บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1970 ฮองเฮามาด้วยตนเอง
บทที่ 1970 ฮองเฮามาด้วยตนเอง
เจ้าตาทับทิมกลับมาถึงวังอย่างสิ้นหวัง ในใจคิดอยู่ว่าเป็นเพราะตนเองทำร้ายคนคนนั้นหรือเปล่า ดังนั้นจึงทำให้อาจารย์ต้องเดือดร้อน?
นางไม่ควรที่จะใจร้อนขนาดนี้ ก่อนหน้านี้พี่ยิงก็เคยบอกกับนางแล้วว่า ห้ามลงมือทำร้ายคนในโลกมนุษย์เด็ดขาด จะก่อให้เกิดเหตุทำให้คนเสียชีวิต
พี่ซาลาเปาไม่อยู่ นางไปหาเจ๋อหลานกับกั่วเอ๋อ แต่หาจนทั่ววังก็หาไม่เจอ เมื่อถามแล้วค่อยรู้ว่าพวกนางต่างออกไปแล้ว
นางจึงจำต้องกลับไปหลบอยู่ในตำหนักต่อ ในใจหวาดผวาไม่เป็นสุข ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน ไม่รู้ว่าจะต้องจัดการอย่างไร
ตอนกลางคืนพี่ซาลาเปาไม่กลับมา นางก็ไปหาเจ๋อหลานอีก เจ๋อหลานก็ยังไม่กลับมา ได้ยินสาวใช้บอกว่าช่วงนี้เจ้าหญิงล้วนงานยุ่ง ไม่รู้ว่ายุ่งงานอะไรอยู่ คืนนี้ก็อาจจะไม่กลับมา
เจ้าตาทับทิมคิดว่านางคงยุ่งเรื่องการไปฆ่าคน การไปฆ่าคนถือเป็นเรื่องใหญ่ จะล่าช้าไม่ได้ จึงกลับไปยังตำหนักอีก
อยู่ไม่เป็นสุขไม่สบายใจทั้งคืน และก็นอนไม่หลับ เช้าวันที่สองอดทนไม่ไหวแล้ว จึงไปขอเข้าเฝ้าฮองเฮาในตำหนัก
นางแทบจะร้องไห้ตลอดจนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้ฮองเฮาฟังจนจบ เงยสายตาที่ไม่รู้จะทำอย่างไรขึ้นมาพร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าไม่รู้ว่าการที่หนีมาแบบนี้เป็นการกระทำที่ถูกต้องหรือไม่ จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับอาจารย์หรือเปล่า? ข้าต้องกลับไปช่วยอาจารย์ดีไหม? เป็นครั้งแรกที่ข้าเจอกับคนร้าย ข้าไม่รู้จะไปบอกใคร และก็ไม่รู้จะทำอย่างไร”
“อาจารย์ไล่ให้ข้าไปอย่างเดียว ข้ารู้ว่านางกลัวว่าข้าจะเดือดร้อน นางพูดกับพี่ซาลาเปาตลอดว่ากลัวข้าจะถูกครอบครัวสามีรังเกียจ นางเป็นห่วงข้า…..”
หยวนชิงหลิงฟังนางพูดเสร็จ ก็พูดปลอบด้วยสีหน้าสงบนิ่งว่า “เจ้าตาทับทิม เจ้าเชื่อฟังอาจารย์ไม่ใช่เรื่องผิด
เพราะเจ้ายังไม่ชำนาญในการจัดการกับเรื่องพวกนี้ เจ้ายังต้องค่อยๆ เรียนรู้ ส่วนจะเกิดเรื่องกับอาจารย์ของเจ้าหรือไม่
ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะส่งคนไปดู”
“หากเกิดอะไรขึ้นกับอาจารย์ข้าจะเสียใจอย่างมาก
เมื่อวานข้าไม่ควรจากมาเลย” เจ้าตาทับทิมคิดว่าถึงแม้ฮองเฮาจะพูดได้อย่างสงบนิ่ง และทำให้นางรู้สึกปลอดภัย
แต่เพราะความเป็นห่วงอาจารย์ มักจะรู้สึกว่าจะต้องเกิดเรื่องกับอาจารย์แล้วแน่
“ไม่
หยวนชิงหลิงพูดปลอบนางว่า “ไม่อย่างนั้นหากเจ้าลงมือ จะเป็นการทำลายชีวิตหลายคน”
ก่อนที่เจ้ายังไม่มีประสบการณ์จัดการกับเรื่องพวกนี้ การหลบหลีกคือสิ่งที่ดีที่สุด”
“งั้นข้าไม่ควรเอาชีวิตพวกเขาหรือ? พวกเขาเป็นคนร้าย” เจ้าตาทับทิมไม่สามารถแยกแยะได้จริงๆ
แล้ว ตอนนี้เจ๋อหลานก็ไปกระทำเรื่องที่ต้องเอาชีวิตคนร้าย
เจ๋อหลานสามารถทำได้ นางทำไม่ได้หรือ?
