถเชื่อถือแม่ไม่ได้ จึงนั่งตัวตรงแล้วพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า “ข้าอยากลงมืออย่างลับๆ ไปจัดการคนชั่วที่กฎหมายไม่สามารถทำอะไรได้พวกนั้น ปกป้องความยุติธรรมให้กับคนในโลก”
นางพูดอยู่เช่นนี้ สีหน้าค่อนข้างแดง แล้วพูดขึ้นว่า “ฟังดูแล้วไร้เดียงสางี่เง่ามากไหม? แบบนี้ไม่เหมือนข้าเป็นคนพูดออกมาใช่ไหม? บางทีในใจของแม่ ควรที่จะมีความมานะพยายามพากเพียร ข้าใช้ความรุนแรงจัดการความรุนแรง ที่จริงก็เป็นความชั่วร้ายอย่างหนึ่ง ใช่ไหม?”
นี่เป็นปัญหาที่นางคิดไม่ตกมาตลอด การใช้ความรุนแรงจัดการความรุนแรงเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง มีเพียงกฎหมายของแผ่นดินที่จะสามารถทำเช่นนี้ได้
แต่ยิ่งเห็นเยอะ ก็ยิ่งไม่สามารถนิ่งดูดาย
นางมองดูแม่ หวังว่าแม่จะสามารถชี้ทางให้กับนางได้ หรือพูดโน้มน้าวให้นางนิ่งเฉยกับเรื่องพวกนี้
แม่เป็นคนที่ฉลาดมาก นางมองรู้ความจริงทุกอย่าง
หยวนชิงหลิงมองดูสายตาของนาง พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “แม่ได้ยินมาว่า มีคนคนหนึ่งชื่อเฟิงหลิงเซียว เขาเป็นเจ้าแห่งนรก มีหน้าที่จับวิญญาณชั่วลงนรก……แน่นอน นี่เป็นเรื่องเล่าอาจจะไม่ใช่เรื่องจริง หากเป็นความจริง งั้นเขาจะต้องดีใจที่จะมีคนมาช่วยเขาจัดการคนชั่วร้ายที่หลุดพ้นจากการลงโทษโดยกฎหมายบนโลก”