บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1953 คณะทัวร์แคว้นจินมาถึง
หยวนชิงหลิงจำต้องออกจากวังมายังจวนอ๋องซู่ด้วยตนเอง เพราะอู๋ซ่างหวงส่งคนไปตามถึงวัง พูดอย่างร้ายแรง ร้ายแรงราวกับฟ้าจะถล่มลงมา
มาถึงจวนอ๋องก็รีบตรวจร่างกายให้กับท่านย่า ใช้อุปกรณ์เครื่องมือมากมาย อย่างน้อยสำหรับคนในจวนอ๋องซู่ ถือว่ารุนแรงถึงต้องใช้อุปกรณ์เครื่องมือ
สายตาทั้งหมดต่างจ้องมองอยู่ตรงนั้น สายตาเฉียบคมมองดูสีหน้าท่าทีทุกอย่างของหยวนชิงหลิง อยากที่จะหาคำตอบบนนั้น
หยวนชิงหลิงกับท่านย่ามองตากันเป็นที่รู้กันแต่แรกแล้ว และเมื่อตอนที่อู๋ซ่างหวงส่งคนมาหานางในวัง ก็พูดเน้นว่าท่านย่าจะดื่มเหล้า คนที่ไม่เคยดื่มเหล้ามาตลอดมีอาการเหมือนคนติดเหล้า นี่ถือเป็นเรื่องรุนแรงขนาดไหน
เมื่อตรวจเสร็จแล้ว สีหน้าหยวนชิงหลิงก็หนักแน่น ไม่พูดอธิบายอะไรต่อหน้าทุกคน ถือกล่องยาแล้วก็เดินออกไป
ทุกคนนิ่งอึ้งไปสักพัก จากนั้นก็รีบเร่งฝีเท้าตามนางไป
มาถึงห้องด้านข้าง หลังจากหยวนชิงหลิงวางกล่องยาลง ก็ถอนหายใจอย่างหนักใจ
อู๋ซ่างหวงร้อนใจจนจะตอบตีคนแล้ว พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้ารีบพูดมา ถอนหายใจทำไม? อาการป่วยมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือ?”
“ใช่ รีบพูดสิ ร้อนใจจะแย่แล้ว” ชายชราเงาดำก็พูดเร่ง
สายตาหยวนชิงหลิงมองไปที่อู๋ซ่างหวง พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงเข้มว่า “ในระหว่างที่นางเข้ารับการรักษาตัวทรมานขนาดไหน ท่านรู้ดีที่สุด ยามากมายที่ใช้ ซึ่งถ้าเป็นยา ล้วนมีพิษ 3 ส่วน การใช้ยาเป็นเวลานานอาจทำให้ตับและไตเสียหายได้ ทำให้เกิดผลข้างเคียงมากมาย…..ผลข้างเคียงเหล่านี้ได้แก่ ปวดท้อง ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ นอนไม่หลับ พิษสุราเรื้อรังก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ร่างกายของนางห้ามดื่มโดยเด็ดขาด ห้ามดื่มแม้เพียงนิด ไม่อย่างนั้นผลที่จะตามมาร้ายแรงมาก”
หยวนชิงหลิงมองเห็นดวงตาแต่ละคู่ที่หนักแน่นและจริงจัง จนเกือบจะโกหกต่อไปไม่ไหวแล้ว ผลข้างเคียงของการเสพติดเหล้านี้ค่อนข้างแปลกมาก โชคดีที่ไม่มีใครสงสัยในความเป็นมืออาชีพของนาง ทุกคนแลดูเป็นกังวล
ท่านย่าลงทุนทำเพื่ออู๋ซ่างหวงอย่างมากจริงๆ รู้ว่าอู๋ซ่างหวงยังไม่อยากเลิกเหล้า เพราะอู๋ซ่างหวงรู้ว่าท่านย่าแกล้งเป็นลม
ทุกคนตาบอด มีแต่เขาเท่านั้นที่ตื่น เขาจึงตัดสินใจเลิกเหล้าไม่ได้ ช่วงนี้ต้องดิ้นรนเพื่อให้ได้ดื่มสักครั้ง
แต่เมื่อดื่มไปแล้วหนึ่งครั้ง ก็ต้องมีครั้งที่สอง และก็จะพาคนอื่นในจวนอ๋องซู่ดื่มด้วย ความตั้งใจของท่านย่าจะถูกเขาทำลายเสียหมด
อีกอย่าง หลังจากดื่มแล้วก็จากค่อยๆ กำเริบเสิบสาน บุหรี่ก็จะตามมา ต่อไปอะไรนิดหน่อยก็จะต้องปิ้งย่าง ความโลภที่ชอบทานเนื้อก็จะกลับมา
