บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 2015 สอบสวนหวงเฉวียน
บทที่ 2015 สอบสวนหวงเฉวียน
ทางกรมการพระนครคืนนี้ก็ทำงานล่วงเวลาเช่นกัน เป็นการสอบสวนเพื่อตัดสินคดีของหวงเฉวียน
มีการตรวจพบสารพิษในเหล้าแล้ว ถ้าไม่มีชนักติดหลังจริง ทำไมถึงต้องวางยาพิษเพื่อจะฆ่าเฉินต้าหลงด้วยล่ะ?
เริ่มแรกหวงเฉวียนยังคิดจะปกปิดความผิด คิดว่าจะไปขอร้องให้คนตระกูลฉู่มาช่วยเหลือ เพราะถึงอย่างไร เขาก็มีฐานะเป็นถึงลูกเขยของตระกูลฉู่ หลายปีมานี้ก็สะสมพรรคพวกและเส้นสายเอาไว้ได้ไม่น้อยทีเดียว
แต่เพราะรัชทายาทกับอ๋องฉีรับผิดชอบคดีนี้ด้วยตัวเอง แม้กระทั่งระหว่างขั้นตอนการสอบสวน รัชทายาทก็ยังเข้าร่วมฟังด้วย อำนาจแห่งสายเลือดของหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์สร้างแรงกดดัน จู่โจมทำลายแนวป้องกันของเขาจนหมดสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเขาหวนนึกถึงเรื่องที่ว่าเฉินต้าหลงที่มาหาเขาคนนั้นคือแม่ทัพใหญ่จิ้งถิง เขาก็รู้ดีแก่ใจแล้วว่า ตัวเองไม่มีโอกาสก้าวเท้าออกไปจากประตูกรมการพระนครแล้วแน่ ๆ
การสารภาพ กลายเป็นทางออกเดียวของเขา
ปรากฏว่าแท้ที่จริงแล้ว ตอนนั้นเขาไม่เคยคิดจะแต่งงานกับอู๋เหวินจริง ๆ ที่สร้างความสัมพันธ์อันดีกับอู๋เหวิน ก็แค่อยากได้เงินของนางไปใช้ผูกมิตรกับบรรดาลูกหลานของผู้รากมากดี เหล่าคนที่มีอำนาจในเมืองหลวงทั้งหลาย ให้พวกนั้นช่วยฝากเขาเข้าไปเป็นศิษย์ของบัณฑิตผู้มากวิชา
จะผูกสัมพันธ์กับลูกหลานผู้มีอำนาจมียศศักดิ์ การส่งข้าวของเงินทองเป็นสิ่งแสดงน้ำใจย่อมเป็นเรื่องที่จะขาดไปไม่ได้ ส่วนอู๋เหวินก็หลงใหลได้ปลื้มกับความรู้ของเขา แค่อ่านบทกวีให้นางฟังสักบท ก็ทำให้นางหลงใหลคลั่งไคล้จนถอนตัวไม่ขึ้นได้แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเล่านิทานต่าง ๆ ให้นางฟังอีกมากมาย ล้วนเป็นเรื่องในทำนองที่กล่าวถึงคุณหนูผู้ร่ำรวย ที่คอยช่วยเหลือสนับสนุนบัณฑิตไปเข้าสอบจนสอบได้ตำแหน่งจอหงวน ต่อมาก็ได้กลายเป็นฮูหยินจอหงวน ใช้ชีวิตอันรุ่งโรจน์และมั่งคั่งไปตลอดชีวิตที่เหลือ สามารถกระโดดข้ามชนชั้นได้ดั่งที่ใจเคยปรารถนา
นิทานลักษณะนี้พอเล่ามาก ๆ เข้า ในใจของอู๋เหวินก็บังเกิดแรงปรารถนาขึ้นมาว่าสักวันหนึ่ง นางจะได้กลายเป็นฮูหยินของจอหงวน มีสถานะสูงส่งมีหน้ามีตาในสังคม
แม้ว่าตัวนางจะไม่ได้มีเงินทองมากมาย แต่เพราะครอบครัวของนางร่ำรวย ไม่ว่าเครื่องประดับอัญมณีใด ๆ ที่นางอยากได้ พ่อแม่ของนางก็พร้อมจะซื้อให้นางเสมอ
