บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1982 ภรรยาทำถูกทุกอย่าง
บทที่ 1982 ภรรยาทำถูกทุกอย่าง
คำพูดของฮองเฮา ทำให้เลือดในใจฮูหยินเฉินกับช่างสวีสูบฉีดขึ้นมา
คำพูดนี้หากพูดออกมาจากปากคนอื่น คงจะไม่ตื่นเต้นอะไร แต่คำพูดนี้ฮองเฮาเป็นคนพูด น้ำหนักจึงไม่เหมือนกัน ความตื่นตระหนกก็มีไม่เหมือนกัน
“ฮูหยินเฉิน คำพูดที่ข้าพูดจากเรื่องที่เกิดขึ้นในครอบครัวของพวกเขาในวันนี้ แลดูเหมือนกะทันหัน แต่ก็เพราะจนใจ ผู้หญิงมากมายที่น่าสงสารต่างเลือกที่จะเก็บไว้ในใจ กระทั่งไม่อยากที่จะพูดกับคนอื่น เพียงเพราะกลัวว่าจะทำให้ชื่อเสียงเสื่อมเสีย หากกระทำความดีสิ่งที่ได้กลับมาจะต้องเป็นชื่อเสียงที่ดี แต่หากตนเองจะต้องทนทุกข์ทรมาน เพื่อปกป้องชื่อเสียงอะไรนั่น ถือเป็นเรื่องน่าขำ เพราะสิ่งที่ทำนั้นไม่ใช่เพื่อหน้าของตนเอง แต่ทำเพื่อหน้าของผู้ชาย และก็ไม่ใช่ชื่อเสียงของตน แต่เป็นชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล”
“ข้าไม่ได้หมายความว่าใครที่ต้องทนทุกข์ เจอกับเรื่องเศร้าแล้วจะต้องพูดให้กับคนอื่นฟัง มีบางคนก็ชอบที่จะซ่อนความรู้สึกไว้ในใจ แต่ยังไงก็ต้องให้พวกนางมีทางเลือกอื่น ตอนนี้ที่จริงราชสำนักก็มีกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้หญิง แต่ทุกคนไม่ใช้ ทำไมถึงไม่ใช้? เพราะหลังจากเกิดเรื่องแล้วก็จะทำให้เสียหน้า กลัวว่าเดือดร้อนไปก็ไม่มีประโยชน์ สู้ตนเองอดทนอดกลั้นไว้ยังจะดีกว่า ฮูหยินเฉิน เจ้าคิดว่าตอนนี้เป็นเช่นนี้ไหม? สถานการณ์แบบนี้ โดยเฉพาะพวกเจ้าที่ให้ความสำคัญในด้านอำนาจกับตำแหน่งขุนนาง เรื่องราวภายในจวน จึงยิ่งชอบที่จะปิดบัง แต่ข้าหวังอยากให้พวกเจ้าเป็นตัวอย่าง ให้ผู้หญิงเป่ยถังได้เห็นถึงความกล้าหาญของพวกเจ้า เนิ่นนานไป ผู้หญิงที่น่าสงสาร ก็จะลุกยืนขึ้นมาต่อต้าน และสิ่งที่พวกเราต้องทำ ก็คือเปิดเส้นทางนี้”
“ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะต้องมีก้าวแรก ถึงจะรู้ว่าต่อไปควรจะเดินยังไง” สุดท้ายหยวนชิงหลิงพูดเน้นหนึ่งประโยค
ในใจฮูหยินเฉินตื้นตันยินดี คุกเข่าคำนับอย่างเคารพนับถือ พร้อมพูดขึ้นว่า “ฟังคำพูดของเหนียเหนียงแล้ว ข้าน้อยเข้าใจความตั้งใจของฮองเฮา และก็จะไม่ทำให้ฮองเฮาผิดหวัง เป่ยถังในอนาคต ผู้หญิงก็จะสามารถทัดเทียบฟ้า”
“ฮูหยินเฉิน จะมีวันนั้นแน่”
ไม่อาศัยการให้หรือความสงสารของผู้ชาย”
หยวนชิงหลิงมองดูนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “แต่วันนี้เราต้องสู้
หยวนชิงหลิงไม่ได้พูดให้หญิงชายเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน และก็ไม่ได้พูดให้ผู้หญิงเปรียบเทียบกับผู้ชาย เพียงแค่ต้องการอยากให้ผู้หญิงมีช่องว่างที่เป็นอิสระแก่ตนเอง
หลังจากฮูหยินเฉินกลับไปแล้ว หยวนชิงหลิงกับช่างสวี คุยกันเป็นการส่วนตัวสักพัก
