บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1959 พระราชโองการแห่งกษัตริย์แคว้นจิน
- Home
- บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์
- บทที่ 1959 พระราชโองการแห่งกษัตริย์แคว้นจิน
หยู่เหวินเห้าคิดดูแล้ว จึงสั่งคนเตรียมเนื้อกับเหล้าไปส่งที่จวนอ๋องซู่ แต่ล้วนถูกหยวนชิงหลิงห้ามไว้
หยวนชิงหลิงพูดอธิบาย เจ้าห้าค่อยคิดถึงช่วงก่อนที่พวกเขาต่างพูดว่าจะเลิกเหล้า เดิมคิดว่าคงจะทนได้ไม่กี่วัน คิดไม่ถึงว่าจะทนได้นานถึงขนาดนี้
อีกอย่างหลายวันก่อนอู๋ซ่างหวงยังมาคอยถามถึงจิ่งเทียนตลอด ตามนิสัยดื้อรั้นของอู๋ซ่างหวง ปกติจะพูดกล่อมเขาไม่ได้ คิดไม่ถึงว่าเมื่อถึงวัยชรา จะถูกปราบเช่นนี้ และยังไม่ใช่การบีบบังคับ เขายอมพูดออกมาเองว่าจะเลิกเหล้า
เมืองหลวงในค่ำคืนนี้ กลิ่นหอมสุราฟุ้งไปทั่ว พวกเจ๋อหลานนั่งดื่มเหล้าหอมหมื่นลี้อยู่ด้วยกัน เหล้าหอมหมื่นลี้หอมสดชื่น ดื่มเล็กน้อยไม่ทำให้เมา ทำให้มึนเล็กน้อย ทำให้กล้าที่จะพูดถึงเรื่องส่วนตัวของพวกผู้หญิงอย่างไม่อาย
ภายในวังดื่มกันด้วยบรรยากาศคึกคักเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ร้องรำฮัมเพลง ครึกครื้นอย่างมาก
หยู่เหวินเห้ากับจิ่งเทียนกลับต่างสามารถตื่นตัวมีสติในบรรยากาศแบบนี้ เดิมพูดแต่แรกแล้วว่าคืนนี้จะไม่คุยเรื่องบ้านเมือง แต่ก็กลับถูกพูดขึ้นมา
คุยกันถึงเรื่องที่เจ๋อหลานพูดถึงก่อนหน้านี้ เริ่มแรกหยู่เหวินเห้าไม่ค่อยสนใจ คิดว่าเรื่องนี้ยังไม่เร่งรีบที่จะคุยกัน คืนนี้เขาอยากคุยเรื่องการค้าขาย แต่เมื่อได้ยินจิ่งเทียนพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า เป็นความคิดของเจ๋อหลาน เจ้าห้าจึงรีบพูดขึ้นว่าคืนนี้สามารถคุยเรื่องนี้ได้
ดังนั้นเรื่องนี้จึงถูกนำมาพูดในวงเหล้า ขุนนางทั้งสองฝ่ายต่างแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อกัน เรื่องนี้ทั้งสองฝ่ายต่างเห็นด้วย เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพียงแค่ยังต้องลงรายละเอียด
หยวนชิงหลิงกับพวกผู้หญิงต่างออกมาจากงานเลี้ยง มาดื่มเหล้ารสหวานและพูดคุยกันอยู่ไหนตำหนักด้านข้าง
พวกที่อยู่ในเมืองหลวงมักจะรวมตัวกันบ่อย แต่วันนี้พระชายาอานก็กลับมาแล้ว วันนี้ทุกคนจริงจะคุยกันอย่างคึกคักแน่
ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วรวมตัวอยู่ด้วยกัน ส่วนใหญ่แล้วก็จะพูดถึงสามีของตนเอง จากที่ผ่านประสบการณ์หลายปีมานี้ วัยหนุ่มในตอนนั้นตอนนี้กลายเป็นวัยกลางคนแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีปัญหากันอยู่บ้าง ดังนั้นทุกคนต่างก็พูดบ่นกันเสียมากกว่า
แต่ก็เพราะรักอย่างลึกซึ้ง ดังนั้นต่อให้ปากพูดบ่น แต่ในใจก็ยังคงเต็มไปด้วยความสุข
ทุกคนต่างก็หัวเราะพระชายาซุนอย่างไม่ได้นัดหมาย
เพราะเมื่อก่อนเวลาทุกคนพูดบ่นถึงสามี ล้วนเป็นการล้อเล่น มีเพียงพระชายาซุนที่บ่นถึงอ๋องซุนอย่างจริงจัง
แต่ตอนนี้นางก็เหมือนกับทุกคน ปากพูดอยู่อย่างรังเกียจ แต่มุมปากกับตาคิ้วล้วนแฝงไปด้วยความสุข