นางยังถึงกับมอบเครื่องประดับที่เฉินหวู่ให้นางเป็นของหมั้นหมายไปให้หวงเฉวียน เพื่อเขาจะได้นำไปใช้สร้างความสัมพันธ์อันดี เป็นการปูทางสำหรับอาชีพในอนาคตเลยด้วยซ้ำ
“แต่ก่อนการสอบเคอจวี่แค่ไม่กี่เดือน นางก็ถึงกับมาเรียกร้องเรื่องการแต่งงาน เพราะนางกลัวว่าหลังจากที่ข้าสอบได้จอหงวนแล้วจริง ๆ ก็จะไม่ต้องการนางแล้ว แท้ที่จริงนางฉลาดมาก นางไม่ได้โง่เลยแม้แต่น้อย”
“ถึงแม้ว่าตอนนั้นข้าจะรำคาญนาง แต่ข้ายังต้องการเงินเพื่อเอาไปใช้ดำเนินการเชื้อเชิญลูกหลานผู้มีอำนาจเหล่านั้นมาดื่มเหล้า จึงทำได้แค่ยื้อนางด้วยเหตุผลที่ว่านางมีสัญญาแต่งงานอยู่ คิดไม่ถึงว่านางจะใช้ความตายมาบีบบังคับ เพื่อให้พ่อแม่ของนางไปยกเลิกงานแต่ง พ่อแม่ของนางเคยมาหาข้า ข้าได้แต่สาบานกับพ่อแม่ของนาง สัญญาว่าวันข้างหน้าข้าจะดีกับนาง แต่อย่างไรนั่นก็ไม่ใช่คำพูดที่มาจากใจจริง บางทีพ่อแม่ของนางก็อาจจะไม่ค่อยชอบข้านัก ข้าไปบอกเรื่องพวกนี้ต่อหน้านาง ทำท่าทางให้ดูน้อยอกน้อยใจมาก ๆ เข้า นี่จึงยิ่งทำให้นางเอาพวกอัญมณีของมีค่าทั้งหลายมาให้ข้ามากขึ้นเพื่อถือเป็นสิ่งชดเชย”
หวงเฉวียนพูดถึงตรงนี้ ก็ถึงกับยิ้มออกมา ไม่รู้ว่าเป็นรอยยิ้มจากความขมขื่นหรือรอยยิ้มเย้ยหยันกันแน่ “นี่เป็นความทรงจำซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์อันเลวร้ายซึ่งข้าไม่อยากจดจำมันที่สุด ตอนนี้ข้ามีตำแหน่งสูงส่งมียศถาบรรดาศักดิ์ แต่กลับเคยหลอกเอาเงินจากผู้หญิงคนหนึ่ง”
รัชทายาทพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ตอนนี้เจ้าเป็นนักโทษที่รอจองจำแล้ว อีกทั้ง เจ้าไม่เพียงแต่หลอกเงินผู้หญิงคนหนึ่ง แต่เจ้ายังฆ่านางด้วย ทำไมเจ้าถึงต้องฆ่านาง?”
หวงเฉวียนถอนหายใจหนัก ๆ เฮือกหนึ่ง “ ความยึดมั่นถือมั่นของนาง คือสิ่งที่ทำร้ายนาง เดิมทีพ่อแม่ของนางกับเฉินหวู่ต่างก็ไม่ยอมยกเลิกการแต่งงาน แต่ภายใต้การอาละวาดดิ้นรนของนาง ทำให้พ่อแม่ของนางต้องยอมปล่อยวาง นางสั่งให้คนมาส่งจดหมายให้ข้า บอกว่าตอนนี้อุปสรรคเดียวที่เหลืออยู่ก็คือเฉินหวู่ นางได้นัดให้เฉินหวู่ไปที่หอตะวันตกแล้ว จะไปบอกเขาว่านางกับข้าตอนนี้ได้มีอะไรกันแล้ว ให้เฉินหวู่ยอมตัดใจ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ข้าปฏิบัติต่อนางด้วยความสุภาพให้เกียรติเสมอมา แม้ว่าจะใช้เงินของนางก็จริง แต่ข้าไม่เคยหลอกช่วงชิงร่างกายของนางเลย”