ช่างสวีก็พูดความจริงว่า “ที่จริงข้าน้อยอยากที่จะย้ายออกไปนานแล้ว แต่ทิ้งแม่สามีให้อยู่คนเดียว กลัวว่าพวกลูกๆ จะถูกคนอื่นนินทาว่าอกตัญญู
ท่านก็รู้ หากได้ชื่อว่าอกตัญญู ก็จะหาคู่แต่งงานไม่ได้ ดังนั้นเรื่องนี้จึงรอแล้วรออีก และตอนนี้ก็เพิ่งซื้อไปแค่สี่หลัง ยังเหลืออีกสองหลัง
หากจะต้องแบ่งบ้าน ก็จะต้องรอให้พวกเขาทั้งหมดแต่งงานแล้วถึงจะสามารถแบ่งได้”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างรับนับถือว่า
“เจ้าเก่งมากจริงๆ ผู้หญิงตัวคนเดียวสามารถเลี้ยงลูกชายหลายคนได้ดีขนาดนี้ ตอนนี้ลูกโตแล้ว
เจ้าก็ไม่ต้องทำให้ตนเองลำบากมากแล้ว”
“ฮองเฮาชมเกินไปแล้ว คนเป็นพ่อแม่ มักจะคิดเผื่อลูก
ตอนนี้ถึงแม้พวกเขาจะมีทางเดินของตนเองแล้ว แต่ยังไม่แต่งงาน การแต่งงานจะต้องใช้เงินอย่างมาก ต่อไปมีลูกต้องเลี้ยงดู ในครอบครัวก็จะต้องช่วยเหลือได้บ้าง ข้าน้อยไม่รู้สึกลำบาก ยังสามารถหารายได้ ก็หารายได้ต่อไป ข้าน้อยช่วยเก็บเงินให้พวกเขามากหน่อย
ต่อไปพวกเขาก็จะได้ทุกอย่างน้อยหน่อย”
หยวนชิงหลิงตบหลังมือของนางเบาๆ
พร้อมพูดขึ้นว่า “คิดว่าเจ้าก็คงมีแผนการของตนเองแล้ว ข้าก็จะไม่เสนอแนะอะไรเจ้ามาก
เจ้าคิดดูเองก็แล้วกัน”
ช่างสวีพูดขึ้นอย่างซาบซึ้งใจว่า “ขอบคุณในความเป็นห่วงของฮองเฮา บุญคุณของฮองเฮา ข้าน้อยจะจดจำไว้ในใจ”
“รักษาอาการบาดเจ็บให้ดี”
ภายในใจยังคิดถึงแต่คนอื่น หาได้ยากจริงๆ
ในใจหยวนชิงหลิงรู้สึกเศร้า นางลำบากมาตั้งนานหลายปีขนาดนี้แล้ว
หลังออกมาจากตระกูลลู่ หยวนชิงหลิงก็กลับวังแล้ว
เรื่องที่ทำการปกครองเหนือมีคนคอยจัดการอยู่แล้ว นางที่เป็นฮองเฮาได้เปิดเผยหน้าแล้ว
ต่อไปควรจะทำอย่างไรก็มีทิศทางแล้ว
มีแต่เจ้าห้า
“จัดการฉินฮวนก็พอ ไม่จัดการลูกชายของเขา”
ยังคงพูดว่าจัดการฉินฮวนพ่อลูกก่อน หยวนชิงหลิงคิดดูแล้วก็พูดขึ้นว่า
“ทำไมไม่จัดการลูกชายของเขา? นั่นเป็นคนอันธพาลชั่วร้าย” เป็นครั้งแรกที่เจ้าห้าเถียงภรรยา
หยวนชิงหลิงจูงมือของเขามานั่งลง พร้อมพูดปลอบว่า “อย่าใจร้อน ให้กู้ซือไปจัดการฉินฮวนก็พอ ส่วนลูกชายของเขา เก็บไว้ให้ลูกชายของเจ้า ดีไหม?”
เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะเจ้าตาทับทิม ช่างสวียังถูกทำร้าย ซาลาเปาจะต้องโกรธโมโหอย่างมาก หากเขากลับมาแล้วเรื่องทุกอย่างจัดการหมดแล้ว ไฟแห่งความโกรธโมโหของเขาก็จะไม่มีที่ระบาย เก็บคุณชายฉินคนนี้ไว้ให้เขา ให้เขาได้ระบายอารมณ์
เจ้าห้าเปลี่ยนจากความโกรธเป็นความดีใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าคิดได้รอบคอบจริงๆ”
หยวนชิงหลิงนวดขมับ พร้อมพูดขึ้นว่า “ซาลาเปามักจะพูดว่าค่อยๆ เลี้ยงดูให้เจ้าตาทับทิมเติบโต แต่เขามีงานยุ่งมากจริงๆ สิ่งที่เราสามารถช่วยได้ ก็ต้องช่วย แต่มีบางอย่างที่ไม่ควรช่วย ก็เก็บไว้ให้เขาจัดการเอง”
“เจ้าพูดถูกทุกอย่าง” เจ้าห้าพูดเอาใจได้อย่างคล่องปาก การทุจริตของขุนนางตื่นตระหนกเดือดร้อนไปถึงเจ้าหยวน เดิมก็ทำให้เขาโกรธโมโหอย่างมากแล้ว