บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 2016 กลับไปถามเสด็จพ่อ
บทที่ 2016 กลับไปถามเสด็จพ่อ
หวงเฉวียนพูดต่อไปว่า “เจตนาฆ่าเหมือนอย่างประกายไฟบนทุ่งหญ้าที่แห้งแล้ง เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ไม่สามารถที่จะยับยั้งได้อีกต่อไป ตอนนั้นนางโทษข้าที่ข้าไม่คิดที่จะแต่งงานกับนาง บอกว่าหากข้าทอดทิ้งนาง นางก็จะอาละวาดทำให้ข้าเสื่อมเสียชื่อเสียง ข้ามองดูนางที่จู่ๆ ก็กลายเป็นคนปากจัดขึ้นมา ข้าเข้าไปหยิกอย่างไม่ครุ่นคิด ตอนนั้นหัวสมองว่างเปล่าจนมึนชา เป็นเพียงความคิดเดียวก็คือไม่ยอมให้นางทำลายอนาคตของข้า”
“ตอนนั้นนางดิ้นรน ยังเตะข้าลงบนพื้น ซึ่งบนพื้นมีเถาวัลย์ ข้าจึงเอาเถาวัลย์มาคล้องคอของนางไว้ นางดิ้นรนจนเถาวัลย์หลุดไปถึงหน้าอก ข้าจึงจำต้องกระโจนใช้มือหยิกนางไว้ แต่หยิกได้สักพักก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้น ในใจของข้ากระวนกระวาย รีบปล่อยนางแล้วก็วิ่งกลับร้านเหล้าไป ความจริงแล้ว ข้าก็ไม่รู้ว่านางตายหรือไม่ตาย หลังจากกลับไปแล้วข้าก็คิดอยู่ว่าถ้าหากมีคนไปเห็น ข้าไม่เพียงหมดอนาคต ข้ายังต้องชดใช้ด้วยชีวิต ตอนนั้นข้าเกลียดนางอย่างมากจริงๆ”
“มีคำถามหนึ่ง” องค์ชายรัชทายาทมองดูเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “ตอนนั้น เพื่อนของเจ้ากับคนในร้านเหล้าเป็นพยานให้กับเจ้า บอกว่าคืนนั้นเจ้าดื่มเหล้าอยู่ที่นั่น ข้าไปดูมาแล้วร้านเหล้าที่เจ้าดื่มเหล้ากับหอตะวันตกห่างกันอย่างน้อยสองกิโล แต่เจ้าไปรอนางตรงที่ใกล้หอตะวันตกก่อน แล้วค่อยไปคุยกันในป่าไม้ จนสุดท้ายฆ่านางแล้วก้อนนี้กลับมาอย่างร้านเหล้า อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมง แต่เพื่อนของเจ้ากับเสี่ยวเอ้อในร้านต่างพูดคำให้การว่า ระหว่างนั้นเจ้าเพียงแค่เคยไปห้องน้ำ”
หวงเฉวียนพูดขึ้นว่า “หลังจากที่ข้าวิ่งกลับไปแล้ว จิตใจกระวนกระวาย จึงวิ่งไปห้องน้ำ จนเพื่อนของข้ามาเคาะประตูห้องน้ำ ข้าค่อยเดินออกมาอย่างโซเซ บอกว่าข้าดื่มจนเมาแล้วนอนหลับอยู่ในห้องน้ำ และยังบอกเพื่อนว่า เมานอนแล้วหลับอยู่ในห้องน้ำน่าอับอายอย่างมาก ให้พวกเขาช่วยข้าเก็บเป็นความลับ จะได้ไม่ทำให้ข้าเสื่อมเสียชื่อเสียง ข้ายังใช้เงินจ่ายให้กับเสี่ยวเอ้อของร้านเหล้า เสี่ยวเอ้อสนิทกับข้าแต่แรกแล้ว ยอมที่จะช่วยข้าปกปิดความลับ เมื่อตอนที่ขุนนางมาถามพวกเขา พวกเขาจึงไม่พูดถึงเรื่องนี้ พูดเพียงว่าข้าดื่มเหล้าอยู่ในร้านเหล้าตลอด ความจริงแล้ว พวกเขาไม่เคยรู้ว่าข้าเคยออกไป ทุกอย่างไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขา”
อ๋องฉีหัวเราะเย้ย พร้อมพูดขึ้นว่า “เพราะคำให้การของพวกเขา ทำให้ตอนนั้นกรมการพระนครไม่สงสัยเจ้า”
ตอนนั้นข้าเคยดูบัญชีคดี เพราะหวงเฉวียนไม่มีหลักฐานว่าไม่อยู่ในเห็นการณ์ และคำให้การก็ไม่มีเพียงคนเดียว เมื่อผ่านการตรวจสอบแล้ว แขกในร้านเหล้าในคืนนั้นมากมายต่างก็เห็นเขา ดังนั้นกรมการพระนคร จึงไม่สงสัยในตัวเขา
บวกกับตอนผู้ตายนัดพบเฉินหวู่ ดังนั้นจึงล้วนพุ่งเป้าไปที่เฉินหวู่
องค์ชายรัชทายาทได้ยินคำตอบที่ต้องการ จึงสั่งคนกักขังหวงเฉวียนไว้ก่อน กลับได้ยินหวงเฉวียนพูดบ่นพึมพำขึ้นว่า “ข้าไม่เสียใจ หลายสิบปีมานี้ค่ามีชีวิตอยู่อย่างยอดเยี่ยม ตอนนี้ต้องแลกด้วยชีวิตก็ไม่เสียใจแล้ว หากไม่ฆ่านาง ข้าก็จะไม่มีความรุ่งโรจน์ในวันนี้ คนเราทั้งชีวิต ต้องการอะไรล่ะ?”
