บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 2036 เป็นเรื่องจริง
บทที่ 2036 เป็นเรื่องจริง
สายตามองสำรวจ ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าของโล่หมัน
สายตาชนิดเดียวกัน หันไปสำรวจหยู่เหวินเซียวด้วย
ในขณะที่ทุกคนต่างก็ยุ่งจนเดือดเป็นฟืนเป็นไฟ พวกท่านสองคนยังมีแรงเหลือทำเรื่องอย่างว่าอีกหรือ
พวกเขาแอบอู้ เกินไปแล้วจริงๆ
แต่สุดท้ายก็เป็นแค่ข้อสงสัย ก่อนที่จะได้รับคำตอบ ก็ไม่จำเป็นต้องพูดออกมาทั้งหมด
เชิญท่านหมอมาที่จวน ข้อมือทั้งสองข้างของโล่หมันวางเอาไว้ตรงหน้าท่านหมอ ด้วยจิตใจที่หวาดหวั่น
นางกลัวมากจริงๆ นางไม่เคยคิดจะคลอดลูก มันน่ากลัวเกินไป มีเด็กคนหนึ่งอาศัยอยู่ในร่างกายของตนเอง หลังจากผ่านไปสิบเดือนก็ลากตัวเด็กออกมา ทารุณ ทารุณมากเกินไปแล้ว
ทุกคนต่างก็นั่งล้อมวงเข้ามา องครักษ์เงาดำกระชากเสือขนทอง “เจ้าบังข้า”
ไม่รู้หรืออย่างไรว่าตนเองร่างกายใหญ่โตเทียบกับคนสามคนเชียว ร่างบึกบึนใหญ่โตกั้นขวาง จะให้คนอื่นมองเห็นอย่างละเอียดได้อย่างไร
เสือขนทองยังคงนิ่งไม่ขยับ ดวงตากลมโตดุดันจ้องมองท่านหมอไม่วางตา ท่านหมอรู้สึกกลัวในใจ แม้แต่มือที่ทำการจับชีพจรก็สั่นเทาขึ้นมา
องครักษ์เงาดำได้แต่โอบเอวของเสือขนทองเอาไว้ แล้วชะเง้อหน้าเข้าไปมอง ต้องการจะเห็นสีหน้าของท่านหมอให้ชัดเจน
ทุกคนต่างก็กลั้นลมหายใจเอาไว้ เงียบสงัดชนิดที่ว่าองครักษ์เงาดำตดยังสะเทือนเลือนลั่นราวกับฟ้าผ่า
เสือขนทองโมโหมาก หันกลับไปผลักตัวเขาออก แม้แต่ตดยังควบคุมไม่ได้ จะทำการใหญ่ได้อย่างไร
องครักษ์เงาดำเอามือถูจมูกอย่างกระดากอาย นี่คือข้อเสียของการนั่งยองๆอย่างไรเล่า
ในที่สุด ก็รอจนกระทั่งท่านหมอเอามือออกจากการจับชีพจร
สายตาแต่ละคู่ ราวกับแสงแดดเจิดจ้าที่ตกกระทบมายังปากของท่านหมอ รอให้เขาเปิดปากเอ่ยวาจา
ท่านหมอปาดเหงื่อที่ซึมออกมาตรงหน้าผาก รู้สึกกดดันในใจเป็นอย่างยิ่ง “ลักษณะชีพจรเช่นนี้ ถ้าหากข้าไม่ได้ตรวจผิดพลาด ถ้าหากไม่เป็นเพราะสาเหตุอื่น ถ้าหากพระชายาเป็นหญิงจริงๆ ถ้าหากผีสางไม่ได้เล่นตลก……”
“เข้าเรื่องสักที”ทุกคนต่างตะคอกขึ้นพร้อมกัน
