บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1972 เจ้าเป็นเมียรองให้กับลูกชายของข้า
- Home
- บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์
- บทที่ 1972 เจ้าเป็นเมียรองให้กับลูกชายของข้า
บทที่ 1972 เจ้าเป็นเมียรองให้กับลูกชายของข้า
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นก่อนว่า “ใต้เท้าฉิน ข้าถามเจ้า ที่ทำการปกครองเหนือของเจ้าจับตัวช่างสวีนักแกะสลักโรงงานมาด้วยข้อหาอะไร?”
ฉินฮวนสะบัดชุดคลุมแล้วนั่งลง พร้อมถามด้วยเสียงเย็นชาว่า “เจ้าเป็นใคร? ที่ทำการปกครองเหนือของข้าทำคดี เป็นเรื่องที่ผู้หญิงอย่างเจ้าควรถามหรือ?”
ทหารรักษาพระองค์ตะคอกพูดขึ้นว่า “บังอาจ เจ้าตอบคำถามมาก็พอ”
ฉินฮวนตกใจกลับเสียงตะคอกที่จู่ๆ ก็ดังขึ้นมา รีบหันไปมองทหารรักษาพระองค์ที่กำลังพูดอยู่ ด้วยสายตาเฉียบคม พร้อมพูดขึ้นว่า “พวกเจ้าเป็นใคร? กล้ามาเหิมเกริมในที่ทำการปกครองเหนือ”
หยวนชิงหลิงโบกมือให้กับทหารรักษาพระองค์ บ่งบอกว่าเขาไม่ต้องพูด ทหารรักษาพระองค์ก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว ไปยืนอยู่ด้านข้างฮองเฮา
มือทั้งคู่ของหยวนชิงหลิงวางบนที่วางมือ มองดูฉินฮวน พร้อมพูดขึ้นว่า “คนที่บ้านไม่เคยออกมาเจอโลกภายนอก วู่วามไปหน่อย เรื่องที่เกิดในโรงงานวันนั้น ข้าก็พอรู้มาบ้างแล้ว หลานสาวของข้าฝึกงานฝีมืออยู่ในโรงงาน คุณชายกระทำการล่วงเกิน นางและลงมือทำร้ายช่างสวี หลานสาวของข้าป้องกันตัวทำร้ายคุณชาย ตามหลักแล้วช่างสวีเป็นผู้ถูกกระทำ แล้วทำไมถึงจับตัวนางมาขังที่ทำการปกครองเหนือ พร้อมลงโทษ? นางกระทำความผิดโทษฐานอะไรหรือ?”
ฉินฮวนจ้องมองดูนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “ดังนั้น ผู้หญิงที่ทำร้ายคนในวันนั้น เป็นหลานสาวของเจ้า?”
“ใช่”
สายตาฉินฮวนประกายแววความโกรธ พร้อมพูดขึ้นว่า “พาตัวนางมา แล้วข้าจะปล่อยหญิงหม้ายคนนั้น”
“เรื่องราวที่เกิดขึ้น ใต้เท้าฉินรู้เรื่องไหม?” หยวนชิงหลิงถามขึ้นอย่างเรียบเฉย
ฉินฮวนพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชาว่า “หลานสาวป่าเถื่อนของเจ้า
ทำลายความหวังดีของลูกชายข้า ยังลงมือทำร้ายเขา ตั้งแต่เล็กจนโต ข้าไม่เคยด่าว่าแม้เพียงคำเดียว หลานสาวของเจ้ามีศิษย์อะไรมีตีหัวเขา? ในเมื่อนางมาฝึกงานฝีมือที่โรงงาน หลังจากหลบหนี หญิงหม้ายคนนั้นก็ต้องรับโทษแทน หากเจ้าไม่อยากให้หญิงหม้ายคนนั้นเดือดร้อน
ก็พาตัวนางมา”
สายตาหยวนชิงหลิงเยือกเย็นลง พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงเฉียบคมว่า “ดังนั้น ที่จริงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเจ้าล้วนรู้ดี เจ้ารู้ว่าลูกชายของเจ้าลวนลามหลานสาวข้า และยังคิดที่จะจับตัวกลับไปข่มเหง หลังจากถูกช่างสวีห้าม ก็ทำร้ายนาง
หลานสาวของข้าลงมือเพื่อปกป้องอาจารย์ ทำร้ายลูกชายของเจ้า นี่ถือเป็นการป้องกันตัว
ทำไมพอมาถึงเจ้า กลับกลายเป็นความผิดของหลานสาวข้า? อีกอย่างช่างสวีถูกลูกชายของเจ้าทำร้ายเจ้าไม่พูดถึง ยังถูกเจ้าจับตัวมาลงโทษทรมานในที่ทำการปกครองเหนือ ภายใต้แผ่นดินกษัตริย์เจ้ากล้ากระทำเช่นนี้ อาศัยอำนาจของใครหรือ?”
ฉินฮวนหัวเราะเยาะขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “อาศัยอำนาจของใครเจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ ข้าปล่อยตัวหญิงหม้ายคนนั้นได้
แต่เจ้าต้องส่งตัวผู้หญิงคนนั้นมาที่จวน ให้นางมาเป็นเมียรองลูกชายของข้า
เห็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์บอกว่า ผู้หญิงคนนั้นรับเงินลูกชายของข้าไปหนึ่งร้อยตำลึงเป็นสินสอด ในเมื่อรับเงินไปแล้ว จะขัดขืนทำไม ต่อให้พูดยังไง นางก็ไม่มีเหตุผล”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชาว่า “ให้นางเป็นเมียรองลูกชายเจ้า? เจ้าช่างกล้าคิด ไม่มีทางเด็ดขาด”
เขาโบกมือ พร้อมพูดสั่งว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้
ก็ไม่ต้องพูดอะไรอีก จับตัวนางกับผู้ติดตามไปขังรวมกับหญิงหม้ายคนนั้น
โทษฐานที่พวกนางหลอกลวงทำร้ายคน โทษฐานนี้จับขังสามห้าเจ็ดวันไม่ใช่ปัญหา”
“เจ้าช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำจริงๆ”
ฉินฮวนจ้องมองดูนาง เห็นนางถึงแม้จะดูเหมือนอายุยี่สิบกว่า
แต่รูปร่างหน้าตาดี ก่อนหน้านี้ลูกชายก็ชอบผู้หญิงที่อายุค่อนข้างสูงหน่อย เพื่อเป็นการปลอบใจลูก จึงพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชาว่า
“หากไม่อยากส่งตัวผู้หญิงคนนั้นมาก็ได้ เจ้าเป็นเมียรองให้กับลูกชายข้า หรืออยู่ด้วยสักเดือนสองเดือน ก็จะสามารถจบเรื่องนี้ หญิงหม้ายคนนั้นก็จะไม่เป็นไร”
เมื่อพูดออกมาเช่นนี้ ทหารรักษาพระองค์ทั้งสองคนอดทนต่อความโกรธโมโหที่มีในใจไม่ไหวแล้ว
ต่างพูดออกมาพร้อมกันว่า
“บังอาจ” จากนั้นก็ชักดาบออกมาจากฝักพร้อมกัน ดาบสองเล่มจ่ออยู่บนคอฉินฮวน
กองบัญชาการรักษาความสงบที่อยู่ด้านหลังฉินฉวนเห็นเช่นนี้ ก็รีบชักดาบออกมาชี้ไปที่ทหารรักษาพระองค์ พร้อมพูดขึ้นว่า “พวกเจ้าจะทำอะไร? วางดาบลง ข่มขู่ขุนนางราชสำนักมีโทษประหารชีวิต”
หัวสมองหยวนชิงหลิงไม่นิ่งอึ้งแบบนี้มานานมากแล้ว เมื่อตอนที่ได้ยินฉินฮวนพูดเช่นนั้น นางอึ้งไปสักพักจริงๆ ไม่รู้จะแสดงท่าทีออกมาอย่างไรที่จะสามารถสื่อถึงความเหลือเชื่อที่อยู่ในใจของนาง
สิ่งแรกที่คิดได้เมื่อได้สติกลับมา กลับคิดว่าโชคดีที่เจ้าห้าไม่อยู่ ไม่อย่างนั้นประโยคนี้คงจะให้เขาโกรธจนหัวใจหยุดเต้น จนต้องช่วยชีวิตเป็นการเร่งด่วนแบบนั้น
ฉินฮวนถูกดาบจ่ออยู่บนคอ แต่ก็ไม่หวาดกลัว มองดูหยวนชิงหลิง พร้อมพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ครั้งนี้ ต่อให้เจ้ากับผู้หญิงคนนั้นยกให้ลูกของข้าพร้อมกัน ข้าก็จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด”
เพิ่งพูดประโยคนี้เสร็จ ก็มีคนรีบวิ่งเข้ามารายงานว่า “ใต้เท้า โสวฝู่เหลิ่งมา”
ฉินฮวนอึ้ง โสวฝู่เหลิ่ง? โสวฝู่เหลิ่งมาที่ทำการปกครองเหนือทำไม?
เขาหันไปมองหยวนชิงหลิง เห็นเพียงผู้หญิงคนนี้ท่าทีเคร่งขรึมน่าเกรงขาม ภายในใจอดไม่ได้ที่จะเกิดความรู้สึกหวาดกลัว โสวฝู่เหลิ่ง มาอย่างกะทันหันเกี่ยวข้องกับนางหรือเปล่า?