เดิมองค์ชายรัชทายาทอยากที่จะพูดว่า ด้วยความสามารถของเจ้า ต่อให้แต่งงานกับนางก็สามารถสอบได้เป็นจอหงวน ได้รับราชการเหมือนกัน แต่คิดว่าไม่จำเป็นต้องพูดแล้ว หลักการนี้ตัวเขาเองก็รู้
หากไม่ต้องแบกรับชีวิตคนคนหนึ่งไว้ ความสำเร็จจะดีกว่าตอนนี้ไหมไม่รู้ แต่อย่างน้อยก็สามารถได้มีชีวิตอย่างสบายใจบ้าง ภายในใจไม่ต้องแอบซ่อนความลับไว้ ทำอะไรก็สามารถทำได้อย่างภาคภูมิใจ
หลังจากอ๋องฉีพาหวงเฉวียนไปขังแล้ว ก็ไม่รู้ทำไมถึงได้คิดถึงเฉินหวู่ผู้น่าสงสารขึ้นมา
บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 2016 กลับไปถามเสด็จพ่อ –
องค์ชายรัชทายาทเคยพูดไว้ ลมหายใจสุดท้ายของอู๋เหวิน เป็นเพราะเฉินหวู่หกล้ม ถูกเชือกมัดแล้วก็ถูกลากไปในลำห้วยเล็กจนตาย
เฉินหวู่ไม่ได้ตั้งใจที่จะฆ่าคน เขาหกล้มเป็นเพราะอุบัติเหตุ ดังนั้นจึงไม่มีความผิดโทษฐานทำร้ายร่างกาย
ปัญหาก็คือ ตามอย่างที่องค์ชายรัชทายาทพูด ถึงหวงเฉวียนมีความคิดที่จะฆ่าคน แต่ก็ไม่ได้ฆ่าอู๋เหวินตาย และยังเป็นเจตนาฆ่าที่เกิดขึ้นเพราะถูกกระตุ้น ไม่ได้วางแผนคิดที่จะฆ่าคนตั้งแต่แรก ต้องรับโทษประหารหรือไม่ ต้องรอดูไปก่อน
เขาพูดกับองค์ชายรัชทายาทว่า “เรื่องนี้ กลับยังต้องปรึกษากับทางด้านกรมอาญา”
องค์ชายรัชทายาทฟังประโยคนี้แล้ว ก็พูดขึ้นว่า “สุดท้ายกรมอาญาตายยังไง ไม่สามารถที่จะสืบได้แล้ว และสิ่งที่พวกเราสันนิษฐานพวกนั้น ล้วนไม่มีหลักฐาน”
“แต่หากสิ่งที่เจ้าพูดเป็นความจริง หวงเฉวียนก็ไม่ใช่คนที่ฆ่าอู๋เหวินตาย ถือว่าเป็นการตั้งใจข้าที่ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ส่งผลกระทบต่อการกำหนดโทษ แต่ส่งผลกระทบต่อผลโทษ เราทำคดี ยังไงก็ต้องพิจารณาความจริงที่มีความเป็นไปได้”
องค์ชายรัชทายาทขมวดคิ้ว พร้อมพูดขึ้นว่า “อืม เสด็จอาเจ็ดพูดมีเหตุผล ผลจากการชันสูตรตอนนี้ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแล้ว ยังไงศพก็กลายเป็นเถ้ากระดูกไปแล้ว”
“ซาลาเปา ที่จริงหากตอนนั้นเฉินหวู่ไม่ไป ไม่พาอู๋เหวินหกล้มลงไปด้วย อู๋เหวินก็ตาย”
“แต่ความจริงก็คืออู๋เหวินไปแล้ว แล้วก็พาอู๋เหวินหกล้มตกลงไปด้วย ดังนั้นตอนนี้เราจึงไม่สามารถที่จะสมมุตขึ้นมาว่าหากเฉินหวู่ไม่ไป อู๋เหวินจะมีชีวิตต่อไปไหม หรือถูกคนที่เดินผ่านช่วยชีวิตกลับไป”
อ๋องฉีไม่เคยทำคดีที่ยุ่งยากแบบนี้มาก่อนจริงๆ จึงมองดูเขาแล้วก็ถามขึ้นว่า “แล้วจะตัดสินคดีลงโทษยังไง?”
“ข้ากลับไปถามเสด็จพ่อดู” องค์ชายรัชทายาทพูดขึ้น
บทที่ 2015 สอบสวนหวงเฉวียน
บทที่ 2017 ทำแบบนี้แหละ