บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 2020 เป็นอัมพาตแล้ว
บทที่ 2020 เป็นอัมพาตแล้ว
ต่อมาท่านชายสี่รู้เรื่องนี้ ยังเคยถามอาจารย์ว่าทำไมไม่บอกพวกเขาตรงๆ? หากบอกไปตรงๆ พวกเขาก็ยินยอม
ตอนนี้อาจารย์พูดขึ้นมาอย่างจนใจว่า เพราะต้องติดหนี้พวกเขาไว้ จะได้อยู่ด้วยกันไปนาน
ตอนที่อาจารย์พูดประโยคนี้ สีหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์ที่เดาไม่ออก ตอนนี้หวนคิดดูแล้วก็ยังเดาไม่ออก
แต่เรื่องนี้ ยังระเกะระกะอยู่ในใจพวกชายชราชุดดำมาตลอด พวกเขาไม่พอใจ คิดว่าแคว้นต้าโจวติดหนี้ค่าจ้างของพวกเขา หลายครั้งที่ร้องขอก็เพียงแค่เปลี่ยนเมนูอาหารให้ดีขึ้นเท่านั้น
ยังไงความรักความแค้นระหว่างพวกเขา คนอื่นดูไม่ออก คนแก่คิดอยากทำอย่างไร ล้วนมีความคิดเป็นของตนเอง
ท่านชายสี่ไม่ตั้งใจที่จะจ่ายตัง หากให้ไป สองเฒ่านั้นก็จะไม่มีความสำนึกผิด ไม่แน่แม้แต่ตันเย่าก็จะไม่เอากลับมา
“เงินค่าจ้างนี้ ติดหนี้ไว้แบบนี้แหละ ให้พวกเขาเรียกร้องความไม่ยุติธรรมต่อไป ตราบใดที่ยังไม่ได้ตัง พวกเขาก็จะไม่วางใจ มีความนึกคิดไว้ก็ดี”
ท่านชายสี่พูดเสร็จ ยกแก้วขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “มา ยกแก้วกัน”
เรื่องแทรกนี้ ไม่ได้ทำลายความสุขของทุกคน เปลี่ยนเรื่องพูดกันอย่างรวดเร็ว เอาเรื่องที่พวกชายชราชุดดำมาทวงค่าจ้างโยนทิ้งไป
ไม่นานทางด้านจวนอ๋องซู่ก็ปล่อยสวีอีกลับมาแล้ว เจ้าฟันหลอนั่นกินเก่งอย่างมาก บอกว่ารู้ว่ามีงานเลี้ยงแต่แรกแล้ว จึงไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เช้า ตอนนี้หิวจะแย่แล้ว
ในเมื่อจับตัวไว้ในจวนอ๋อง ยังไงก็ต้องดูแลอาหารการกิน
ตอนนี้เนื้อในจวนอ๋องมีปริมาณจำกัด เพราะพี่จูตี้เคยพูดว่า กินเนื้อเยอะไม่ได้ ดังนั้นในแต่ละวันจึงมีปริมาณจำกัด เจ้าฟันหลอกินเนื้อไปสองถ้วยใหญ่ ยังบอกว่าไม่พอ จึงจำต้องรีบปล่อยไป
เห็นที จะจับคนไว้เป็นตัวประกันก็ต้องลงทุนเหมือนกัน
ถึงตอนนี้พวกเขาจะที่มีต้นทุนแล้ว แต่จะเอามาใช้กับเจ้าฟันหลอไม่ได้
สวีอีกลับมาอย่างเร่งรีบ ในที่สุดเขาก็ได้กินกุ้งมังกรกับเนื้อแพะอบที่รอคอยสมใจ ยังได้ดื่มกับแม่ทัพใหญ่จิ้งถิง
แม่ทัพใหญ่รู้สึกดีต่อสวีอีมาก คนคนนี้กล้าหาญมีความคิดเป็นของตนเอง จงรักภักดี ไม่มีความทะเยอทะยาน ติดตามฮ่องเต้อยู่อย่างถ่อมตน
เขายิ้มหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “ใต้เท้าสวี ลูกสาวก็อายุครบวัยสาวแล้ว ให้ข้าเป็นพ่อสื่อให้ไหม? ผู้ชายแคว้นต้าโจวของเรา ไม่แพ้ผู้ชายเป่ยถังเลยสักนิด”
สวีอีรีบโบกมือ ท่าทีค่อนข้างถือดี พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่รบกวนแม่ทัพใหญ่จะดีกว่า ลูกสาวข้ามีคู่หมั้นแล้ว ลูกเขยในอนาคต เป็นซินเคอจอหงวนของเป่ยถังเรา”
“อย่างนั้นหรือ?” แม่ทัพใหญ่พูดขึ้นอย่างแปลกใจว่า “คนลงมือก่อนได้เปรียบ?”