ท่านหมอกอดกล่องยาเอาไว้ วิ่งผ่านหน้าหยู่เหวินเซียวไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็วิ่งออกไปทางประตูอย่างราวกับสายลม ทิ้งไว้ประโยคเดียวว่า “ชีพจรตั้งครรภ์”
ทุกคนต่างก็ตกใจราวกับถูกฟ้าผ่า ดวงตาต่างเบิกกว้าง จ้องไปยังผู้กระทำผิดทั้งสองคน
ราวกับมีความคิดอยากจะเข้าไปรุมประชาทัณฑ์หยู่เหวินเซียวอย่างไรอย่างนั้น
โล่หมันตัวชาไปหมดแล้ว หัวสมองว่างเปล่า คิดถึงครั้งแรกที่เห็นภาพหยุนเยียนคลอดลูก หยุนเยียนร้องโหยหวนราวกับไก่ถูกเชือด
และนางก็จะกลายเป็นไก่ที่กำลังจะถูกเชือดเช่นเดียวกัน
หยู่เหวินเห้าก็นิ่งอึ้งไปชั่วครู่ พูดออกมาราวกับเป็นเครื่องจักรกลว่า “เช่นนั้นวันหน้าก็ต้องเลี้ยงลูกแล้วหรือ”
โล่หมันรู้สึกว่าตนเองช่างน่าสมเพชเหลือเกิน ช่วงที่ผ่านมาลำบากแค่ไหน จึงได้ละเลยเรื่องที่ตนเองตั้งครรภ์ไปได้
แต่แม้จะลำบากมาก ทำไมจึงยังตั้งครรภ์ขึ้นมาได้
ก่อนหน้านี้ไม่ตั้งครรภ์มาตลอด เพราะบอกว่าภายในห้าปีไม่มีทางท้องได้ วาสนาของเด็กยังไม่ถึง
ผ่านไปห้าปีแล้วหรือ เหมือนจะผ่านไปแล้ว แต่ทำไมจึงไม่มีคนเตือนนางเลย
นี่มันน่าตลกมาก นางจะเป็นแม่คนแล้ว
“เจ้าไม่รู้สึกอะไรเลยหรือ”หยู่เหวินเซียวถามขึ้นอีกครั้งอย่างไม่ตายใจ
โล่หมันส่ายหน้า สองมือที่มีอาการชาวางไปบนท้องของตนเอง เจ้าสิ่งนี้ หรือจะเป็นไขมัน น่าเสียดายเกินไปแล้ว
“ไม่มีการเคลื่อนไหวเลยหรือ”หยู่เหวินเซียวยังคงไม่ตายใจ
“เมื่อก่อนท้องข้าก็ร้องอยู่เสมอ ไม่ได้รู้สึกว่ามีการเคลื่อนไหวอะไรเลย”โล่หมันเช็ดที่หางตา ไม่มีน้ำตา ดีล่ะ อยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา
ทุกคนต่างก็จ้องมองพวกเขาอยู่นาน สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรเลย ต่างก็นั่งลงตรงบันไดหินหน้าประตู
หยิบเอากล้องยาสูบออกมากันทุกคน ควันบุหรี่ปะปนกับความกังวลปกคลุมอยู่ในสายตาที่แวววาวแต่ก็แฝงด้วยความทึ่มทื่อเหล่านั้น
จนขนาดนี้ ยังจะคลอดลูกอีก จะไม่ยิ่งลำบากหรือ ผู้ใหญ่ลำบากได้ แต่เด็กจะทนได้หรือ
เดิมทีพวกเขาต่างก็ไม่เคยคิดว่านางจะสามารถให้กำเนิดลูกได้ทุกคนต่างก็เป็นบุรุษ ทำไมมีแต่นางที่คลอดลูก
