บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1958 อู๋ซ่างหวงไม่มา
กลางดึก หลังจากเจ๋อหลานส่งฮ่องเต้จิ่งเทียนกลับหอฮุยเตี้ยน ตนเองเดินอยู่ในอุทยานอวี้ฮัวคนเดียว
นกฟีนิกซ์บินมา เกาะอยู่บนไหล่ของนาง เจ๋อหลานเอื้อมมือลูบขนของมัน แล้วก็ถอนหายใจเบา ความรู้สึกภายในใจหลังจากได้ฆ่าคน ที่จริงนางค่อนข้างโล่งอก แต่จะต้องแสดงท่าทีออกมาให้แลดูหนักใจ เพราะเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ ล้วนเป็นเรื่องน่าเศร้า
ลงโทษคนทรยศคนชั่วร้าย สำหรับนางถือเป็นการคลายความกดดันอย่างหนึ่ง ทุกครั้งที่นางทำภารกิจสำเร็จ ภายในใจรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย อย่างบอกไม่ถูก ราวกับแผ่นดินสะอาดขึ้น
แต่เมื่อครุ่นคิดลึกลงไปนางก็รู้สึกหวาดกลัว กลัวว่าตนเองจะชอบความรู้สึกในการที่ได้ฆ่าคน
แม่พูดถูก นางต้องเติบโต ต้องหาความสมดุลในที่นี้
เดินเล่นอยู่ในอุทยานอวี้ฮัวกว่าครึ่งชั่วโมง นางค่อยกลับไปนอน
ยามสี่แล้ว นางกลายเป็นเจ้าหญิงน้อยที่ชอบนอนขี้เซาคนนั้นอีกแล้ว
ยามเฉินกั่วเอ๋อมาหานาง นางยังไม่ตื่น กั่วเอ๋อเอารังนกที่ต้มเองกับมือวางไว้ สั่งคนรับใช้ในตำหนักไว้ว่า รอเมื่อนางตื่นขึ้นมาแล้วอย่าลืมให้นางดื่ม แล้วก็เตือนนางว่าตอนเที่ยงจะออกจากวังไปหาอานจือจวิ้นจู่ด้วยกัน
พวกนางนัดกันไว้แต่แรกแล้ว รออานจือกลับมาเมืองหลวง ก็จะออกไปเที่ยวเล่นด้วยกัน
วันนี้ภายในวังจะจัดงานเลี้ยง แต่ล้วนเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ พวกนางไม่ต้องเข้าร่วมก็ไม่เป็นไร
เจ๋อหลานตื่นมาหลังจากกั่วเอ๋อกลับไปได้ไม่นาน ดื่มรังนกแล้ว ก็ตรงไปหาแม่
วันนี้ แม่บอกว่าจะตรวจร่างกายให้กับฮ่องเต้จิ่งเทียน ในขณะเดียวกันอาจจะต้องใช้ยา นางอยากอยู่ฟังด้วย
เดิมคิดว่าวันนี้จะไปเช้าหน่อย แต่กลัวว่าจิ่งเทียนเดินทางมาเมืองหลวงอย่างเหน็ดเหนื่อย เมื่อคืนก็ออกไปพร้อมกับนาง จะต้องไม่ได้นอนหลับดีแน่ จึงอยากให้เขาได้นอนเยอะหน่อย
แต่เมื่อมาถึงตำหนักหลัก แม่กลับบอกนางว่าตอนยามห้า จิ่งเทียนก็ถูกเจ้าห้าลากตัวไปแล้ว
เจ๋อหลานพูดขึ้นว่า “ยามห้าหรือ? งั้นเขาก็แทบไม่ได้นอนเลย? พ่อไปหาเขาเช้าขนาดนี้ทำไม?”
“บอกว่าจะทานอาหารเช้าร่วมกัน แล้วก็มีเรื่องคุยกันต่อ” หยวนชิงหลิงมองดูลูกสาว เห็นวันนี้นางแลดูอารมณ์ดีขึ้นมาก ตาคิ้วสดใส ไม่ต้องใช้พลังจิต ก็รู้ว่าเมื่อคืนนางได้แก้ปัญหาจัดการเรื่องนั้นแล้ว
ไม่กล้าที่จะบอกนางว่า เมื่อคืนพ่อของนางไม่ได้นอนเลยทั้งคืน เพิ่งยามห้าก็ออกไปหาจิ่งเทียนแล้ว
แต่ลูกสาวก็ไม่รั่วไหล หลังจากนางฟังแล้ว คิ้วน้อยๆ ขมวดขึ้นมา พร้อมถามขึ้นว่า “งั้นพ่อนอนไปนานแค่ไหน? เมื่อคืนนอนหลับตอนกี่โมง?”