“เมื่อไหร่ที่นางยกเลิกการแต่งงานได้สำเร็จ นั่นแสดงว่าข้าต้องแต่งกับนาง อีกทั้งนางคิดจะใช้ข้ออ้างแบบนี้เป็นไพ่ตายไปหงายต่อหน้าเฉินหวู่ ซึ่งนั่นมันจะทำให้ชื่อเสียงของข้าเสื่อมเสียมากเกินไป ข้าหมายมั่นว่าจะต้องสอบเคอจวี่ให้ได้ แต่ถ้ามีปัญหาเรื่องชู้สาวกับผู้หญิงที่มีสัญญาแต่งงาน น่ากลัวว่าคงยากจะมีอนาคตที่ดีได้ ดังนั้น พอได้รับจดหมายข้าก็ไปรอให้นางปรากฏตัวที่ใกล้ ๆ หอตะวันตก ให้คนไปส่งจดหมายบอกนาง ว่าให้แยกกับสาวใช้แล้วมาพบข้า ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมถึงอยากให้นางแยกกับสาวใช้ นั่นก็เพราะว่าสาวใช้คนนี้เป็นพวกฆ้องปากแตก”
รัชทายาทเอ่ยแทรกขึ้นทันทีว่า “ในตอนนั้น มีขุนนางคนหนึ่งที่สนใจในความสามารถของเจ้าอย่างมาก ยังบอกคนอื่นด้วยว่าถ้าเจ้ามีรายชื่ออยู่ในบัญชีผู้สอบผ่าน เขาจะให้ลูกสาวแต่งงานกับเจ้า ถูกหรือไม่? คำพูดเหล่านี้ เจ้าได้รู้มาจากปากของลูกผู้มีอำนาจคนหนึ่งที่เจ้าไปผูกสัมพันธ์ไว้”
หวงเฉวียนตกใจจนผงะ แล้วยกยิ้มอย่างขมขื่น “กระทั่งเรื่องนี้ฝ่าบาทก็ยังตรวจสอบพบจนได้ ดูเหมือนว่าวันนี้ กระหม่อมคงไม่อาจปิดบังซ่อนเร้นอะไรได้แล้วเป็นแน่”
“รายละเอียดอื่น ๆ ข้าก็ตรวจสอบมาจนหมดแล้วเช่นกัน” รัชทายาทพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “พูดต่อไปเถอะ”
สีหน้าของหวงเฉวียนเริ่มเปลี่ยนเป็นคลุมเครือ “ข้าพานางไปคุยกันในป่าแถวนั้น พวกเราเคยไปที่นั่นมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ตอนนั้นข้าไม่ได้มีใจคิดอยากจะฆ่านางจริง ๆ แค่หวังว่านางจะเปลี่ยนข้ออ้างไปพูดเรื่องอื่นเพื่อยกเลิกงานแต่ง อย่าทำลายชื่อเสียงของข้าอย่างนั้น แต่คนที่ปากบอกว่ารักกันนักหนาคนนั้น กลับมีความคิดชั่วร้ายเลวทรามมาก นางบอกว่ามีแต่ต้องพูดแบบนี้เท่านั้น เมื่อข้าสอบผ่านถึงจะไม่ทำตัวเนรคุณนาง”
“ข้าทั้งขอร้องทั้งอ้อนวอนนางอยู่นาน อ้อนวอนเหมือนหมาตัวหนึ่ง นางก็ยังไม่แยแส นางไม่คิดถึงอนาคตของข้าเลยแม้แต่น้อย ชั่วขณะนั้น ข้าเกิดความรู้สึกเกลียดนางจนเข้ากระดูก เกลียดมากจนอยากฆ่านางไปให้พ้น ๆ ”
ทั้งที่ผ่านไปหลายปีแล้ว เมื่อเขาพูดถึงเรื่องนี้ ก็ยังมีวี่แววความเกลียดชังผุดขึ้นบนใบหน้า เขาไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เขาให้ความสำคัญมากมายขนาดนั้น แต่ทำไมคนที่ปากบอกว่ารักเจ้านักหนาคนนั้น กลับไม่สนใจมันเลยสักนิด เอาแต่ตั้งใจจะใช้คำพูดเพียงประโยคเดียว ก็สามารถทำลายความพยายามทั้งหมดที่เขาทุ่มเททำมาตลอดชีวิตลงได้ง่าย ๆ
การมีสัมพันธ์เกินเลยกับคู่หมั้นของคนอื่น จุดด่างพร้อยข้อนี้ ไม่อาจล้างออกได้ทั้งไม่อาจให้เขามีคุณสมบัติพอที่จะได้เข้าไปทำงานในราชสำนัก การที่เขาฆ่านาง เป็นเพราะถูกบีบจนไม่มีวิธีอื่น จึงจำใจต้องทำแบบนี้
บทที่ 2014 นางสมควรอยู่ให้ห่าง
บทที่ 2016 กลับไปถามเสด็จพ่อ