บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 2069 ช่างเป็นต้นกล้าแก่ที่รู้จักดูทิศทางลมเสียจริง
- Home
- บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์
- บทที่ 2069 ช่างเป็นต้นกล้าแก่ที่รู้จักดูทิศทางลมเสียจริง
ก่อนจะกลับไป อู๋ซ่างหวงยังเจาะจงถามเจ้าดำทั้งหลายว่าจะไปดูด้วยกันหรือไม่
องครักษ์เงาดำผู้เฒ่ากลอกตา “ว่างงานที่ไหน แต่ต่อให้ว่างงานก็ไม่ไป ดูชีวิตอนาถของตัวเองหนึ่งรอบ จะทรมานตัวเองอีกครั้งหรือ ตอนหนุ่มๆ มีความทรงจำเจ็บปวดเยอะแยะ ไม่ไปๆ”
คนอื่นๆ ก็คิดอย่างนี้เหมือนกัน หาเรื่องทรมานตัวเองไม่ใช่หรือ มีเวลานี้ก็ไม่สู้ไปแบกต้าเปาที่ท่าเรือจะดีกว่าใช่หรือไม่
ในเมื่อพวกเขาไม่ไป ก็ต้องไม่ฝืนใจอยู่แล้ว ทั้งหมดยกขบวนกลับสู่ยุคปัจจุบัน
ที่บ้านมารดา เจ้าห้าได้รับการต้อนรับมากที่สุดเสมอ อย่างน้อยท่านพ่อตาแม่ยายก็พูดต่อหน้าเขาอย่างนี้
แต่เจ้าห้าก็ไม่ได้ใสซื่อเชื่อขนาดนั้น ในใจพวกเขา อย่างไรก็ต้องชื่นชอบหลานๆ มากที่สุดอยู่แล้ว
อีกอย่าง ยังมีลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนอย่างเจ้าหยวนอีกคน พวกเขาน่าจะดีใจที่เจ้าหยวนกลับมา ส่วนตนนั้นก็แค่ได้รับการเอาใจไปด้วย
แต่ไม่เป็นไร เขาไม่แย่งความรักกับเจ้าหยวนหรอก เขาแทบอยากให้มีคนเยอะๆ รักเจ้าหยวน
สามใหญ่มีบ้านของตัวเอง พอถึงแล้วก็กลับไปนอนหลับพักหนึ่งก่อน
ศาสตราจารย์หยวนเป็นห่วงสุขภาพของพวกเขาอยู่บ้าง บอกว่าเมื่อก่อนพอมาจะตื่นเต้นมาก ไปกินดื่มทันที แต่ครั้งนี้ทำไมถึงอ่อนล้าขนาดนั้น
เขาบอกกับหยวนชิงหลิง “อาศัยครั้งนี้ที่มาตรวจร่างกายให้เขาเป็นเซตเลยแล้วกัน ไม่อย่างนั้นก็ไปนอนโรงพยาบาลตรวจเสียเลย วัยอย่างพวกเขานี้ ต้องตรวจสุขภาพปีละครั้งเป็นอย่างต่ำ และบางอย่างยังต้องตรวจสองครั้งด้วย”
หยวนชิงหลิงตอบ “กำลังคิดอย่างนี้อยู่พอดีเลยค่ะ แต่ช่วงนี้พวกเขาแข็งแรงขึ้นมากแล้ว เลิกเหล้าเลิกบุหรี่แล้วค่ะ”
“อันตรายจากเหล้าบุหรี่ ไม่ใช่ว่าเลิกแล้วก็หมดไป ความเสียหายต่อปอดกับตับบางอย่างก็เป็นแล้วเป็นเลย”
“รู้แล้วค่ะ เอาไว้พรุ่งนี้หลังพิธีเปิดกล้องแล้ว จะพาพวกเขาไปโรงพยาบาลนะคะ”
ศาสตราจารย์หยวนพูด “ฉันจะติดต่อไว้เอาก่อน วันมะรืนเธอก็เดินเรื่องเข้าโรงพยาบาลให้พวกเขาเลยแล้วกัน”