หยวนชิงหลิงได้ยินเช่นนี้ รู้สึกว่าความรักที่เจ้าห้ามีต่อลูกสาวนั้นไม่เสียแรงจริงๆ ได้ความรักความห่วงใยกลับมาเท่าเทียบกัน ต่างคนต่างรักชอบมุ่งหน้าไปหากัน
“วางใจ นอนหลับแต่แรกแล้ว” หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างปลอบใจ
เจ๋อหลานส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “เป็นไปได้อย่างไร? เมื่อคืนตอนที่ข้ากลับ พ่อยังไม่กลับมา ดื่มเหล้าเลี้ยงต้อนรับเหน็ดเหนื่อยจะตาย วันนี้ไม่ต้องว่าราชการเช้า ทำไมไม่นอนเยอะหน่อย? กลางคืนมีงานเลี้ยงต้อนรับ ไม่รู้ว่าจะต้องดื่มถึงกี่ชั่วโมง”
หยวนชิงหลิงหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “ได้ ตอนเที่ยงแม่จะให้เขานอนพัก ไม่ต้องเป็นห่วง”
ในระหว่างที่พูด หยู่เหวินเห้ากับจิ่งเทียนเดินเข้ามาพร้อมกัน ทั้งสองคนแลดูอารมณ์ดีทั้งคู่ บนใบหน้าไม่มีท่าทีเหนื่อยล้าเลย
เห็นลูกสาวกับภรรยา สายตาหยู่เหวินเห้าเต็มไปด้วยความอ่อนโยน เห็นหน้าลูกสาวผ่องใส ในใจยิ่งพอใจ เมื่อกี้เขาถามจิ่งเทียนแล้ว เรื่องเมื่อคืนถูกแก้ไขแล้ว
และที่สำคัญที่สุดคือ เขารู้มาจากจิ่งเทียนแล้วว่า เหตุผลสำคัญที่ลูกสาวยืนกรานที่จะกระทำเรื่องเช่นนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา หรือเรียกได้ว่าเขาคือเหตุผลหลัก
คำพูดนี้ฟังแล้วรู้สึกจิตใจเบิกบานผ่อนคลาย ปัญหาความหงุดหงิดหายหมดสิ้น
หยวนชิงหลิงเจาะเลือดให้กับจิ่งเทียนแล้วค่อยถามอาการ เจ๋อหลานฟังอยู่ด้านข้างอย่างตื่นเต้น
หลังจากนั้น เมื่อหยวนชิงหลิงตรวจเสร็จ โดยพื้นฐานจิ่งเทียนไม่ต้องเข้ารับการรักษาแล้ว
แต่การผนวกให้เข้มแข็งก็จะดียิ่งกว่า
เจ้าห้าใจดีมาก เจาะเลือดได้ตามสบาย ยังไงก็อารมณ์ดี
ตอนเที่ยง เจ๋อหลานกับกั่วเอ๋อออกจากวัง เจ้าห้ายิ่งดีใจ ที่จริงเขาไม่ค่อยชอบให้ลูกสาวอยู่กับจิ่งเทียน ยังไงเรื่องเมื่อคืนก็แก้ไขแล้ว วิหคสิ้นเกาทัณฑ์ซ่อนนั้น เจ้าห้าไม่อยากใช้
เพราะก่อนหน้านี้อู๋ซ่างหวงมักจะพูดว่า จะมาร่วมดื่มสังสรรค์ในงานเลี้ยงต้อนรับ ดังนั้นหยู่เหวินเห้าจึงส่งสวีอีไปรับเขามาในวัง หากใครในจวนอ๋องซู่อยากดื่มเหล้า ก็สามารถเข้าวังมาได้
แต่สวีอีไปคนเดียว แล้วก็กลับมาคนเดียว ตอนที่รายงานฮ่องเต้ เขาพูดขึ้นอย่างมึนงงว่า “อู๋ซ่างหวงบอกว่าตอนนี้เขาเลิกดื่มเหล้าแล้ว ดังนั้นจึงไม่มาร่วมงานเลี้ยงต้อนรับ ยังพูดว่าด้วยสถานะของเขา ไม่มีความจำเป็นที่จะมาดื่มสังสรรค์กับพวกรุ่นหลัง”
หยู่เหวินเห้าอ้าปากกว้าง กว้างจนแทบกลืนไข่ไก่ได้เป็นลูก พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าฟังไม่ผิดใช่ไหม? เจ้าเจออู๋ซ่างหวงที่ไหน?”
“กระหม่อมไปที่จวนอ๋องซู่ ทุกคนล้วนบอกว่าไม่มา” สวีอีรู้สึกว่าความจริงนี้เป็นปริศนาจริงๆ
หยู่เหวินเห้าหันไปมองหยวนชิงหลิง หยวนชิงหลิงหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “เลิกเหล้าเป็นเรื่องที่ดี ไม่มาก็ไม่เป็นไร” ในใจอดไม่ได้ที่จะชื่นชมท่านย่าจากใจจริง ชัยชนะมาอย่างท่วมท้นด้วยวิธีการเดียว