บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1965 ชักนำเจ้าตาทับทิม
บทที่ 1965 ชักนำเจ้าตาทับทิม
เจ้าตาทับทิมมีความรู้สึกไว ถึงแม้สุดท้ายพี่ซาลาเปาจะไม่พูดอะไร แต่รู้สึกได้สิ่งที่เขาพูด กลับไม่รู้จะพูดออกมายังไง
นางไม่เข้าใจเรื่องในโลก สามารถสัมผัสได้ถึงความสุขความโศกเศร้า แต่ไม่รู้วิธีแก้ปัญหา
เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากองค์ชายรัชทายาทออกไปแล้ว นางเรียนทำขนมหวานกับแม่นมสี่ สภาพจิตใจแลดูมีเรื่องให้คิดหนัก
แม่นมสี่ถามนางว่ามีเรื่องในใจหรือเปล่า เจ้าตาทับทิมมองดูแม่นมสี่ พร้อมพูดขึ้นว่าหดหู่ว่า “พี่ซาลาเปาไม่สบายใจ ไม่ชอบที่ข้ามีชีวิตเพื่อเขาคนเดียว”
“เป็นไปได้อย่างไร? องค์ชายรัชทายาทจะต้องชอบในสิ่งพวกนี้ที่เจ้าทำเพื่อเขาอยู่แล้ว” แม่นมสี่พูดปลอบว่า สำหรับความรักในวัยรุ่น แม่นมสี่ไม่ค่อยเข้าใจ แต่คิดว่าสิ่งมากมายที่เจ้าตาทับทิมทำเพื่อองค์ชายรัชทายาท น่าจะมีความสุขมาก
“ชอบหรือ? งั้นท่านฉู่ชอบอาหารที่ท่านทำให้เขาไหม?”
“ชอบสิ” แม่นมสี่หัวเราะ ตาคิ้วอ่อนโยน พร้อมพูดขึ้นว่า “ตั้งแต่ข้าได้รับบาดเจ็บ ข้าแทบอยากจะอยู่กับข้าทุกเวลา ข้ายังรังเกียจที่เขาตัวติดข้าเกินไป วันนี้ข้าเข้าวัง ข้ายังไม่อยากให้มาเลย”
“งั้นท่านชอบอยู่กับเขาไหม?”
“ชอบอยู่แล้ว ข้าก็อยากอยู่ข้างกายเขาตลอดเวลา” แม่นมสี่พูดขึ้น
ฟังคำพูดของแม่นมสี่ เจ้าตาทับทิมยิ่งหดหู่ งั้นทำไมพี่ซาลาเปาไม่ชอบล่ะ? หรือว่าเขาไม่ชอบนางแต่แรก?
คิดอยู่เช่นนี้ จึงไม่มีอารมณ์ทำกับข้าวแล้ว หันไปพร้อมหาข้ออ้างว่าจะไปหาเจ๋อหลาน
แต่วันนี้เจ๋อหลานออกไปทำธุระแล้ว ไม่ได้อยู่ในวัง
นางจึงจำต้องไปหากั่วเอ๋อ ตอนนี้กั่วเอ๋อกำลังเตรียมงานแต่งงาน สิ่งที่นางรู้มีค่อนข้างเยอะ บางทีกั่วเอ๋อสามารถช่วยให้คำตอบนางได้
แต่น่าเสียดาย
กั่วเอ๋อก็กลับไปอยู่ตระกูลหยวนหลายวัน นางไม่อยากไปหาฮองเฮา สายตาฮองเฮาเฉียบคมมาก ใครมีเรื่องในใจล้วนหลบไม่ผ่านสายตาของนาง แต่ไม่รู้ทำไม เวลาอยู่กับฮองเฮาเหนียงเหนียง นางมีคำพูดบางอยู่ที่ไม่รู้จะเริ่มพูดยังไง
รู้สึกค่อนข้างไม่เป็นตัวของตัวเอง
ทั่วทั้งตำหนักไม่มีใครอยู่คุยด้วย ที่แท้หากไม่ยุ่งกับการเรียน วันเวลาช่างน่าเบื่อจริงๆ
ยังอีกตั้งนานพี่ซาลาเปาถึงจะกลับมา แต่รอเขากลับมาแล้วก็คุยนานไม่ได้ เขาต้องพักผ่อน
ทรมานจริงๆ ทำไมพี่ซาลาเปาจะไม่ชอบให้นางอยู่ด้วยล่ะ? แม่นมสี่กับท่านฉู่ยังชอบอยู่ด้วยกันเลย
นางรอจนใกล้พลบค่ำ
รอจนเจ๋อหลานกลับมาแล้ว เจ๋อหลานได้ยินคนในตำหนักบอกว่า วันนี้เจ้าตาทับทิมมาหานาง
ดังนั้นจึงรีบมาหา
เห็นท่าทีนางเหงาหงอยหดหู่ เจ๋อหลานจูงมือนางไปเดินเล่น
มองดูพระอาทิตย์ตกใจ พร้อมพูดขึ้นว่า
“ไม่มีความสุขหรือ? ทะเลาะกับพี่องค์ชายรัชทายาทหรือเปล่า?”
