บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 2023 กลับบ้าน
บทที่ 2023 กลับบ้าน
หลังจากผ่านไปหลายวัน หยวนชิงหลิงพาท่านย่ากลับบ้าน
หยู่เหวินเห้ายืนยันที่จะมาส่งถึงทะเลสาบจิ้ง พวกลูกๆ จึงก็ตามมาส่งด้วย
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นว่า “ข้ากลับไปไม่กี่วัน เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว ต่างก็เชื่อฟังด้วย ห้ามทำให้พ่อโมโห เข้าใจไหม?”
“แม่วางใจ พวกเราไม่ทำให้พ่อโกรธโมโหแน่นอน” พวกลูกต่างก็พูดขึ้นมาพร้อมกัน
ในใจหยวนชิงหลิงภาคภูมิใจอย่างมาก ลูกสาวสูงกว่านางบ้างแล้ว ลูกชายสองคนเวลายืน ก็สูงเท่าพ่อของพวกเขาแล้ว รูปร่างหน้าตาหล่อเหลา ชายหนุ่มที่มีพรสวรรค์และสูงส่งพวกนี้ คือลูกของนาง บางครั้งมักจะรู้สึกว่าเป็นความฝัน
เอาล่ะ ความคิดแบบนี้ปรากฏอยู่ในหัวสมองหลายครั้งมากแล้ว ต้องยอมรับความจริง ลูกๆ รูปร่างหน้าตาดีขนาดนี้ เพราะพ่อของพวกเขาหน้าตาดี
อดไม่ได้ที่จะหันมองไปที่ฮ่องเต้ด้านข้างกาย เห็นเขาก็กำลังมองตนเองอยู่อย่างทำใจไม่ได้ ความสุขภายในใจเต็มล้น เอื้อมมือไปกอดเขา โดยไม่สนใจว่ามีพวกลูกๆ กับท่านย่าอยู่ด้วย
หยู่เหวินเห้าได้รับความโปรดปรานอย่างไม่คาดฝันจนรู้สึกประหลาดใจ ที่ผ่านมาเวลาอยู่ต่อหน้าพวกลูกๆ เจ้าหยวนไม่แสดงความรักต่อเขาแบบนี้ กระทั่งมีบางครั้งเขายังคิดว่าเจ้าหยวนต่างหากที่เป็นคนยุคโบราณ
สวีอีอยู่ด้านหลัง พยายามยื่นหน้ามา อยากจะหาโอกาสคุยกับฮองเฮา ตลอดทางที่มาเมื่อกี้ ฮองเฮานั่งอยู่ในรถม้า เขาเป็นคนขับรถม้า จึงไม่ได้คุยกับฮองเฮา
มาถึงทะเลสาบจิ้ง ฮ่องเต้ก็แย่งโอกาสไป น่าโมโหจริงๆ
กว่าจะเห็นพวกเขาแยกจากกัน สวีอีรีบเดินมาหา หยิบเอารายการออกมาหนึ่งฉบับ พร้อมพูดขึ้นอย่างเยินยอว่า “ฮองเฮาเดินทางโดยสวัสดิภาพ ตอนที่กลับมาดูแลตนเองให้ดีด้วย”
หยวนชิงหลิงเปิดดูรายการของเขา แล้วก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “รายการของเจ้า ต่อให้เจ้าไปแบกหามเองก็แบกไม่ไหว ข้าจะดูแล้วก็ซื้ออย่างเหมาะสมนะ”
“งั้น….” สวีอีเอามือกุมหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “งั้นของของอะซี่ต้องซื้อให้ครบ ของพวกลูกๆ ไม่เอาก็ได้”
สวีอียังคงรักใคร่อะซี่อย่างมากเหมือนเดิม คำมั่นสัญญาที่เขามีไว้ให้กับอะซี่ มีผลไปชั่วชีวิต
บอกลาสามีกับลูกแล้ว ก็เดินเข้าทะเลสาบจิ้งเพื่อกลับบ้าน
พ่อแม่พี่ชายต่างก็ดีใจอย่างมาก โอบล้อมมาถามโน่นนี่นั่น แทบอยากที่จะรู้รายละเอียดทุกอย่าง ได้ยินว่าลูกเขยยังคงน่าเกรงขามขนาดนั้น พวกลูกๆ ต่างก็มีธุรกิจเป็นของตนเอง ทั้งสองเฒ่าก็ปลื้มใจอย่างมาก
พวกทังหยวน หยู่เหวินหวง หยู่เหวินเย่ต่างพักอยู่ในโรงเรียน ต้องรอถึงสุดสัปดาห์ถึงจะกลับมา ดีที่วันมะรืนนี้ก็ถึงวันสุดสัปดาห์แล้ว ดังนั้นหยวนชิงหลิง จึงไม่ต้องไปหาพวกเขาที่โรงเรียน
ตอนกลางคืนหยวนชิงหลิง ก็ไม่ได้นัดออกไปกับเพื่อน อยู่เป็นเพื่อนพ่อกับแม่ที่บ้าน
ไม่ได้ดูทีวีมานานมากแล้ว จึงดูทีวีเป็นเพื่อนพวกเขา
พวกเขากำลังดูสารคดี เป็นเรื่องเกี่ยวกับการสังหารหมู่