แม่หยวนชิงหลินเดินมาถาม “ต้องถามพวกเขาก่อนหรือเปล่า บางทีพวกเขาอาจจะอยากไปเที่ยวก็ได้”
หยวนชิงหลิงพูดอย่างเผด็จการ “ไม่ต้องถามค่ะ ถามไปก็ไม่รับปาก เรื่องนี้พวกเขาไม่มีอำนาจตัดสินใจ”
“อย่างนั้นพวกเขาก็ต้องโมโหแล้ว” แม่หยวนชิงหลินหลุดหัวเราะ พวกเขาที่เป็นเฒ่าทารก พอไม่พอใจก็ทำหน้าทำตา บ่นไม่หยุด
“พวกเขาต่อต้านได้ค่ะ แต่พวกเราไม่ยอมรับ” หยวนชิงหลิงร่ายรายการที่ต้องตรวจ ตรวจเลือดทุกรายการ หัวใจ ตับ ม้าม ปอด ไตก็ตรวจหนึ่งรอบ แล้วยังลงการส่องกล้องกระเพาะลำไส้ในรายการด้วย เมื่อก่อนกินเนื้อเยอะ ถ้าไม่ใช่ของปิ้งย่างก็เป็นพวกมันๆ เค็มๆ
หลังจากสามใหญ่ตื่นขึ้นมา ก็ได้ยินเรื่องที่วันมะรืนตนต้องไปตรวจที่โรงพยาบาล
ทั้งสามทำหน้าบูดบึ้งทันที เอะอะโวยวายว่ายังไม่ได้เที่ยวสักวัน ก็ต้องไปโรงพยาบาลสถานที่ไม่เป็นสิริมงคลนี้แล้ว
ศาสตราจารย์หยวนและภรรยากำลังจะปลุกปลอบยกหนึ่ง ชักนำความคิด แต่หยวนชิงหลิงกลับทำหน้าเข้ม “ไม่พอใจ? ไม่พอใจก็ไปฉีดอิมมูโนโกลบูลินสามวัน ถ้าไม่ได้ไม่พอใจก็ไม่ต้อง”
เสียงไม่พอใจเงียบกริบทันที มีอารมณ์โกรธอะไรก็กล้าบ่นอยู่แต่ในใจเท่านั้น หรือไม่ก็พูดกันเอง
รอจนหลังกินอาหารเย็นเสร็จ ทั้งสามกลับไปแล้วก็เริ่มตีไข่ใส่นมหยวนชิงหลิง
พอเซียวเหยากงนั่งลงก็เริ่มระบายความอัดอั้น “เจ้าหก เจ้ารู้สึกไหมว่าพอมาถึงที่นี่ ฮองเฮาก็อย่างกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ดุร้าย อย่างกับมีคนติดหนี้นางสามล้านห้าล้านอย่างนั้นแหละ ไม่รู้จักเคารพคนแก่รักเด็กเอาเสียเลย เมื่อก่อนเคารพพวกเราขนาดไหน ขนาดจะเรียกพวกเรากินยายังต้องปลุกปลอบยกหนึ่ง ตอนนี้สิ พูดนิดหน่อย นางก็ชักสีหน้าใส่แล้ว พวกเราแก่แต่ก็ใช่ว่าไร้ประโยชน์ ทำไมไม่ต่อต้านล่ะ เสี่ยวอู่ เจ้าว่ายังไง”
เสี่ยวอู่พยักหน้าอย่างเห็นพ้อง “ดุไปหน่อยจริงๆ เมื่อก่อนไม่ดุขนาดนี้ แต่นางก็หวังดี ข้ายังพอเข้าใจได้”
“เจ้ายังมาเสแสร้งอะไรอีก เมื่อกี้พอนางบอกว่าจะตรวจร่างกายพวกเรา หน้าเจ้าตึงกว่าใครๆ เจ้าเนี่ยนะ เป็นอย่างนี้ทั้งชาติ เอาใจทั้งสองฝ่าย เป็นคนดีแต่ให้ข้ากับเจ้าหกไปต่อต้าน ส่วนเจ้าก็นั่งรอรับผลสำเร็จ”
เสี่ยวอู่ยักไหล่ “ข้าก็แค่พูดความในใจเท่านั้น เจ้าไม่เชื่อก็ช่างเถอะ”
ในฐานะที่เป็นโสวฝู่คนก่อน เขารู้แจ้งกับการเข้าสังคมกับผู้อื่น คนฉลาดพูด คนโง่ลงมือ
