บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1979 เจ้าก็ตามคนมาเยอะหน่อย
บทที่ 1979 เจ้าก็ตามคนมาเยอะหน่อย
หยวนหย่งอี้รู้สึกว่าฝีมือการพูดหลักการของพี่หยวนนั้นไม่มีใครเทียบได้ จะต้องสามารถทำให้หญิงเฒ่าคนนี้กลับใจกลายเป็นคนใหม่ได้แน่
นางฝ่าผ่านฝูงคนเข้าไป ราวกับเหยี่ยวจับตัวนกน้อยคว้าจับคอเสื้อฮูหยินเฒ่า แล้วก็ลากนางเข้าไปข้างใน พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าเข้ามา พี่สาวข้าจะพูดหลักการดำเนินชีวิตให้กับเจ้า”
หญิงชรากำลังร้องไห้ได้อย่างเข้าด้ายเข้าเข็ม จู่ๆ ก็ถูกหิ้วขึ้นมา ตกใจจนสีหน้าขาวซีด พร้อมพูดขึ้นว่า “ไอหยา จะฆ่าคนแล้ว จะฆ่าคนแล้ว….พวกเจ้าตายกันหมดแล้วหรือ? ยังไม่มาช่วยข้า?”
การเปลี่ยนแปลงนี้คนที่อยู่ในสถานการณ์ต่างนิ่งอึ้ง เมื่อกี้อาเล็กมัวแต่สนใจอธิบายเรื่องพี่สะใภ้ให้เพื่อนบ้านฟัง เมื่อหันกลับมาก็เห็นแม่ถูกผู้หญิงคนหนึ่งคว้าจับตัวเข้าบ้านไปแล้ว หลังจากอึ้งเสร็จ ก็พาพวกหลานๆ ไล่ตามไป ไม่ทันได้สนใจว่าด้านหลังมีผู้หญิงคนหนึ่งตามเข้ามาด้วย
หลังจากหยวนชิงหลิงเข้าไปแล้ว ก็นั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องโถง เก้าอี้ตัวนั้นปกติหญิงชราคนนี้นั่งสั่งการอยู่อย่างสูงส่ง
หยวนหย่งอี้ลากเก้าอี้มาหนึ่งตัว ดันฮูหยินเฒ่าไปนั่ง เห็นนางดิ้นรน จึงกดไหล่พร้อมถามพี่ชายใหญ่ลู่ด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “ในบ้านมีเชือกไหม?”
พี่ชายใหญ่ลู่นิ่งอึ้ง สายตาหันไปมองตรงมุมกำแพง ตรงนั้นมีเชือกกองอยู่
หยวนหย่งอี้ดึงหญิงชราไปเอาเชือก แล้วเอากลับมานั่ง พร้อมมัดนางติดเก้าอี้ไว้แน่นอย่างชำนาญ
การกระทำของหยวนหย่งอี้ทั้งชำนาญทั้งเผด็จการ ทำให้พวกพี่น้องตระกูลลู่ต่างไม่กล้าไปห้าม
และสาเหตุสำคัญที่ไม่ไปห้าม
เพราะในที่สุดก็เอาท่านย่ากับมาได้ ไม่ตะโกนด่าอยู่ด้านนอกแล้ว
เมื่อฮูหยินเฒ่าสงบสติอารมณ์
มองดูหยวนหย่งอี้กับหยวนชิงหลิงแวบหนึ่ง ดูไม่รู้ว่าพวกนางเป็นใคร เพียงรู้สึกว่าลักษณะท่าทีไม่ธรรมดา จึงถามขึ้นอย่างโกรธโมโหว่า “พวกเจ้าเป็นใคร? มัดข้าไว้แบบนี้
รู้ไหมว่ากระทำผิดโทษฐานอะไร? ข้าเป็นมามาดูแลจัดการจวนท่านเฉินฝ่ายตรวจการ ฮูหยินท่านให้ความสำคัญต่อข้ามาก ฮูหยินมากมายที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงก็ดีกับข้ามาก พวกเจ้าอย่าคิดทำอะไรไปเรื่อย”
หยวนหย่งอี้รู้จักใต้เท้าเฉินฝ่ายตรวจการเป็นอย่างดี แต่ไม่เคยเจอฮูหยินของเขา รู้เพียงว่าฮูหยินคนนี้เป็นคนที่มีกลอุบายเก่งกาจ ไปมาหาสู่ฮูหยินขุนนางสูงศักดิ์ในเมืองหลวงมากมาย
เดิมหยวนชิงหลิงจะต่อว่านางแล้ว ได้ยินนางพูดเช่นนี้จึงก็ไม่รีบร้อน
เรียกหยวนหย่งอี้ พร้อมพูดขึ้นว่า “ในเมื่อนางมีเจ้านาย งั้นเจ้าไปตามมา ไปเชิญฮูหยินเฉินมาหาข้า
คนของเจ้าเยอะหน่อย จะได้ไม่หาว่าพารังแกเจ้า”
ที่หยวนชิงหลิงทำเช่นนี้เพราะมีเหตุผล ในเมื่อฮูหยินเฉินไปมาหาสู่ครอบครัวขุนนางตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง
งั้นก็เหมาะสมเลย
มีคำพูดบางอย่างที่มาจากพูดกับพวกนาง ให้ฮูหยินเฉินเป็นคนพูดออกไปก็พอแล้ว
ฮูหยินเฒ่าได้ยินว่าให้ไปตามฮูหยินบ้านเจ้านายของตนมา
รู้สึกค่อนข้างหวาดกลัวขึ้นมา ตอนที่นางอยู่ในจวนฮูหยินบ้านเจ้านายนั้นมีชื่อเสียงที่ดี
ไม่ด่าทอกลางตลาดเหมือนอย่างวันนี้ หากเป็นที่ร่ำลือออกไป จะเป็นการเสียหน้าตนเอง
แต่คนตรงหน้าคนนี้เป็นใคร? ฮูหยินขุนนางระดับสี่ สั่งคนไปตามมาก็ไปตามมาได้เลยหรือ?
อาเล็กประคองช่างสวีออกมา เมื่อเห็นหยวนชิงหลิง ช่างสวีก็รีบสั่งให้พวกลูกชายเอาชามา พร้อมพูดขึ้นว่า “คนนี้เป็นหมอที่ช่วยรักษาให้กับข้า ต้องดูแลต้อนรับเป็นอย่างดี”
พวกพี่ชายใหญ่ลู่ค่อยได้สติกลับมา แล้วก็รีบออกไปต้มน้ำชา
ฮูหยินเฒ่าได้ยินว่าเป็นหมอ ก็ค่อยวางใจ ตั้งแต่ฮองเฮาเปิดวิทยาลัยสอนการแพทย์มาตั้งนานหลายปี ผู้หญิงก็สามารถเป็นหมอได้ ดังนั้นในท้องถิ่นจึงมีหมอผู้หญิง มีฝีมือทางการแพทย์ที่ค่อนข้างดี มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในตระกูลขุนนาง แต่ยังไงสถานะก็ไม่สูงส่ง
พี่ชายใหญ่ลู่ถามว่าแกะเชือกให้ท่านย่าไหม หยวนชิงหลิงมองดูนางพร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่แกะ”
พี่ชายใหญ่ลู่ได้ยินเช่นนี้ ก็ไม่กล้าทำอะไร ฮูหยินเฒ่าพูดด่าตำหนิว่า “เจ้าคนทรยศ เห็นท่านย่าถูกคนอื่นมัด ก็ไม่เข้ามาช่วย เสียแรงที่เลี้ยงเจ้ามานานหลายปีขนาดนี้”