ท่านย่าใช้วิธีก้าวหน้าโดยการถอยกลับ สมเหตุสมผลแล้วที่จะคอยเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด ต่อให้หยวนชิงหลิงต้องโกหกก็ต้องช่วยท่านย่า
และแล้ว เมื่อได้ยินว่าแตะต้องเหล้าไม่ได้เลยสักนิด หากดื่มแล้วผลที่จะตามมานั้นร้ายแรง ท่าทีของทุกคนต่างก็ตื่นเต้นกันขึ้นมา
หยวนชิงหลิงยกความรับผิดชอบในการช่วยท่านย่าเลิกเหล้าให้เป็นหน้าที่ของอู๋ซ่างหวง ยังไงละครที่ใหญ่ขนาดนี้ ก็สร้างมาเพื่อเขา
อู๋ซ่างหวงมองดูพี่จูตี้ สายตาก็เต็มไปด้วยความเป็นกังวล ภายในความเป็นกังวล ก็มองเห็นถึงความแน่วแน่
หลังจากนั้นมา อู๋ซ่างหวงก็ไม่สนใจอีกแล้วว่า ฮ่องเต้แคว้นจินจะมาถึงเมืองหลวงเมื่อไหร่ ในงานเลี้ยงรับรองจะใช้เหล้าอะไรเขาก็ไม่สนใจแล้ว กระทั่งมีคำสั่งห้ามทุกคนในจวนอ๋องซู่ดื่มเหล้า แม้แต่มื้อละสามจอกของพวกชายชราชุดดำก็ถูกห้าม
รอเมื่อคณะทัวร์แคว้นจินมาถึงเมืองหลวง อู๋ซ่างหวงก็บอกว่า ด้วยสถานะอันสูงส่งของเขาในตอนนี้ ใครว่าใครก็จะสามารถได้เห็น งานเลี้ยงรับรองจึงไม่เข้าร่วม
ตอนที่คณะแคว้นจินมาถึง ศาสหงหรูกับกรมพิธีการรวมถึงกรมวังงานยุ่งที่สุด ต้อนรับ รับรอง เตรียมงานทุกอย่าง จนส้นเท้าแทบไม่ได้แตะพื้น
ขุนนางท่านอื่นของแคว้นจินทั้งหมดจัดให้พักในโรงเตี๊ยม ฮ่องเต้แคว้นจินจิ่งเทียนอาศัยอยู่ในวังชั่วคราว เพื่อสะดวกในการเข้ารับการรักษา
หลังจากรับรองเรียบร้อยแล้ว อ๋องซุนบอกว่าเขาเหนื่อยจนผอมหมดแล้ว วันนี้กลับไปจะต้องทำการบ้านไม่ได้แน่ หลังจากบ่นให้เจ้าห้าฟังในห้องทรงพระอักษรแล้ว ก็ตีหลังพร้อมกลับไปพักสักแปบ
งานเลี้ยงรับรองจะจัดขึ้นในคืนวันที่สอง แต่ในวันที่มาถึง ยังไงก็ต้องพาพวกขุนนางแคว้นจินมาเข้าเฝ้าฮ่องเต้เป่ยถัง ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงไปดื่มชา แล้วก็ทานขนมชิ้นหนึ่ง
ทางด้านเป่ยถังก็มีขุนนางอยู่ด้วย แต่ละคนถึงแม้จะไม่เคยเจอหน้ากัน แต่ก็ดูเหมือนคุ้นเคยกันดี โชคดีที่ภาษาต่างกันไม่มาก บวกกับมีอ๋องเว่ยกับอ๋องอานคอยเป็นล่ามแปล จึงคุยกันได้อย่างสนิทสนม
อ๋องอานกับอ๋องเว่ยไปเข้าเฝ้าหยู่เหวินเห้าก่อน พวกพี่น้องคุยกันสักพัก อ๋องเว่ยก็ขอตัวกลับจวนไปหาพวกลูกๆ ก่อน
เรื่องที่ก่อนหน้านี้ชุยฟู่เจิ่นชอบป้ายชื่อ เขารู้เรื่องแล้ว อาศัยที่ได้กลับเมืองหลวงในครั้งนี้ ต้องคุยกับเขาดีๆ
ยังไงในเมืองหลวงก็มีขุนนางเยอะ การต้อนรับแขกพวกเขาชำนาญ ไม่งั้นพรุ่งนี้ในงานเลี้ยงรับรองเขาดื่มเยอะหน่อยก็พอ
จิ่งเทียนพักอยู่ที่ตำหนักเหอฮุยเตี้ยใกล้กับสวีอี ห่างจากตำหนักเจ๋อหลานพอประมาณ วันนี้หยู่เหวินเห้ามีคำสั่ง ห้ามเจ๋อหลานกับจิ่งเทียนเจอกัน รอพรุ่งนี้ในงานเลี้ยงต้อนรับค่อยเจอกัน
หยวนชิงหลิงถามเขาว่าทำไมจะต้องทำเช่นนี้ เขาบอกว่ามีเหตุผลสำคัญ เมื่อถามว่าเหตุผลอะไร เขาก็อ้ำๆ อึ้งๆ ไม่ยอมพูดออกมา
หยวนชิงหลิงแอบขำ รู้ว่าเขาตั้งใจที่จะหาเรื่องไม่ให้พวกเขาได้เจอกัน หากไม่ทำเช่นนี้ เขาจะไม่สบายใจ