“เปล่า แต่เมื่อคืนเขาพูดว่า
วันนี้เจ้าตาทับทิมเสียใจอยู่คนเดียวตั้งนาน ได้ยินเจ๋อหลานถามขึ้นมาก็รีบพูดขึ้นทันที
ไม่อยากให้ข้ามีชีวิตเพื่อเขาคนเดียว”
เจ๋อหลานหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า
ก็มีเหตุผล เพราะเขาไม่สามารถตอบแทนเวลามาอยู่กับเจ้า”
“พี่ชายองค์ชายรัชทายาทพูดเช่นนี้
เจ้าตาทับทิมตาแดง พร้อมพูดขึ้นว่า “แต่ คนอื่นแม่นมสี่กับท่านฉู่ยังอยากอยู่ด้วยกันเลย”
“นั่นไม่เหมือนกัน” เจ๋อหลานควงแขนของนาง พร้อมยิ้มหัวเราะพูดอธิบายว่า “ตอนนี้แม่นมสี่กับท่านฉู่อายุมากแล้ว ทำงานมาทั้งชีวิต
ตอนนี้เป็นช่วงเวลามีความสุขในบั้นปลายชีวิต ไม่มีงานเยอะแยะรอให้พวกเขาไปทำ ท่านฉู่ก็ไม่เหมือนอย่างพี่องค์ชายรัชทายาท ที่ต้องออกไปแต่เช้าแล้วก็กลับค่ำ ส่วนในใจองค์ชายรัชทายาทนอกจากเจ้า ยังมีงานอีกมากมาย แต่นี่ไม่สำคัญ
ที่สำคัญคือข้าคิดว่าองค์ชายรัชทายาทหวังอยากให้เจ้ามีสิ่งที่ชอบเป็นของตนเอง มีงานเป็นของตนเอง มีสิ่งที่ตนเองสนใจ”
“ดังนั้น เขากลัวว่าข้าจะไปกีดขวางเขาหรือ?” เจ้าตาทับทิมยังไม่เข้าใจสิ่งที่เจ๋อหลานพูด
เจ๋อหลานมองดูใบหน้าใสซื่อของนาง
คิดว่านางเพิ่งมาในโลกนี้ไม่นาน เรียนรู้การเป็นคนยังไม่นาน ยังไม่เข้าใจถึงคุณค่าของคนที่พี่องค์ชายรัชทายาทอยากจะบอก
ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร
จะโทษพี่องค์ชายรัชทายาทพูดไม่ชัดเจนก็ไม่ได้ ยังไงก็ค่อนข้างยาก
วันนี้เจ้าตาทับทิมเสียใจอยู่คนเดียวตั้งนาน ได้ยินเจ๋อหลานถามขึ้นมาก็รีบพูดขึ้นทันที
เจ๋อหลานหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า
เจ๋อหลานทำได้เพียงพูดปฏิเสธนางว่า “พี่องค์ชายรัชทายาทไม่มีทางคิดเช่นนี้แน่นอน เขาหวังอยากให้….อยากให้เจ้าได้เรียนรู้เยอะๆ มีความรู้เรื่องมนุษย์เยอะๆ”
มองดูสายตาเจ้าตาทับทิมที่รู้บ้างไม่บ้าง เจ๋อหลานจึงถามขึ้นว่า “ตอนนี้เจ้าชอบทำกับข้าวมากใช่ไหม?”
“ชอบ วันนี้เรียนทำขนมหวาน”
“งั้นเราเปิดร้านขายขนมหวานไหม?” เจ๋อหลานคิดว่า อยากให้นางเข้าใจหลักการอาศัยเพียงการพูดไม่พอ ให้นางได้เรียนรู้ด้วยตนเองดีกว่า
“เปิดร้านขายขนมหวาน?”
เจ้าตาทับทิมอึ้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “เหมือนอย่างที่ทังหยวน
ทำธุรกิจหรือ?”
“ใช่ ทำธุรกิจ เจ้าเรียนรู้ได้เร็วมาก ทำอะไรก็ไว
เปิดร้านขายขนมหวาน สามารถทำให้พี่ซาลาเปาทาน ยังสามารถฆ่าเวลา
เจ้างานยุ่งทั้งวันกลับมา พี่ซาลาเปาก็งานยุ่งกลับมาพอดี แบบนี้ไม่ดีหรือ? หรือไม่เปิดร้านขายขนมหวานก็ได้ ทำธุรกิจอย่างอื่นก็ได้ เจ้าลองคิดดูว่ายังมีอะไรที่ชอบไหม?”
เจ๋อหลานทำได้เพียงโน้มน้าวนางเช่นนี้ นี่ก็ถือเป็นการช่วยพี่องค์ชายรัชทายาท เขาคงคาดหวังอยากให้เจ้าตาทับทิมมีลักษณะชีวิตที่เป็นของตนเอง ไม่ต้องพึ่งพาใคร
ถึงแม้เจ้าตาทับทิมยังไม่เข้าใจ แต่นางรู้ว่าพี่ซาลาเปากับเจ๋อหลานนั้นหวังดีต่อนาง ดังนั้นจึงพูดขึ้นว่า “ข้ากลับไปคิดดูดีๆ”