บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 2051 ข้าไม่อยากเป็นคนโง่
บทที่ 2051 ข้าไม่อยากเป็นคนโง่
โล่หมันไปถามองครักษ์เงาดำด้วยตนเอง “เจ้าเอาแต่ถามว่าคนของตระกูลเหวินมาหรือยัง เจ้ากำลังรอแม่นางเหวินอยู่หรืออย่างไร”
สองมือขององครักษ์เงาดำกุมไว้หลังท้ายทอย เอ่ยอย่างใจเย็นว่า “ไม่ได้รอ จะรอทำไม”
พูดจบแล้ว ก็เดินจากไป
โล่หมันเข้าใจเขาที่สุด ยิ่งแสดงออกว่าไม่ใส่ใจ ก็แปลว่ายิ่งใส่ใจมาก
เห็นที เป็นคนโสดอยู่ดีๆไม่อยากเป็น อยากจะหาคู่เสียแล้ว
แต่ว่า คนอย่างคุณหนูแห่งตระกูลเหวินจะชอบเขาหรือ
และก็ชอบเขาเข้าจริงๆ ผ่านไปสองวัน ก็มีคนในจวนมาหา ฮูหยินของเจ้ากรมพิธีการพาแม่สื่อมาด้วยตนเอง บอกว่าจะมาคุยเรื่องหมั้นหมายให้กับแม่นางเหวินซึ่งเป็นลูกสาวของรองเจ้ากรมพิธีการ
คนที่นางชอบ ก็คือองครักษ์เงาดำ
บอกว่าหลังจากที่ได้รับการช่วยชีวิตจากองครักษ์เงาดำในวันนั้น ก็คิดถึงเขาไม่ลืม อยากจะแต่งงานเป็นภรรยาขององครักษ์เงาดำ สร้างครอบครัวกับเขา
เรื่องแต่งงานครั้งนี้ตระกูลของท่านรองเจ้ากรมให้ความสำคัญมาก เพราะฉะนั้นจึงให้ฮูหยินของท่านเจ้ากรมช่วยออกหน้า ประเพณีของแคว้นต้าโจวนั้นค่อนข้างเปิดกว้าง เหตุผลเป็นเพราะไทเฮาหลง หญิงสาวมากมายจึงยอมที่จะไขว่คว้าความสุขของตนเอง
ตอนที่มาเจรจาเรื่องแต่งงาน ฝ่ายผู้ชายต่างก็ไม่อยู่บ้าน รวมไปถึงเสือและหมาป่าหิมะ เหลือเพียงโล่หมันและน้าเสวี่ยกับน้าหลาง ที่ยังคงดูแลเด็กๆที่ไทเฮาหลงประทานให้
โล่หมันคิดว่าอย่างไรเสียก็ต้องถามความคิดเห็นขององครักษ์เงาดำ เรื่องสำคัญคือถ้าหากองครักษ์เงาดำจะแต่งงาน ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องให้สินสอดบ้าง
แต่สถานะของพวกเขาในตอนนี้ ถ้าต้องให้สินสอด ต้องลำบากอย่างแน่นอน
นอกเสียจากฝ่ายผู้หญิงจะยอมให้องครักษ์เงาดำแต่งเข้าบ้าน ซึ่งนั่นก็เป็นพิธีการอีกอย่างไปเลย
ฉะนั้น โล่หมันจึงถามอย่างระมัดระวังว่า “ไม่ทราบว่าทางตระกูลเหวิน มีความคิดที่จะแต่งลูกเขยเข้าบ้านหรือไม่”
ฮูหยินเจ้ากรมพิธีการมองหน้ากับแม่สื่อ ในสายตามีแววประหลาดใจอยู่บ้าง หรือว่าพระชายาจะพูดภาษาของแคว้นต้าโจวได้ไม่ดีนัก เพราะฉะนั้นพวกนางก็เลยฟังไม่เข้าใจ
ใบหน้าของแม่สื่อเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ถามขึ้นมาว่า “พระชายา แต่งเขยเข้าบ้านที่ท่านว่า หมายถึงการที่ฝ่ายชายแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงใช่หรือไม่”
“ใช่ นั่นล่ะคือการแต่งเขยเข้าบ้าน ที่นี่มีประเพณีเช่นนั้นหรือไม่ ”
แม่สือพูดยิ้มๆว่า “มีน่ะมี แต่ไม่ทราบว่าพระชายาหมายถึงลูกเขยคนไหนที่จะแต่งเข้าบ้าน แล้วที่จวนพระชายามีคนอย่างจะแต่งเข้าบ้านเจ้าสาวหรือไม่ ข้าจะได้ช่วยหาบ้านที่เหมาะสมให้”
โล่หมันพูดว่า “ก็องครักษ์เงาดำไงเล่า”