เซียวเหยากงหึทีหนึ่ง “ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์”
เสี่ยวอู่พูดขึ้นด้วยความหมายลึกซึ้ง “ฮองเฮาปรารถนาดี หวังดีกับสุขภาพพวกเรา ดุไปหน่อยก็จริง แต่ถ้านางไม่ดุ พวกเจ้าก็ไม่เชื่อฟังนี่”
อู๋ซ่างหวงมองเขาทีหนึ่ง “พอที ขืนพูดต่อไปข้าได้อาเจียนแน่ ประจบประแจงเกินไปแล้ว”
เสี่ยวอู่ไม่ได้ต่อปาก หยิบโทรศัพท์มือถือที่เพิ่งชาร์จแบตเตอรี่เสร็จขึ้นมา ส่งข้อความถึงอู๋ซ่างหวง บ้านพวกเรามีกล้องวงจรปิด เจ้าคิดว่าตอนนี้ใครกำลังดูกล้องวงจรปิดอยู่เล่า
อู๋ซ่างหวงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมามองปราดหนึ่ง กวาดสายตามองห้อง เห็นดวงตาตรงมุมทางตะวันตกเฉียงเหนืออย่างที่คิด อย่างไรก็โสวฝู่ผู้คงแก่เรียน ความสามารถในการสังเกตเป็นเลิศ
“อื่ม มีความปรารถนาดีอยู่จริงๆ ช่างเถอะ” เขาเสริมอีกประโยค
เซียวเหยากงเดือดจัด “เจ้าก็คิดอย่างนี้หรือ เสแสร้งกระมัง ยังไงข้าก็ไม่ไป พวกเจ้าใครอยากไปก็ไปเองเถอะ วันมะรืนข้าจะจองตั๋วไปเที่ยว ดุยิ่ง ไม่ใช่อาศัยว่าที่นี่เป็นถิ่นของนางหรอกหรือ ข้าจะบอกให้ ข้าชอบไม้อ่อนไม่ชอบไม้แข็ง ถ้านางเอาใจข้าดีๆ ข้าฟังแล้ว…”
เซียวเหยากงบ่นไม่จบไม่สิ้น โสวฝู่กับอู๋ซ่างหวงมองเขา ก็ดี เข็มนั้นก็ให้เขารับไปเถอะ อย่างไรก็ต้องมีตัวตายตัวแทน
ขณะที่เซียวเหยากงกำลังด่าติดลมก็ได้ยินเสียงดุของผู้หญิงดังมาจากมุมตะวันตกเฉียงเหนือ “อยากไปเที่ยวที่ใดหรือ ท่านลองว่ามาสิ ข้าจะจองตั๋วให้ท่านเอง ข้าจะช่วยท่านจองตั๋วเดี๋ยวนี้”
เซียวเหยากงตกใจหน้าถอดสี รีบเงยหน้ามองรอบด้าน สุดท้ายจึงพบว่ามีกล้องวงจรปิดอยู่ตรงมุมทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ตาย…ล่ะหว่า!
เขาแยกเขี้ยว ยิ้มพูด “พวกเจ้าพูดได้ถูกต้อง เสี่ยวหยวนก็ปรารถนาดี หวังดีกับสุขภาพของพวกเรา ตรวจแล้วถ้าไม่มีปัญหา พวกเราจะได้เที่ยวให้สำราญใจหน่อย ถูกหรือไม่ เสี่ยวหยวนเนี่ย ไม่มีให้ติเลย กตัญญูจริงๆ”
“เอ๋…” เสี่ยวอู่กับอู๋ซ่างหวงกลอกตาขาวใส่เขาอย่างรังเกียจทีหนึ่ง เป็นต้นกล้าแก่ที่ที่รู้จักดูทิศทางลมเสียจริง
อีกทางหนึ่ง หยวนชิงหลิงจ้องคลิปวิดีโอ ได้ใจเป็นที่สุด นางก็ชอบดวงตาบริสุทธิ์ใสแววทอประกายที่ไม่เคยย้อมด้วยความรู้ของเซียวเหยากงนี่แหละ