สถานการณ์การแข่งขันแย่งชิงอำนาจที่ยิ่งใหญ่ดำเนินมาหลายปีแล้ว ใจของชาติตะวันตกยังไม่มีวันตาย ปิดกั้นและไล่ล่าจากทุกทิศทุกทาง สร้างความเสียหายมากมาย
สารคดีทำให้ทุกคนฟินหนักมาก ทั้งโกรธโมโห เป็นประวัติศาสตร์ที่มิอาจลืมเลือน เหมือนกับเป่ยถังกับเป่ยโม่ แม้ว่าจะลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพ แต่จิตใจโจรไม่หยุดยั้งความทะเยอทะยานที่อยากจะครอบงำ
หลังจากดูจบแล้ว ศาสตราจารย์หยวนพูดขึ้นมาว่า “หนุ่มๆ ควรมีใจรับใช้ชาติ อย่าหลงเชื่อคำพูดดีบางคำบนอินเทอร์เน็ตที่โจมตีประเทศในต่างประเทศ สนับสนุนและเข้าใจทุกการตัดสินใจของประเทศ ทำหน้าที่ของตนเองให้ดี ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับประเทศชาติ ส่วนเรื่องที่เหลือ ประเทศจะแก้ปัญหาเอง”
คำพูดนี้ เป็นประโยคที่ศาสตราจารย์หยวนพูดบ่อยในช่วงนี้ เผชิญกับการล้อมของมหาอำนาจต่างประเทศ สิ่งที่คนทำได้มีจำกัด แต่สามารถทำได้อย่างข้างต้นที่พูดถึงก็เพียงพอแล้ว
เมื่อก่อนหยวนชิงหลิงรู้จักเพียงการทำวิจัยเรื่องยาเท่านั้น ไม่ค่อยสนใจเหตุการณ์ปัจจุบัน แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางก็พอได้ยินมาเหมือนกัน บวกกับตอนนี้นางมีสถานะเป็นฮองเฮาของเป่ยโม่ รู้ดีว่าสิ่งที่ผู้มีอำนาจต้องการมากที่สุดคือการสนับสนุนจากประชาชน
ดังนั้นนางจึงเห็นด้วยกับคำพูดประโยคนี้ของพ่อ เป็นคำพูดพัฒนาตนเอง
ดูสารคดีจบแล้ว ก็พูดคุยถึงสถานการณ์ปัจจุบันกับพี่ชาย แม้ว่าตอนนี้จะมีความลำบากอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าประเทศจะผ่านความทุกข์ทรมานนี้ไปได้อย่างดีขึ้นเรื่อยๆ
และวันนั้นก็ใกล้จะมาถึงแล้ว
กลางดึก หยวนชิงหลิงนอนไม่หลับ นางนั่งอยู่ตรงระเบียงคนเดียว ในมือถือแก้วไวน์แดงหนึ่งแก้ว
หลับตา กระจายพลังจิต สามารถมองเห็นอนาคตอันยาวไกล
รอเมื่อลืมตาขึ้นมา ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ตื่นเต้น นางมองเห็นยุคสมัยที่ดีที่สุด
เช้าวันรุ่งขึ้น หยวนชิงหลิงไปออกกำลังกายตอนเช้าพร้อมกับพ่อแม่ พร้อมทั้งซื้อผักกลับมา วันนี้เป็นวันศุกร์ ตอนพลบค่ำพวกลูกๆ ก็จะนั่งรถกลับมาแล้ว
ดังนั้นจึงซื้อผักไว้ก่อน เตรียมที่จะทำอาหารค่ำอุดมสมบูรณ์สักมื้อ
ตอนที่ซื้อผักแล้วเดินผ่านโรงเรียนแห่งหนึ่ง ภายในโรงเรียนมีเสียงเพลงดังออกมาว่า “เราเป็นทายาทของลัทธิคอมมิวนิสต์ สืบสานปฏิวัติประเพณีอันรุ่งโรจน์ของบรรพบุรุษ รักแผ่นดินเกิด รักประชาชน ผ้าพันคอสีแดงสดโบกสะบัดที่หน้าอก…..”
หยวนชิงหลิงควงแขนแม่ แล้วก็ร้องตามว่า “ไม่กลัวความลำบาก ไม่กลัวศัตรูหมั่นเรียนรู้ ต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยว ก้าวสู่ชัยชนะอย่างกล้าหาญ….”
แม่ยิ้มหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้ายังจำเพลงนี้ได้ด้วยหรือ?”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นว่า “จำได้ ประชาชนทุกคนล้วนจำได้”
หวังว่าทุกคนที่เคยร้องเพลงนี้จะจำได้ พวกเราไม่กลัวความลำบาก ไม่กลัวศัตรูหมั่นเรียนรู้ ต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยว ก้าวสู่ชัยชนะอย่างกล้าหาญ
บทที่ 2022 อย่างเดียวที่เสียใจ
บทที่ 2024 บริษัทโทรทัศน์โพ่ตี้อวี้