บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 2039 พาคนท้องกลับเมืองหลวง
บทที่ 2039 พาคนท้องกลับเมืองหลวง
ด้วยเหตุนี้ วันนั้นหลังจากกลับไปถึง ก็คาดโทษคนท้องโตทันที
“คนที่กินมากที่สุดคือเจ้า ทำไมจึงไม่ทำงาน”
“ข้าตั้งครรภ์นี่นา”โล่หมันนิ่งอึ้งไป ยังจะถามอีกหรือ คนท้องจะไปทำงานได้อย่างไร คนท้องต่างก็ถูกทะนุถนอมดูแลเป็นอย่างดี
“เจ้าตั้งครรภ์ที่ท้อง ไม่ใช้ที่มือหรือขา มือกับขายังทำงานได้นี่นา หลังจากนี้พวกเราไปเก็บเห็ดกลับมา ขายไม่หมดเจ้าก็เอามาล้าง หั่นและตากแห้ง เมื่อเข้าหน้าหนาวพวกเราจะขายเป็นของแห้ง เข้าหน้าหนาวจะไม่มีเห็ดให้เก็บ ของแห้งต้องขายได้แน่”
“ไม่ได้ ตอนนี้ข้ารู้สึกตัวหนักมาก จะทำงานหนักพวกนี้ได้อย่างไร”โล่หมันส่ายหน้า หลังจากพักไปหลายวันก็ไม่อยากจะทำงานอะไรแล้ว
หยู่เหวินเซียวยังพอมีน้ำใจอยู่บ้าง “ไม่ต้องให้นางทำ ข้าจะกลับมาทำตอนกลางคืน”
“กลับมาทำตอนกลางคืนได้ แล้วถ้าตอนกลางวันตากแห้งอยู่เกิดฝนตกขึ้นมาเล่า นางจะไม่ช่วยเก็บหรือ”
โล่หมันพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าสามารถช่วยเก็บได้”
องครักษ์เงาดำนวดไหล่พลางเดินเข้าไปดื่มน้ำ “ท่านหาทางเองแล้วกัน ถ้าฝนตกเสียหาย ท่านต้องรับผิดชอบ”
ทุกคนดื่มน้ำไปหนึ่งกระบวย แล้วก็ออกไปขายของ
ที่จริงคนที่ต้องการสินค้าคือภัตตาคารต่างๆ พวกเขามีคนเยอะ เห็ดที่เก็บกลับมาได้ทุกวันก็มีมาก หลายเจ้ารวมหัวกันจงใจกดราคาให้ต่ำลง ถ้าราคาสูงจะไม่ซื้อของพวกเขา
ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็เก็บไว้ไม่ได้อยู่ดี จะราคาถูกแค่ไหนก็ต้องขาย ไม่เช่นนั้นคงเน่าเสียหมด
แต่ว่า ครั้งนี้พวกเขาไม่ยอมขาย เห็ดรวมชนิดสามสิบอีแปะต่อหนึ่งชั่ง เห็ดที่ดีขึ้นมาหน่อยก็หกสิบอีแปะต่อหนึ่งชั่ง ถ้าราคาต่ำกว่านี้ก็ไม่ต้องมาคุยกัน
ผู้ซื้อเหล่านั้นเห็นว่าพวกเขาไม่กล้าที่จะไม่ขาย ก็โบกมืออำลา ในที่สุดพวกเขาก็ต้องเรียกให้กลับมาซื้อแน่
แต่เดินออกไปไกลมากแล้วก็ยังไม่ได้ยินเสียงเรียก หันกลับไปดู พวกเขาได้เก็บของและกำลังเดินกลับไปแล้ว
เช่นนี้ทำให้พวกเขารู้สึกหัวเสียมาก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไม่ต้องซื้อ
กลุ่มชายฉกรรจ์ยังคงออกไปเก็บเห็ดทุกวันเหมือนเดิม ไม่ช้าในจวนก็มีเห็นตากแห้งกองเอาไว้มากมาย
หลังจากที่โล่หมันหยุดพักเสพสุขได้ไม่นาน ก็เริ่มรู้สึกเบื่อ ในที่สุดก็ถลกแขนเสื้อมาช่วยทำงาน
เห็ดที่เก็บกลับมาได้นางจะทำหน้าที่จัดการ ทั้งล้างทำความสะอาด หั่น ตากแห้ง และจัดเก็บ
ในที่สุดพวกร้านค้าภัตตาคารก็ทนไม่ไหว เพราะเห็ดที่สดใหม่เช่นนี้ ลูกค้าต่างก็ชื่นชอบมาก ไม่มีเห็นดีๆให้กินติดต่อกันมาหลายวันแล้ว ลูกค้าต่างก็เริ่มโวยวาย
สุดท้ายก็ซื้อในราคาที่พวกเขาตั้งเอาไว้ แต่ก็ยังคงมีส่วนหนึ่งที่สามารถเก็บไว้ตากแห้งได้
สองเดือนครึ่งผ่านไป เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงที่เริ่มหนาวแล้ว
แต่ท้องของโล่หมันก็ยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ นางบอกว่าไม่เคยรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของลูกในท้องเลย
นี่มันน่าแปลกจริงๆ นอกเสียจากจะไม่ได้ตั้งท้อง ก็แค่เกิดลมในช่องท้องเท่านั้น