นางมีความปลื้มใจจริงๆ เดิมคิดว่าชั่วชีวิตนี้คงจะต้องใช้ชีวิตผ่านไปเหมือนดั่งน้ำที่ตายแล้วแบบนั้น กลับคิดไม่ถึงว่าหลังจากที่ฮองเฮาสอนเคล็ดลับให้กับนาง สามารถทำให้ผู้ชายที่รู้จักกินอย่างเดียวฉลาดขึ้น ความสุขในตอนนี้นั้นล้นหลาม ทำให้นางรอคอยในทุกค่ำคืนกับในทุกรุ่งเช้า
หลังจากเสร็จสิ้นงานเลี้ยงต้อนรับแล้ว หยู่เหวินเห้าให้องค์ชายรัชทายาทกับทังหยวนพาฮ่องเต้จิ่งเทียนไปเดินเที่ยวรอบๆ สุดท้ายยังพูดขึ้นว่า หากกวาเอ๋อร์อยากไปด้วย ก็ไปได้
เรื่องที่เขาวิตกกังวลมาตลอดไม่เกิดขึ้น ก็ถือว่าวางใจแล้ว
เขากลัวมากจริงๆ ว่าจิ่งเทียนจะพูดสู่ขอ และคิดว่าด้วยนิสัยของเขา สามารถที่จะกระทำเรื่องแบบนั้นออกมาได้จริงๆ
ยังไงที่ผ่านมา เรื่องที่เหลือเชื่อก็เคยทำมาแล้ว
ดีที่เขาก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่กระทำอะไรไปเรื่อยอีก เติบโตแล้วก็เป็นสิ่งที่ดี
รุ่งเช้า พวกวัยรุ่นเริ่มออกเดินทางไปท่องเที่ยว
หยู่เหวินเห้าไม่ได้ส่งคนไปคอยปกป้อง ยังไงก็มีซาลาเปาทังหยวนกับเจ๋อหลานไปด้วย ไม่มีใครสามารถทำร้ายพวกเขาได้
องค์ชายรัชทายาทพาเจ้าตาทับทิมกับจอหงวนไปด้วย ทังหยวนพาหยางชิงชิงกับมู่ฉางฉางไปด้วย กั่วเอ๋อ อานจือ พวกเจ้าถวนบ้านหรงเยว่ต่างไปเที่ยวด้วยกัน
จิ่งเทียนก็พาหนิงหงเจาไปด้วย ข้างกายก็ไม่มีองครักษ์ไปด้วย เพราะทุกคนต่างก็ไม่มี
ตอนที่ฮ่องเต้จิ่งเทียนอยู่กับพวกเขา ก็เหมือนกับเด็กคนหนึ่ง ไม่มีความน่าเกรงขามของการเป็นกษัตริย์
เดินทางมาถึงริมน้ำหุบเขา ก็เริ่มต่างมีกิจกรรมกันเป็นคู่ จอหงวนกับกั่วเอ๋อกำหนดวันแต่งงานกันแล้ว ถือเป็นว่าที่คู่หมั้นกัน ดังนั้นตอนนี้จึงไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงกัน
อานจือกับหนิงหงเจาก็เช่นกัน หาที่ร่มๆ เพื่อพูดคุยกัน
เดิมเจ้าตาทับทิมเคยเรียนว่ายน้ำแล้ว ต่อมาก็เกียจคร้าน ตอนนี้เมื่อมาถึงตรงที่มีน้ำ ซาลาเปาไม่ยอมปล่อยนาง พานางลงไปในน้ำ
เดิมทังหยวนไม่อยากลงน้ำ กลับถูกหยางชิงชิงที่ชอบเล่นดึงลงไป มู่ฉางฉางสาดน้ำใส่พวกเขา เล่นกันอย่างสนุกสนานมาก
เจ๋อหลานไม่ลงไป นั่งอยู่ริมฝั่งเฝ้าสิ่งของให้กับพวกเขา จิ่งเทียนเดินไปนั่งอยู่กับนาง ยื่นขนมให้นาง พร้อมพูดขึ้นว่า “ซื้อเมื่อกี้ตอนที่เดินผ่านตลาด เจ้าไม่ชอบทานขนมหวาน จึงเลือกผลไม้แห้งรสเปรี้ยวมา”
เจ๋อหลานรับมา มองดูเขาแวบหนึ่ง วันนี้เขาสวมชุดธรรมดาสีเขียว แต่ก็ยากที่จะบดบังถึงความสูงศักดิ์ แล้วก็ถามขึ้นว่า “เจ้าไม่ลงไปเล่นน้ำหรือ?”
“อยู่คุยเป็นเพื่อนเจ้า” จิ่งเทียนขยับมานั่งใกล้หน่อย ด้านบนหัวมีใบไม้หนาแน่น บดบังแสงแดดได้ส่วนมาก มีเพียงบางส่วนที่เบาบางเท่านั้น สาดส่องบนใบหน้างดงามหล่อเหลาของทั้งสองคน พร้อมพูดขึ้นว่า “เรื่องที่เจ้าพูดถึงในวันนั้น ได้ปรึกษาหารือกันพอประมาณแล้ว แต่ข้าก็ยังอยากที่จะร่างพระราชโองการแห่งกษัตริย์ให้กับเจ้า เจ้ายินยอมไหม?”
เจ๋อหลานหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “ถามอย่างเป็นทางการขนาดนี้…..ข้ายินยอมอยู่แล้ว ข้าจะได้สะดวกในการปฏิบัติการ”
จิ่งเทียนหัวเราะ สายตาหรี่ลง งั้นต่อไปก็จะมีโอกาสที่จะสามารถได้เจอนางเพิ่มมากขึ้นอีกแล้ว