บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1975 ขอให้เจ้าวางใจ
บทที่ 1975 ขอให้เจ้าวางใจ
ก่อนหยวนชิงหลิงจะรักษาบาดแผลให้นาง ได้สั่งคนไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้นาง ตัดเสื้อผ้าชุดเดิมที่สวมอยู่แล้วล้างแผลใส่ยา บาดเจ็บขนาดนี้ ทำให้หยวนชิงหลิงโกรธโมโหอย่างมาก
โดยเฉพาะมือคู่นี้ ทำให้หยวนชิงหลิงโกรธโมโหอย่างที่สุด ช่างสวีเป็นยอดฝีมือด้านงานฝีมือ ตอนนี้มือทั้งคู่บาดเจ็บขนาดนี้ ต่อให้รักษาหาย ก็ไม่คล่องตัวเหมือนอย่างเมื่อก่อนแล้ว
ในยุคสมัยนี้ ผู้หญิงจะมีอาชีพนั้นยากมาก ผู้ชายไม่มีทางรู้ แม้แต่เจ้าห้าเคยไปยุคปัจจุบัน ก็ใช่ว่าจะรู้ซึ้งถึงความลำบาก
ช่างสวีเป็นหม้ายมานานหลายปี อาศัยงานฝีมือเลี้ยงดูพวกลูกๆ จนโต ความหนักแน่นนี้ ต่อให้ใครได้ยินล้วนต่างก็ต้องชื่นชม กลับคิดไม่ถึงว่าจะโชคร้ายมาเจอคนอันธพาลขุนนางชั่วร้าย
ปกติช่างสวีก็ไปมาหาสู่กับพวกขุนนาง ที่สำคัญเพราะผลงานแกะสลักที่งดงามประณีตของนาง ซึ่งการแกะสลักนั้นละเอียดและซับซ้อน ดังนั้นจึงขายออกไปในราคาที่สูง และผลงานแกะสลักพวกนี้โดยทั่วไปแล้วก็คือคนรวยหรือพวกเราขุนนางถึงจะสามารถซื้อได้
นางมองดูผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ รู้สึกว่านางไม่ธรรมดาอย่างมาก
นางแต่งตัวอย่างค่อนข้างธรรมดา ไม่มีความเป็นผู้ดีสูงส่ง แต่ลักษณะท่าทีอ่อนโยนสง่างามนั้น และยังมีน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความจริงใจ ทำให้นางดูไม่ธรรมดาอย่างพิเศษ
ฝีมือการรักษาของนางชำนาญอย่างมาก ตอนที่ทำความสะอาดบาดแผล ทั้งอ่อนโยนและชำนาญอย่างที่สุด ราวกับทำจนเคยชินแล้ว
นางไม่รู้ว่าผู้หญิงตรงหน้าคนนี้มีสถานะเป็นอย่างไร จึงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า “ไม่ทราบว่าท่านเป็นใคร?”
หยวนชิงหลิงเงยหน้ามองดูนาง พร้อมพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้มว่า “ข้าเป็นแม่สามีในอนาคตของเจ้าตาทับทิม”
ช่างสวีตกใจ ไม่สนใจบาดแผลที่เจ็บปวด
ที่แท้ก็คือฮูหยินเปานี่เอง แล้วนี่จะให้ท่านช่วยทำแผลให้ข้าได้อย่างไร?”
รีบลุกขึ้นมาพร้อมพูดขึ้นว่า “โย้ เสียมารยาทแล้ว
ช่างสวีไม่ได้เห็นว่าฮูหยินเปามีสถานะเป็นฮูหยินตระกูลขุนนาง แต่นางเป็นว่าที่แม่สามีของเจ้าตาทับทิมในอนาคต
ตอนนี้ให้นางเห็นอาจารย์ของเจ้าตาทับทิมในสภาพที่ย่ำแย่เช่นนี้
กลัวว่านางจะจดจำภาพไม่ดีที่มีต่อเจ้าตาทับทิม คิดว่าเจ้าตาทับทิมไปหาอาจารย์มาจากไหน
“อย่าขยับ”
ข้าได้สั่งคนไปหาลูกชายของเจ้าแล้ว เดี๋ยวจัดการบาดแผลเสร็จ พวกลูกชายของเจ้าก็จะมารับเจ้ากลับบ้าน”
หยวนชิงหลิงกดบ่าของนางไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “จัดการบาดแผลก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง
“ข้า….ขออภัยจริงๆ ข้า….. เรื่องนี้ข้าถูกใส่ร้าย ข้าเป็นนักศิลปะที่มีคุณธรรม
อยู่ในกฎระเบียบ ไม่เคยกระทำเรื่องชั่วร้าย ซึ่งสามารถไปสืบได้
ฮูหยินเปา ท่านสามารถสั่งคนไปสืบได้ เจ้าตาทับทิมเรียนงานฝีมืออยู่กับข้า ก็ไม่ได้มีสัมพันธ์อะไรกับข้า….”
