บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 2091 พลเมืองประพฤติดีเคารพกฎหมายบ้านเมือง
- Home
- บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์
- บทที่ 2091 พลเมืองประพฤติดีเคารพกฎหมายบ้านเมือง
ภารกิจกู้ภัยในครั้งนี้ อยู่ในป่าลึกเมืองเสา นักผจญภัยหลายคนเดินทางเข้าไปในภูเขา เจอพายุฝนตกหนัก ทั้งหมดติดอยู่ในนั้น หนึ่งในนั้นขาดการติดต่อ
ผ่านมาเป็นเวลาสามวันแล้ว ตำรวจ เจ้าหน้าที่กู้ภัยก็กำลังออกตามหา แต่ที่นั่นเป็นภูเขาที่ยังไม่ได้รับการพัฒนามากนัก ภูเขาขนาดใหญ่และป่าไม้หนาทึบ มีงูพิษและแมลงมีพิษ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีถนน
เนื่องจากตอนนั้นฝนตกอย่างหนัก พวกเขาสนใจเพียงหาที่หลบฝน ไม่รู้ว่าเพื่อนของพวกเขาหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ จนเมื่อพวกเขาหาเจอถ้ำหลบฝน ค่อยพบว่าเธอหายไปแล้ว
เดิมหลายคนนี้ติดอยู่ในนั้น แต่เช้าวันนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยกับเจ้าหน้าที่นายทหารช่วยเหลือพวกเขาออกมาได้ ดังนั้นตอนนี้ขาดการติดต่ออีกเพียงผู้หญิงคนเดียว
ก่อนที่หัวหน้าทีมกู้ภัยคุณเฉินกับหยู่เหวินเห้าจะออกเดินทาง ได้ไปสอบถามพวกคนที่ถูกช่วยเหลือออกมาแล้ว สอบถามรายละเอียดสถานการณ์ให้ชัดเจน
แต่พวกเขาเหล่านี้เป็นนักผจญภัย พวกเขาคิดว่าทีมอาสาสมัครไม่มีความเพียบพร้อมในการค้นหาและช่วยเหลือ หากพวกเขาเข้าไปไม่เพียงช่วยไม่ได้ ยังอาจจะเอาชีวิตไปเสี่ยง ถึงตอนนั้นยังต้องแบ่งคนไปช่วยเหลือพวกเขาอีก
โดยเฉพาะ พวกเขาได้รู้ว่าคุณเฉินไปกันเพียงไม่กี่คน ยิ่งรู้สึกเป็นไปไม่ได้ที่จะประสบความสำเร็จ เพราะสถานที่ตรงนั้นกว้างใหญ่มาก และไหล่เขาสูงชันหลายแห่งหลังฝนตกหนัก ยิ่งเป็นอันตรายมากขึ้น สามถึงห้าคนนี้จะไปทำอะไรได้บ้าง?
ดังนั้นพวกเขาพูดกับคุณเฉินกับหยู่เหวินเห้าว่า “ผมรู้ว่าคนดังทางอินเทอร์เน็ตอย่างพวกคุณคิดอย่างไร อยากดังจนบ้าไปแล้ว เพื่อความโด่งดังจนไม่สนใจอะไร แต่คุณจะเอาชีวิตไปเสี่ยงไม่ได้ กลับไปเถอะ อย่ามาหาชื่อเสียงอะไรที่นี่เลย ไม่ว่าพวกคุณจะจริงใจหรือไม่ ล้วนเป็นเพียงการสร้างปัญหา”
คุณเฉินพูดอธิบายว่า “พวกเราไม่ได้มาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา พวกเรามีประสบการณ์ในการกู้ภัย พวกเราก็ไม่ใช่คนดัง พวกคุณเข้าใจผิดแล้ว”
“เอาล่ะ รีบกลับไปเถอะ” พวกเขาไม่เชื่อคำพูดของคุณเฉินเลย ไล่พวกเขาออกมาจากห้องผู้ป่วย พร้อมพูดขึ้นว่า “อีกอย่าง ถ้าอยากรู้ก็ไม่จำเป็นต้องมาถามพวกเรา เข้าไปดูในเว็บไซต์เองก็ได้”
เขาพูดเสร็จแล้วก็มองดูหยู่เหวินเห้าแวบหนึ่ง พร้อมพูดขึ้นว่า “ผมเคยเห็นวิดีโอที่คุณช่วยชีวิตคน กล้าหาญมาก แต่คนอื่นนั้นดูไม่ออก ผมดูออกว่าเป็นการแสดง คุณคือนักแสดงใช่ไหม?”