เกี่ยวกับคำถามนี้ หยวนชิงหลิงคิดว่าควรที่จะพูดอธิบายให้เจ้าตาทับทิมเข้าใจ
แต่ควรพูดตอนนี้หรือไม่ หรือรอซาลาเปากลับมาสอนนาง ตอนนี้ต้องแน่ใจก่อนว่าช่างสวีไม่ตกอยู่ในอันตราย จึงพูดขึ้นว่า
“เจ้าตาทับทิม ข้าค่อยคุยกับเจ้าเรื่องนี้ภายหลัง เจ้ากลับไปรอฟังข่าวของข้าในตำหนักก่อน”
“อ้อ รับทราบค่ะ”
นางสั่งให้กลับไปรอที่ตำหนัก งั้นนางก็กลับไปรอ ต้องว่าง่ายต้องเชื่อฟัง
เจ้าตาทับทิมเชื่อมั่นฮองเฮาอย่างมาก
หลังจากเจ้าตาทับทิมกลับไปแล้ว หยวนชิงหลิงรีบเรียกทหารรักษาพระองค์ไปดู ไปสืบเรื่องนี้อย่างเงียบๆ ต้องมั่นใจว่าช่างสวีปลอดภัยดี
ทหารรักษาพระองค์ออกไปสืบดู
แล้วก็กลับมารายงานหยวนชิงหลิงว่า ช่างสวีถูกใต้เท้าฉินผู้บัญชาการเมืองเหนือพาตัวไปแล้ว
พาไปยังที่ทำการปกครองกองบัญชาการรักษาความสงบรองผู้บัญชาการเมืองเหนือ ตอนนี้ถูกจับตัวไว้ บีบบังคับให้นางบอกที่อยู่ของหญิงสาวที่ลงมือทำร้ายคนคนนั้น
ช่างสวีไม่ยอมพูดอะไร จึงถูกเฆี่ยน ทหารรักษาพระองค์ไม่ได้ช่วยออกมา กลับมาถามฮองเฮาก่อน
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นด้วยสายตาเย็นชาว่า “กองบัญชาการรักษาความสงบ? ตอนนี้กู้ซือดูแลกองบัญชาการรักษาความสงบใช่ไหม?”
“เรียนฮองเฮา ใต้เท้ากู้เป็นคนดูแลกองบัญชาการรักษาความสงบ และกองบัญชาการรักษาความสงบแบ่งออกเป็นตะวันออก
ใต้ ตะวันตก เหนือ กลาง
ทุกแห่งล้วนมีรองผู้บัญชาการ ภายใต้การดูแลของใต้เท้ากู้”
“ใต้เท้ากู้ดูแลไม่ทั่วถึง” หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย น้องเขยคนนี้ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่การงาน เป็นคนมีความสามารถคนหนึ่ง แต่ดูจากการกระทำของกองบัญชาการรักษาความสงบ เขาเริ่มหละหลวมแล้ว ให้ท้ายผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาเกินไป
ทหารรักษาพระองค์ถามขึ้นว่า “จะให้แจ้งใต้เท้ากู้ไหม ให้เขาช่วยช่างสวีออกมา?”
“ไม่ต้อง” หยวนชิงหลิงคิดไปคิดมา คิดว่าไม่ต้องบอกกู้ซือ ถือเป็นการสั่งสอนเขา ดูแลจัดการลูกน้องไม่ดีจนก่อให้เกิดเหตุร้ายแรง ควรให้ความสำคัญ ไม่อย่างนั้นคนที่ลำบากก็คือประชาชน
“เจ้าไปเตรียมตัว เลือกคนมีฝีมือสองคนตามข้าไป ข้าจะไปยังที่ทำการปกครองด้วยตนเอง”
หลายปีมานี้หยวนชิงหลิงไม่ยุ่งกับเรื่องใดง่ายๆ แต่เรื่องในครั้งนี้ค่อนข้างรุนแรง กองบัญชาการรักษาความสงบรับผิดชอบดูแลความสงบในเมืองหลวง พวกเขาทำลายรากฐาน คนที่ลำบากก็คือประชาชน
หากเพียงสั่งให้กู้ซือไปทำ กู้ซือก็ต้องคืนความยุติธรรมให้กับช่างสวีอยู่แล้ว และก็จะลงโทษขุนนางที่ใช้อำนาจรังแกคน
แต่ช่างสวีเป็นนักศิลปะแกะสลักคนหนึ่ง ผลงานของนางมีชื่อเสียงในเป่ยถัง ทุกคนต่างแย่งกันซื้อผลงานของนาง มีชื่อเสียงอันทรงเกียรติ กลับไม่มีสถานะในสังคมเท่าที่ควร รองผู้บัญชาการกองบัญชาการรักษาความสงบคนหนึ่ง จะพาตัวนางไปก็พาไปได้เลย ยังลงมือทำโทษ
เบื้องหลังมีสาเหตุใหญ่อย่างหนึ่ง นางเป็นผู้หญิง ต่อให้ฝีมือของผู้หญิงดีแค่ไหน ผลงานโดดเด่นแค่ไหน ก็ไม่ได้รับการให้ความเคารพ