ฮูหยินเจ้ากรมพิธีการกับแม่สื่อต่างก็นิ่งอึ้งไป แม่ทัพองครักษ์เงาดำหรือ ตอนนี้กำลังคุยเรื่องการแต่งงานขององครักษ์เงาดำอยู่แล้วนี่ไง มีหญิงสาวยอมแต่งงานด้วย แล้วทำไมต้องแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงด้วย
“ทางด้านตระกูลเหวิน ต้องการจะให้คุณหนูแต่งงานออกเรือน ท่าน…… ความหมายของท่านคือ อยากจะให้ท่านแม่ทัพองครักษ์เงาดำแต่งเข้าบ้านคุณหนูหรือ”แม่สื่อเกรงว่าพระชายาจะไม่เข้าใจความหมายที่นางพูด ฉะนั้นจึงพูดซ้ำขึ้นมาอีกครั้ง
โล่หมันยิ้มอย่างละอาย ไม่กล้าจะถามต่ออีก เพราะจะทำให้ดูแร้นแค้นมาก
“เรื่องนี้ ข้าต้องถามองครักษ์เงาดำก่อน ข้าตัดสินใจเองไม่ได้ ”
“ถูกต้อง อย่างไรเสียก็ต้องถามความคิดเห็นของท่านแม่ทัพองครักษ์เงาดำ”ฮูหยินเจ้ากรมพิธีการก็หัวเราะออกมา เห็นได้ชัดว่าเป็นกันเองมาก “แต่ว่า ทางด้านตระกูลเหวินนั้นจริงใจจริงๆ ขอให้พระชายาส่งเสริมให้การแต่งงานที่ดีงามครั้งนี้สำเร็จด้วยเถอะ”
“ได้ ข้าจะพยายาม ”โล่หมันพูดพลางพยักหน้า แม้จะรู้สึกว่าองครักษ์เงาดำเองก็มีใจให้กับแม่นางเหวินอยู่ แต่เรื่องนี้นางไม่กล้าพูด ก่อนที่จะได้รับการพยักหน้ารับจากองครักษ์เงาดำ ระวังคำพูด ต้องระวังคำพูด
ตอนค่ำหลังจากที่ทุกคนกลับจวน โล่หมันได้พาหยู่เหวินเซียวกลับไปปรึกษากันที่ห้อง
หยู่เหวินเซียวดวงตาเบิกกว้าง “ตระกูลเหวินมาคุยเรื่องแต่งงานจริงหรือ แล้วเจ้าคิดว่าอย่างไร”
“ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็ไร้ประโยชน์ ต้องถามองครักษ์เงาดำต่างหากว่าคิดอย่างไร”
หยู่เหวินเซียวถอนหายใจ “ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร ช่วงนี้เอาแต่รอให้คนของตระกูลเหวินมาหา แต่เดิมทีข้าคิดว่าเขากับหวางลิ่วเยว่จะคู่กันได้ ข้าได้ยินว่าหวางลิ่วเยว่ยังคงรอเขาอยู่”
“สงสัยเขาจะไม่ชอบหวางลิ่วเยว่ เพียงเพราะรังเกียจว่านางตระหนี่ขี้เหนียวเกินไป”
“เขาจะไปรังเกียจที่คนอื่นเขาขี้เหนียวได้อย่างไร ไม่มองดูตัวเองเลยว่ายากจนขนาดไหน คนอย่างเขามีผู้หญิงมาชอบก็ไม่เลวแล้ว ยังจะเลือกอีก”
“ไม่ว่าอย่างไร พวกเราก็ต้องไปถามความเห็นเขา ถ้าหากเขาชอบแม่นางเหวินจริงๆ อย่างไรเราก็ต้องยกสินสอดทองหมั้นให้”
หยู่เหวินเซียวลังเลอยู่ชั่วครู่ “เจ้าคิดว่าทางด้านตระกูลเหวินอยากจะรับเขยเข้าบ้านหรือไม่”
โล่หมันขมวดคิ้ว เอ่ยตำหนิว่า “เคยถามแล้ว เขาบอกว่าอยากจะให้คุณหนูแต่งออกเรือน ท่านไม่ต้องคิดเรื่องพวกนี้แล้ว ถ้าแต่งเป็นเขยเข้าบ้านเขาจริงศักดิ์ศรีขององครักษ์เงาดำจะเอาไว้ไหน ท่านคิดเช่นนี้มันเกินไปอยู่บ้าง”
หยู่เหวินเซียวยิ้มอายๆ รู้สึกว่าตนเองมีสติปัญญาไม่เท่าโล่หมัน “ก็จริง อย่างไรเสียผู้ชายก็ยังต้องมีศักดิ์ศรี เพียงแต่ การแต่งเข้าฝ่ายหญิงกับศักดิ์ศรีไม่เกี่ยวข้องกัน ทุกอย่างต้องดูที่การตัดสินใจของเขา”
ด้วยเหตุนี้ทั้งสองจึงออกไปหาองครักษ์เงาดำ ไม่ว่าอย่างไรเรื่องนี้ก็ต้องถามความเห็นจากเขาให้แน่ใจ