หม้ายชิงหวาในฐานะที่เป็นซินเคอจอหงวน วันนี้ก็มางานเลี้ยง ตอนที่ได้ยินพ่อตาพูดถึงเขา ท่าทีภาคภูมิใจอย่างมาก ในใจเขาก็อดไม่ได้ที่จะดีใจ ลุกขึ้นมายกแก้วให้แม่ทัพใหญ่ พร้อมพูดขึ้นก่อนว่า “หม้ายชิงหวา ขอดื่มให้กับแม่ทัพใหญ่”
บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 2020 เป็นอัมพาตแล้ว –
แม่ทัพใหญ่มองดูคนหนุ่มรูปงามคนนี้ คิดว่าเขาก็คือซินเคอจอหงวน จึงยิ้มยกแก้วขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “คนหนุ่ม มีบุญวาสนาจริงๆ”
“ขอรับ มีบุญวาสนามาก” หม้ายชิงหวาดื่มก่อนเป็นการให้เกียรติ เมื่อกี้ตอนที่แม่ทัพใหญ่พูดขึ้นมา เขาตกใจแทบแย่ ตราบใดที่ยังไม่ได้สู่ขอมาอยู่กับตนนั้น ไว้ใจไม่ได้จริงๆ
หลังจากได้ความมั่นใจกลับคืนมาแล้ว เขาค่อยนั่งลง
หลังจากงานเลี้ยงเลิกแล้ว เพราะคืนนี้หยวนชิงหลิงไม่กลับมา เจ้าห้าต้องเหงาจนนอนไม่หลับ จึงไปดื่มชากับจิ้งถิงบนหอทงเทียน
“ดังนั้น” หยู่เหวินเห้ายกชาขึ้นมามองดูเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “ครั้งนี้เจ้ามาเพื่อเยี่ยมเพื่อนเท่านั้นหรือ? ไม่มีเรื่องอื่นแล้วหรือ?”
“มาเพื่อเตือนเจ้า” จิ้งถิงยิ้มหัวเราะ มองดูเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้ากับเจ้าคงมีวาสนาต่อกันมาตั้งแต่ชาติก่อนจริงๆ หรือเราคงเป็นพี่น้องกันตั้งแต่ชาติที่แล้ว ยังไงข้าก็ปิดบังอะไรเจ้าไม่ได้”
“หรืออาจเป็นเพราะข้าเจอคนมาเยอะ บวกกับข้าเข้าใจเจ้า เจ้ามีเวลาว่างยังไงก็ต้องมาหาข้า แต่ข้ารู้ว่าเจ้าเฝ้าปกป้องกระบี่มังกรอยู่ จากมาง่ายๆ ไม่ได้”
“อืม กระบี่มังกรผิดปกติ” จิ้งถิงพูดขึ้นมาอย่างจริงจัง ตาคิ้วเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม พร้อมพูดขึ้นว่า “ดาบชี้มาทางเหนือ ”
“เป่ยโม่?” หยู่เหวินเห้าส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ยังเป็นไปไม่ได้มั้ง? ประเทศของพวกเขายังไม่ฟื้นฟู ถึงแม้หลายปีมานี้มักมีการยั่งเชิง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ อีกอย่างทหารรักษาการณ์ในตอนเหนือก็เฝ้าติดตามอยู่ตลอด ไม่พบความเคลื่อนไหวใดๆ”
“สัญาณมาจากกระบี่มังกร ถือเป็นคำทำนาย เป่ยโม่เป็นประเทศที่ก้าวร้าวประเทศหนึ่ง พวกเขาไม่มีทางอยู่อย่างสงบ หลายปีมานี้เป่ยถังพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ในสายตาพวกเขา เป่ยถังถือเป็นเนื้ออย่างดี ถึงแม้จะกลืนกินได้ไม่หมดก็ตาม แต่ก็คงอยากที่จะกลืนกินสักชิ้น”
“กลืนกินสักชิ้น? เมืองทั้งห้านั้นหรือ?” หยู่เหวินเห้าวางแก้วชาลง สายตาฉายแววเยือกเย็น
เมืองทั้งห้านั้น เดิมตอนที่อยู่ในมือเป่ยโม่นั้นไม่มีอะไรเลย ทั้งจนทั้งล้าหลัง เต็มไปด้วยโจรสลัด ตอนนั้นเป่ยโม่ก็ไม่คิดที่จะใส่ใจเมืองทั้งห้านั้น เพราะมีโจรยึดครอง อาจจะกลายเป็นภัยต่อเป่ยถัง
แต่เป่ยถังไม่เคยคิดที่จะไปรุกรานเป่ยโม่ ก็ถูก คนอื่นเจริญรุ่งเรืองแล้ว ทำไมจะต้องไปหาเรื่องพวกเขาให้ลำบาก?
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน เมืองทั้งห้ารุ่งเรืองขึ้นมาแล้ว เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรือง จึงคิดอยากที่จะแย่งกลับไป
เฮ้อๆ รุกรานไม่ต้องลงทุนหรือ? แม่งเอ๋ย!
บทที่ 2019 เรื่องเกี่ยวกับเงินค่าจ้าง
บทที่ 2021 ชอบการทำศึกก็ต้องตาย
สวีอีรีบโบกมือ ท่าทีค่อนข้างถือดี พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่รบกวนแม่ทัพใหญ่จะดีกว่า ลูกสาวข้ามีคู่หมั้นแล้ว ลูกเขยในอนาคต เป็นซินเคอจอหงวนของเป่ยถังเรา”