โตจนป่านนี้แล้ว ความคิดไม่เป็นผู้ใหญ่เลยสักนิด คลอดแล้วใครเป็นคนเลี้ยงก็ยังไม่ได้ปรึกษาหารือกันเลย ก็กล้าทำให้ตนเองตั้งท้องขึ้นมาแล้ว
ช่างไม่ระวังตัวเลยจริงๆ
มีพ่อแม่เช่นนี้ ลูกจะมีความสุขได้อย่างไร
เด็กสามารถกินรำกันผักป่าได้ด้วยหรือ
เด็กสามารถหาเงินเองได้ด้วยหรือ
เด็กสามารถให้เช่าได้หรือไม่
ภายในห้อง สองสามีภรรยาไร้คำพูด ทั้งเสือและหมาป่าต่างก็หมอบอยู่ตรงหน้าพวกเขา มองท้องของโล่หมันอย่างประหลาดใจ
ผ่านไปชั่วครู่ มือของเสือขนทองก็วางเอาไว้บนเข่าของโล่หมัน พยักหน้าของหมันบอกให้นางวางใจ มันเป็นแม่ทัพสัตว์ในตำนาน มีเงินเดือน สามารถเลี้ยงดูเด็กได้
โล่หมันถอนหายใจ “เสือขนทอง เงินเดือนของเจ้าไม่ได้จ่ายมานานแล้ว ถูกหักไปหมด”
เป่ยถังเป็นเช่นไร พวกเจ้าก็ใช่ว่าจะไม่รู้ ทางด้านต้าโจวนั้นร่ำรวยมาก แต่ปีนี้เป่ยถังแห้งแล้ง เงินที่ได้มาก็ซื้อเป็นเสบียงอาหารส่งกลับไปหมดแล้ว
สุดท้าย องครักษ์เงาดำก็โยนกล้องยาสูบทิ้งไป วางมาดเป็นผู้อาวุโส พูดประโยคที่ทำให้รู้สึกสงบสุขมั่นคงขึ้นว่า “ในเมื่อตั้งครรภ์แล้ว จะทำแท้งก็ไม่ดี ลองดูสิว่าที่ไหนยังต้องการคนงานเพิ่ม พวกเราทำงานให้มากขึ้นอีกหน่อย หาเงินให้มากขึ้น ช่วยกันเลี้ยงเด็กดีกว่า”
หยู่เหวินเซียวพูดว่า “แต่ว่าพวกเจ้ายังต้องทำหน้าที่ในกองทัพ……”
“เจ้าหุบปากไปเลย”องครักษ์เงาดำเกรี้ยวกราดขึ้นมาทันที ตะโกนด่าเสียงดัง “นี่มันสถานการณ์อะไรเจ้ายังกล้ามีลูกอีก เจ้าไม่ลองพิจารณาความสามารถของตนเองซะบ้าง ตอนนี้เจ้ามีคุณสมบัติที่จะเป็นพ่อคนหรือไม่ ทั้งหมดล้วนเป็นเจ้าที่เป็นตัวต้นเรื่อง วันหน้ากับข้าวของเจ้าต้องหักเอาไว้ครึ่งหนึ่ง”
องครักษ์เงาดำพูดอย่างมีเหตุผลมาก หยู่เหวินเซียวรู้สึกอับอายมาก แต่อายก็ส่วนอาย อย่างไรก็ต้องสั่งสอนองครักษ์เงาดำซะบ้าง
“เสือขนทองจัดการ”
เสือขนทองกัดเสื้อขององครักษ์เงาดำเอาไว้ ดึงไปทางด้านหลัง องครักษ์เงาดำล้มไปบนพื้น มันกระโดดตัวลอยกลางอากาศขึ้นไปนั่งอยู่บนหัวขององครักษ์เงาดำ
แขนขาและกระดูกช่วงเอวจะบาดเจ็บไม่ได้ ถ้าบาดเจ็บจะไม่สามารถออกไปทำงานหาเงินได้ แต่ถ้าศีรษะบาดเจ็บก็แค่พันแผลยังสามารถออกไปทำงานได้ตามปกติ