องครักษ์เงาดำกำลังเตรียมน้ำร้อน จะอาบน้ำให้เด็กๆ งานนี้เขาต้องทำทันทีหลังจากเลิกงาน เรื่องอาบน้ำของเด็กๆจะอาบค่ำมากไม่ได้
แม่ทัพคนอื่นๆต่างก็ยุ่งกับงานบ้าน แม้ว่าไทเฮาหลงจะส่งคนมาช่วย แต่ว่าสองคนนั้นแค่ดูแลปรนนิบัติเด็กๆ เท่านั้น ไม่ได้มาดูแลพวกเขา
เพราะว่า กลุ่มพวกเขานั้น เจ้านายไม่มีมาดความเป็นเจ้านาย ส่วนองครักษ์ก็ไม่มีมาดเป็นองครักษ์ ล้วนทำตัวเป็นเจ้านายเหมือนกันหมด จะต้องส่งคนเท่าไหร่มาดูแลเจ้านายมากมายขนาดนี้ แล้วค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะคำนวณอย่างไร
ถ้าหากต้องให้พวกเขาออกค่าใช้จ่ายกันเอง ให้ตายพวกเขาก็คงไม่ยอม
โล่หมันไปหาองครักษ์เงาดำ พูดขึ้นว่า “เจ้ารอคนของตระกูลเหวินมาหาไม่ใช่หรือ วันนี้ตระกูลเหวินได้ส่งคนมาแล้ว”
องครักษ์เงาดำอุ้มเจิ้นลี่ลุกขึ้นมาทันที ทันใดนั้นดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมา “จริงหรือ มีคนมาจริงหรือ”
“ใช่แล้ว ”โล่หมันเห็นเขาดีใจขนาดนี้ เห็นทีเรื่องแต่งงานคงได้คำตอบแล้ว จึงเอ่ยขึ้นว่า “เจ้าวางใจเถอะ เรื่องสินสอดพวกเราจะช่วยกันหามาให้เจ้า จะให้เจ้าได้แต่งภรรยาอย่างสมเกียรติแน่นอน”
เมื่อทุกคนได้ยินว่าองครักษ์เงาดำจะแต่งงาน ต่างก็กรูกันเข้ามา
องครักษ์เงาดำเลิกคิ้วขึ้น “รวบรวมสินสอดอะไรกัน ข้าจะแต่งงานอะไรกับใคร เหลวไหลทั้งเพ”
โล่หมันพูดว่า “แต่งงานกับคุณหนูแห่งตระกูลเหวินไงเล่า วันนี้ทางนั้นเขามาเจรจาเรื่องแต่งงานแล้ว เจ้าก็รออยู่ตลอดไม่ใช่หรือ”
“แต่งงานบ้าบออะไรกัน ข้าไม่เห็นด้วย ”ทันใดนั้นองครักษ์เงาดำก็เดือดขึ้นมา “มีชีวิตตกอยู่ในสภาพแบบนี้แล้ว ยังอยากจะแต่งงานอีกหรือ คิดว่าชีวิตนี้ยังลำบากไม่พอหรืออย่างไร ”
โล่หมันมองเขาอย่างประหลาดใจ “แต่เจ้าก็รอคุณหนูของตระกูลเหวินมาตลอดไม่ใช่หรือ เจ้าเอาแต่คิดถึงนาง ข้ากับพี่เหว่ยก็จะทำให้เจ้าสมปรารถนาไง เพราะว่า สินสอดพวกเราสามารถรวบรวมได้”
“ถึงพวกเราจะมีเงินเหลือเจ้าก็ควรจะเก็บเอาไว้ดีๆ จะแต่งงานทำไม”
“ไม่ถูกต้อง”องครักษ์ฟ้าผ่าพูดขึ้น จากนั้นก็ยื่นมือไปอุ้มเจิ้นลี่มา “ช่วงนี้เจ้าเอาแต่บ่นว่าคนของตระกูลเหวินจะมาหาหรือไม่ ข้าว่าเจ้าต้องคิดถึงนางแน่ๆ ”
“ใช่แล้ว ถ้าหากเจ้าไม่มีใจให้เขา ทำไมวันนั้นต้องส่งแม่นางเหวินกลับบ้านด้วย ยังคอยกำชับอยู่หน้าประตู บอกให้ระวังตัวเวลาออกนอกบ้าน”
องครักษ์เงาดำโมโหจนหายใจแรง“ใครจะไปรู้ว่าคนของ ตระกูลเหวินจะพึ่งไม่ได้ขนาดนี้ อย่างน้อยข้าก็ช่วยลูกสาวพวกเขาเอาไว้ และส่งกลับไปถึงจวนด้วยตนเอง แต่ก็ไม่มีใครออกมาขอบคุณสักคน และไม่ให้เงินรางวัลตอบแทนเลยสักแดง แม้แต่บุญคุณจากการช่วยชีวิตก็ไม่คิดจะตอบแทนเลยหรือ การช่วยคนต้องได้รับคำขอบคุณ นี่เป็นกฎตายตัว บ้านเขาขี้เหนียวมาก ไม่ขอบคุณก็แล้วไป ยังอยากจะให้คุณหนูแต่งงานออกเรือนมาให้พวกเราเลี้ยงดูอีก เห็นเราเป็นคนโง่หรือยังไง”