แล้วก็ไปตามท่านหมอมา ท่านหมอตรวจชีพจรอีกครั้ง ยังคงยืนยันว่าตั้งครรภ์
ท่านหมอบอกว่าท้องโตขนาดนี้แล้ว ดูแล้วน่าจะประมาณแปดเดือนกว่า กระทั่งใกล้คลอดแล้วด้วยซ้ำ น่าจะมีการเคลื่อนไหวในครรภ์ตั้งนานแล้ว
โล่หมันเป็นกังวลมาก “แต่ไม่มีการเคลื่อนไหวเลยจริงๆ ข้าไม่รู้สึกถึงการขยับเลยแม้แต่น้อย”
“หรือว่า เด็กในครรภ์จะตายแล้ว”ท่านหมอพูดพลางขมวดคิ้ว
พอเขาพูดเช่นนี้ องครักษ์เงาดำก็จะเข้าไปสั่งสอนเขา นี่มันแช่งกันหรืออย่างไร แม้ว่าพวกเขาจะไม่ชอบเด็กมากนัก แต่เมื่อมาแล้วก็นับว่าเป็นวาสนา เป็นถึงท่านหมอทำไมจึงได้พูดจาสาปแช่งคนอื่นเช่นนี้
โหดร้ายเกินไปแล้ว
ในขณะที่องครักษ์เงาดำเงื้อกำปั้นขึ้นนั้น ท่านหมอได้หอบกล่องยาวิ่งหนีไปแล้ว
ทุกคนต่างมองท้องของโล่หมันอย่างเป็นกังวล หรือว่าจะตั้งครรภ์เด็กปัญญาอ่อนเคลื่อนไหวไม่ได้
แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร นี่ก็ผ่านมาแปดเดือนกว่าแล้ว อีกเดือนกว่าจะเป็นล่อหรือม้า ออกมาก็รู้
พวกเขาก็แค่ขยันหาเงินก็พอ
หลังจากพยายามมาสองเดือน พวกเขามีเงินเก็บแปดสิบตำลึงแล้ว แต่ก็เหนื่อยมากทีเดียว
ในตอนนี้เอง ราชสำนักได้มีคำสั่ง บอกว่าได้มีการสอบสวนอ๋องกบฏในพื้นที่ที่เกิดเหตุแล้ว จากนั้นต้องทำการควบคุมตัวไปสอบสวนในเมืองหลวง ให้พวกเขาทำหน้าที่ควบคุมตัวไปส่ง
นั่นก็หมายความว่า หลังจากพวกเขาทำภารกิจเสร็จสิ้นก็หยุดพัก และกลับเมืองหลวงได้แล้ว
แต่พวกเขาเก็บเห็ดตากแห้งไว้มากมาย จะทำอย่างไร
หยู่เหวินเซียวรับหน้าที่ออกไปเจรจากับพวกร้านค้าต่างๆ โดยเสนอราคาที่ค่อนข้างดีขายของแห้งทั้งหมดออกไป ได้เงินมาจำนวนสามสิบตำลึง
ตอนที่ทุกคนเดินทางมาต่างก็ขี่ม้า แต่ตอนกลับต้องหารถม้าหนึ่งคัน โล่หมันไม่สะดวกจะควบม้า
ด้วยเหตุนี้ คนขบวนใหญ่ก็เริ่มออกเดินทาง ข้างหน้าควบม้าเปิดทาง ตรงกลางคือรถม้า ด้านหลังรถม้าคือรถคุมนักโทษ
องครักษ์เงาดำ องครักษ์ฟ้าผ่า องครักษ์ลับผีทั้งสามคนรับผิดชอบดูแลควบคุมขบวนทั้งหมด ควบม้าขนาบทั้งสองข้าง
แต่ว่า องครักษ์เงาดำเห็นแววตาของอ๋องกบฏคนนั้น รู้สึกจะแค้นใจพวกเขาเป็นอย่างยิ่ง
ไม่รู้ว่าแค้นใจเรื่องอะไร เขาลงมาจากภูเขาเพื่อจำนนเอง จะโทษใครเล่า
เส้นทางกลับเมืองหลวงไม่ไกลนัก แต่โล่หมันนั่งรถม้า ไม่สามารถทำความเร็วได้มากนัก
ช่างทำให้รู้สึกเป็นกังวลจริงๆ ตั้งครรภ์ที่ไม่มีความเคลื่อนไหว แปดเดือนกว่าแล้ว ยังต้องลำบากในการเดินทางอีก
เดินทางมาจนถึงเมืองหยุนโจว เดิมทีคิดจะพักในจุดพักม้า ไหนเลยจะรู้ว่าฝนตกทั้งวัน ทำให้จุดพักชำรุดและปิดลง ส่วนโรงเตี๊ยม ไม่มีความคิดนั้นเลย เพราะทางการได้ให้แค่เงินในการกินอาหารกลางวันเท่านั้น
ค่าที่พักกับค่าอาหารค่ำนั้นไม่มี เพราะตลอดทางมีแต่จุดพักม้า พวกเขาสามารถในจุดพักม้าได้
คนในขบวนนอกจากกลุ่มนักโทษอย่างอ๋องกบฏแล้ว ก็เป็นคนของตนเองทั้งนั้น มีหรือไม่มีเงินทุกคนต่างก็รู้ดี
ตอนนี้เพิ่งจะเก็บเงินได้แค่หนึ่งร้อยกว่าตำลึง จะใช้จ่ายเรื่อยเปื่อยไม่ได้ เมื่อกลับไปในเมืองหลวงแล้วก็ไร้ทางหาเงินได้อีก
เพราะฉะนั้น จึงได้ให้คนไปซื้อหมั่นโถวในเมืองมาประทังชีวิตไปก่อน และเพราะว่าอ๋องกบฏเกิดไม่สบายขึ้นมา หยู่เหวินเซียวจึงให้คนซื้อยามาให้เขาด้วย
ตั้งกระโจมนอกเมือง ในเมื่อขบวนทหารที่พักค้างแรมในป่าก็เป็นเรื่องปกติ