บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 2029 เรื่องในปีนั้น
บทที่ 2029 เรื่องในปีนั้น
เซเว่นอัพใช้เวลาสามวันทำความเข้าใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเป่ยถังปีนั้น
แต่ยังมีเรื่องที่จำเป็นต้องทำให้สมบูรณ์ นั่นก็คือปีนั้นที่คู่สามีภรรยาอ๋องชินเฟิงอันหายสาบสูญ
ปีนั้นพวกเขาไปที่ไหนกันแน่? ทำไมต้องจากไปในช่วงเวลานั้นด้วย? แล้วทำไมจึงกลับมาในตอนที่สงครามใหญ่ปะทุ? อีกอย่าง ทำไมถึงยืมทหารสามแสนจากแคว้นต้าโจวและขายตัวให้กับแคว้นต้าโจวเล่า?
เรื่องพวกนี้ต้องทำความเข้าใจให้ชัดแจ้ง ถึงเป็นการถ่ายละคร แต่ก็ต้องทำให้ได้ความรู้สึกสมจริงสมจังอย่างสารคดี จะเสริมเติมแต่งไม่ได้
แน่นอนว่าเป็นความอยากรู้ของเขามากกว่า ถึงจะถ่ายทำออกมาไม่ได้เขาก็ยังอยากรู้
ทว่าประวัติศาสตร์ช่วงนี้ถามผู้ใดก็ไม่มีใครรู้
ครั้นองครักษ์เงาดำสูงวัยพูดถึงปีนั้นก็โมโหโทโสทันที “ทรงคิดว่าพวกเขาไปทำการใหญ่อะไรหรือ? พวกเขาไปหาความสุขต่างหาก ทิ้งพวกเราแล้วไปเสพสุข กระหม่อมขอเตือนไว้เลย อย่าได้กล่าวถึงปีนั้นอีก พูดถึงทีไรกระหม่อมก็อยากซ้อมพวกเขาสักทีนัก”
ครั้นไปถามองครักษ์ฟ้าผ่าสูงวัย เขากลับหัวเราะเย็นฮึเสียงหนึ่ง “ปีนั้น? ปีนั้นพวกเขาไปเป็นขอทาน น่าสงสารเสียไม่มี ขอทานไปทั่วก็ไม่มีผู้ใดหยิบยื่นให้ ดังนั้นอย่าได้ถามถึงเรื่องปีนั้นเลย กล่าวถึงทีไรกระหม่อมก็อยากมอบอาหารสุนัขให้พวกเขาสักชาม”
ครั้นไปถามองครักษ์ลับผีสูงวัย ฝั่งนั้นก็กลับห้องไปหยิบกระบอกยาสูบที่มีฝุ่นจับ จุดใบยาสูบที่ขึ้นราแล้วสูบซู๊ดเข้าไป เร้นใบหน้าอยู่ในหมอกควัน ถอนหายใจหนักทีหนึ่ง “เห็นว่าปีนั้นพวกเขาป่วยเจียนตาย ไปหาหมอรักษาทั่ว แต่ลำบากที่ไม่มีเงินทอง สุดท้ายจึงได้แต่ใช้พิษต้านพิษ กระโดดลงโพรงงูพิษ ให้งูพิษกัดจนมีบาดแผลเต็มตัว แล้วยังรักษาหายได้เสียนี่ ด้วยเช่นนี้จึงพิสูจน์ได้ว่าร่างกายพวกเขาล้วนมีพิษ หัวใจลำไส้เป็นพิษร้ายเสียยิ่งกว่าพิษงู”
เซเว่นอัพเซ็ง นี่คนละโยดกันเลย คนหนึ่งว่าพวกเขาไปเสพสุข คนหนึ่งว่าพวกเขาไปเป็นขอทาน ส่วนอีกคนก็ว่าไปรักษาโรค แล้วพวกเขาไปทำอะไรกันแน่เนี่ย?
พออยากถามมากอีกหน่อย ทั้งสามก็กลับปิดปากสนิท ทำหน้าบูดบึ้งไม่อยากพูดอีก
ครั้นไปถามคนอื่น พอได้ยินว่าเป็นเรื่องในปีนั้นก็หมุนตัวจากไป ทำสีหน้าไม่ดีกันทั้งนั้น
ยุ่งจริง ความจริงก็อยู่ตรงหน้าหลัดๆ แต่กลับเอื้อมไม่ถึง
เซเว่นอัพจึงได้แต่ไปหยั่งถามกับสามใหญ่ ทั้งสามทำหน้ามึนงง ส่ายหน้าอย่างกับป๋องแป๋ง จากนั้นเซียวเหยากงก็ล้วงตั๋วเงินออกมาพับหนึ่งวางลงกับพื้น บอกเซเว่นอัพว่าหากเขาสามารถสืบรู้ว่าปีนั้นเกิดอะไรขึ้นได้ ตั๋วเงินนี้ก็จะตกเป็นของเขา
เซเว่นอัพขมวดคิ้ว “ท่านเซียวเหยากง เงินไม่มีแรงดึงดูดกับข้าเท่าไรหรอก เสด็จทวดข้าก็มีเหมืองทองนะ”
“นั่นเป็นของกวาเอ๋อร์” เซียวเหยากงเก็บตั๋วเงินกลับ ฮึดฮัดสองที “แล้วทรงอยากได้อะไร?”