“ซูว…” หยวนชิงหลิงพูดปลอบนางว่า
“ข้ารู้เรื่องหมดแล้ว ครั้งนี้เจ้าทำเพื่อปกป้องเจ้าตาทับทิม เจ้าตาทับทิมเป็นห่วงเจ้ามาก
อาจารย์อย่าขยับ เจ้าขยับไปมาข้าจัดการบาดแผลได้ไม่สะดวก นอนลงก่อน”
“ได้…..เจ้าตาทับทิมไปตามท่านมาหรือ?”
“ใช่ เจ้าเด็กซื่อคนนี้หลังจากรู้ว่าเกิดเรื่องกับเจ้า ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงมาหาข้า”
ช่างสวีคิดว่าเจ้าตาทับทิมเป็นเด็กซื่อบื้อ ไปตามว่าที่แม่สามีในอนาคตมาได้อย่างไร? หากต่อไปกลายเป็นความทรงจำที่ไม่ดี จะทำให้เสื่อมเสียมากกว่า
หยวนชิงหลิงรู้ในสิ่งที่นางเป็นกังวล จึงพูดขึ้นว่า
“ข้าดีใจมากที่หลังจากเจ้าตาทับทิมเจอปัญหาแล้วมาหาข้า ข้าก็เหมือนกับช่างสวี
อยากที่จะปกป้องเจ้าตาทับทิม ขอบใจมากที่เจ้าดีกับนางขนาดนี้”
ช่างสวีได้ยินเช่นนี้ แล้วก็ค่อยวางใจ ฮูหยินเปาสามารถมีลูกชายที่มีความสามารถอย่างคุณชายเปา คิดว่าก็คงไม่เหมือนอย่างแม่สามีทั่วไป
หลังจากที่วางใจแล้ว ค่อยคิดถึงประโยคที่พูดเมื่อกี้
จึงรีบถามขึ้นว่า
“ข้าสามารถกลับไปได้หรือ? พวกเขาปล่อยข้าแล้ว?”
“ใช่ เดี๋ยวจัดการบาดแผลเสร็จก็สามารถกลับได้แล้ว”
ช่างสวีพูดขึ้นอย่างขอบคุณว่า “โชคดีที่มีท่านช่วยออกหน้า
กลับไปแล้วข้าจะเอาเงินคืนให้กับท่านทั้งหมด?”
ข้าถึงได้รอดตัว คงใช้เงินไปไม่น้อยใช่ไหม?
หยวนชิงหลิงได้ยินเช่นนี้แล้วในใจก็ไม่สบายอย่างยิ่ง ประชาชนบริสุทธิ์ถูกใส่ร้ายโดนโบยตี ยังคิดว่าต้องใช้เงินถึงจะสามารถรอดพ้นได้ ถือเป็นความผิดของคนที่มีอำนาจ
เจ้าห้าจะต้องจัดการให้ดีๆ แล้วจริงๆ
หยวนชิงหลิงยังไม่ได้บอกถึงสถานะของตนเองให้นางรู้ กลัวว่านางจะตื่นเต้นจนเกินเหตุแล้วไม่ให้ความร่วมมือในการรักษา รอหลังจากจัดการบาดแผลเรียบร้อยแล้ว อ๋องฉีเคาะประตูอยู่ด้านนอกพร้อมพูดขึ้นว่า “พี่สะใภ้ห้า ลูกชายของช่างสวีมาแล้ว”
น้ำเสียงเจ้าเจ็ดหวาดหวั่น แสดงว่าเจ้าห้ายังโกรธโมโหอย่างมาก
“เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว ให้พวกเขารอสักครู่ เตรียมรถม้าเสร็จแล้วหรือยัง?”
“เตรียมเรียบร้อยหมดแล้ว” อ๋องฉีพูดผ่านประตู ท่าทีให้ความเคารพนับถืออย่างยิ่ง กั้นด้วยบานประตูหนาแน่น หยวนชิงหลิงยังเหมือนเห็นถึงดวงตาที่เศร้าสร้อยคู่นั้นของเขา
“อืม รู้แล้ว” หยวนชิงหลิงพูดตอบ
จัดการบาดแผลเสร็จเรียบร้อยแล้ว หยวนชิงหลิงพูดกับช่างสวีอีกว่า “เรื่องนี้ กองบัญชาการรักษาความสงบต้องรับผิดชอบต่อเจ้า คนที่ควรถูกลงโทษล้วนถูกลงโทษ คนที่ควรจัดการก็ถูกจัดการ เจ้าวางใจ”
ช่างสวีอึ้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “ลงโทษ? ไม่กล้า ไม่กล้า”
นางเป็นเพียงนักศิลปะหญิงคนหนึ่ง จะกล้าเอาโทษขุนนางได้อย่างไร? ยิ่งไม่กล้าพูดว่าวางใจ