“ข้าไม่อยากได้อะไรทั้งนั้น ข้าแค่อยากรู้คำตอบ ท่านจะให้ผลประโยชน์ข้าหรือไม่ ข้าก็ต้องสืบให้รู้อยู่ดี”
บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 2029 เรื่องในปีนั้น –
เซียวเหยากงอ้อเสียงหนึ่ง “เคยตัวแล้วพ่ะย่ะค่ะ ก็เลยคิดว่าเงินทองสามารถทำได้ทุกอย่าง”
อู๋ซ่างหวงชะโงกศีรษะมา “สำหรับคนอื่น เงินทองอาจไม่สามารถทำได้ทุกอย่าง แต่สำหรับพี่เหว่ยต้องทำได้ทุกอย่างแน่ ไยไม่เอาตั๋วเงินให้เขาเล่าเรื่องในปีนั้นเองเล่า?”
เซียวเหยากงส่ายหน้า “ไม่ได้ หลายปีนี้ก็เคยให้เงินพวกเขา แต่พวกเขาไม่รับ”
ท่านฉู่จึงเอ่ย “ให้เงินตรงๆ ก็ต้องไม่รับสิ แต่ถ้าใช้เรื่องของพวกเขาในปีนั้นมาแลกเปลี่ยน ซื้อเรื่องของพวกเขา เช่นนั้นก็อีกเรื่องหนึ่งแล้ว”
หลายปีนี้นับว่ามองทางออกแล้ว ไม่ว่าเซียวเหยากงหรือเหลิ่งซี่ให้เงินพวกเขา พวกเขาก็จะไม่รับทั้งนั้น แต่หากให้พวกเขาช่วยเหลือธุระนิดหน่อยแล้วค่อยให้เงิน ส่วนมากก็ยังรับไว้
เซเว่นอัพดีใจ รีบถาม “เช่นนี้ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหนหรือ? ข้าจะไปหาพวกเขา”
ท่านฉู่ตอบ “หว่างก่อนกลับมาแล้ว บอกว่าใกล้ถึงวันครบรอบวันเกิดพ่อตาของเขาแล้ว ต้องรีบกลับไปอวยพร ฉะนั้นบางทีอาจอยู่ทางนั้นก็ได้”
ทางนั้นที่ท่านฉู่กล่าวถึงก็คือยุคปัจจุบัน พวกเขาไม่ได้กลับไปนานแล้ว อันที่จริงก็อยากไปอยู่ ทว่าก่อนหน้านี้แม่นมสี่บาดเจ็บ ทำจนท่านฉู่ตกใจไม่อยากจากไปไหนอีก
อยู่ทางนั้น? เช่นนั้นก็ง่ายสิ อย่างไรเสียวันหยุดก็ไม่มากใกล้จะต้องกลับไปแล้ว
การสัมภาษณ์ทางนี้เสร็จสมบูรณ์โดยคร่าว ขาดแต่เรื่องในปีนั้นแล้ว
ดังนั้นหลังจากเซเว่นอัพรับประทานอาหารที่บ้านมื้อหนึ่งแล้วก็วิ่งตะบึงกลับยุคปัจจุบัน
ในยุคปัจจุบัน ด้วยความสัมพันธ์ของโพ่ตี้อวี้จึงติดต่ออ๋องชินเฟิงอันและพระชายาได้
พวกเขาอยู่ที่นี่ดังคาด
ครั้นได้ยินว่าเซเว่นอัพจะถ่ายทำละครและต้องทำความเข้าใจกับเรื่องในปีนั้นแล้ว อ๋องชินเฟิงอันก็ปฏิเสธ
“นั่นเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว ไม่มีอะไรต้องพูดอีก” ว่าแล้วเขาก็ลุกเดินจากไป
เซเว่นอัพจึงได้แต่เข้าทางพระชายา พระชายาต้องมีเหตุผลกว่าแน่นอน
พระชายากลับไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญ นางคิดว่าเป็นการถ่ายละคร ถึงจะเล่าเรื่องเหล่านั้นไปก็ไม่เป็น เพราะใครจะคิดเป็นจริงเป็นจังเล่า? อีกอย่างยังสามารถแก้ไขให้เหมาะสมได้
นางอยากเล่าเรื่องในปีนั้นมาตลอด เพียงแต่จวนอ๋องซู่ไม่มีใครอยากฟัง เรื่องในปีนั้นสะเทือนใจพวกเขามากเกินไป ได้ยินแล้วก็รังแต่จะโกรธ
บทที่ 2028 การสัมภาษณ์
บทที่ 2030 ชีวิตอันสุขสบาย