หยู่เหวินเห้าไม่ได้ท่องเว็บมานาน ไม่รู้ว่านี่เป็นการพูดประชดประชัน เขาเคยแสดงหนังจริง เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนี้ ก็พูดขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “คุณรู้ด้วยหรือ? แต่หนังของผมยังไม่เข้าฉายเลย ถึงตอนนั้นให้การสนับสนุนด้วยนะ”
เขารู้ว่าก่อนที่หนังที่เริ่มฉาย จำเป็นต้องทำการโฆษณา เรื่องนี้เขาช่วยอะไรไม่ได้ แต่การบอกปากต่อปากนั้นถือว่าสามารถทำได้ ถือว่าช่วยหยู่เหวินหวงดึงดูดผู้ชม
แต่เมื่อเขาพูดเสร็จ คนพวกนั้นต่างหัวเราะขึ้นมา ยังพูดขึ้นมาอย่างแปลกๆว่า “สนับสนุน สนับสนุนแน่นอน ไสหัวไปเถอะ คนดัง”
หยู่เหวินเห้าอึ้ง
คุณเฉินรีบดึงพาเขาออกไป ในใจก็รู้สึกหงุดหงิด เขาเป็นนักแสดงจริงๆหรือ? วันนั้นที่ช่วยชีวิตคนเป็นเพียงฉากการแสดง? เรื่องใหญ่ขนาดนี้คงไม่ใช่ฉากการแสดงมั้ง?
แต่ก็พูดยาก ตอนนี้คนอะไรก็มีไปหมด
หลังจากหยู่เหวินเห้าถูกดึงพาออกมา หวนคิดถึงภาพรอยยิ้มพวกนั้น ก็รู้ว่าตนเองถูกหัวเราะเย้ย
เขาเริ่มเคยฉินแล้ว หลังจากมาที่นี่ เพราะวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน เขาตกที่นั่งลำบากอยู่หลายครั้ง
เริ่มแรกเขาก็โกรธ รู้สึกว่าตนเองถูกท้าทายและหยามศักดิ์ศรี
แต่ไม่ช้าก็ค่อยๆคิดได้ อย่าคิดว่าตนเองเป็นฮ่องเต้ อย่าเห็นศักดิ์ศรีของตนเองสำคัญมากเกินไป อย่างไรก็ตามเขาไม่ต้องการพิสูจน์ให้คนเหล่านั้นเห็น
เขากำลังใช้คุณค่าของชีวิตนอกเหนือจากการเป็นฮ่องเต้ เขาเพียงต้องการให้เจ้าหยวนเห็นด้วย และเจ้าหยวนก็เห็นด้วยกับเขามาตลอด ดังนั้นจึงไม่ต้องสนใจ
เหมือนอย่างคำพูดของเสด็จปู่ใหญ่อ๋องชินเฟิงอัน ขอเพียงตนเองหน้าด้าน สภาพจิตใจต้องเข้มแข็ง ยืนหยัดต่อสู้อย่างไม่ย่อถอย
โชคดีที่วันนี้สวีอีกับมู่หรูไม่ตามมาด้วย ไม่อย่างนั้น พวกเขาลงมือทำร้ายคนแน่
พวกเขาสามารถทนต่อการดูถูกตนเองได้ แต่รับไม่ได้หากเขาถูกดูหมิ่น อะไรนิดหน่อยก็ชอบร้องพูดว่า ปกป้องพระองค์ ไม่รู้จักเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามจริงๆ
เมื่อออกมาแล้ว คุณเฉินถามเขาว่า “วันนั้นที่ช่วยคนไม่ใช่ฉากการแสดงใช่ไหม?”
“ไม่ใช่” หยู่เหวินเห้าไม่ได้พูดอธิบายอะไรมาก เพียงพูดขึ้นว่า “คุณไปรวบรวมข้อมูลรายละเอียดทั้งหมด เราออกเดินทางช้าหน่อย ขับรถไปถึงเมืองเสาต้องใช้เวลาสี่ชั่วโมง ถึงแล้วก็เข้าไปในหุบเขาเลย”
คุณเฉินพูดขึ้นอย่างไม่เห็นด้วยว่า “ตามหากลางคืน? อันตรายเกินไป ไม่ได้”
หยู่เหวินเห้าไม่พูดอธิบายอะไรมาก เพียงพูดขึ้นว่า “งั้นก็ได้ พักผ่อนหนึ่งคืนแล้วค่อยออกเดินทาง”
แต่เขาตั้งใจที่จะเข้าไปในภูเขาในเวลากลางคืน พร้อมกับสวีอี ปล่อยให้พวกเขารออยู่ในโรงเตี๊ยม
แต่ต้องให้คุณเฉินไปเตรียมข้อมูลตำแหน่งที่ตั้ง วาดออกมาเป็นภาพอย่างง่าย
เขายังฉลาด ตอนที่มาได้เอาไข่มุกราตรีมาด้วยหนึ่งลูก รู้ว่าจะต้องได้ใช้แน่
ครั้งนี้หยู่เหวินเห้าวางแผนที่จะพาสวีอีไปด้วย อีกหนึ่งเดือน สวีอีก็จะกลับบ้านเกิดแล้ว พาเขาออกมาเที่ยวเล่น ไม่อย่างนั้นเชื้อราบนตัวเขาคงจะมีขนขึ้นแล้ว
แต่เมื่อเขากลับบ้านมาเก็บของ คุณเฉินกลับโทรศัพท์มาบอกว่า จะไม่เดินทางไปพร้อมพวกเขา พวกเขาหาคนได้แล้ว จะออกเดินทางไปก่อน
อีกอย่าง คุณเฉินบอกว่าจากที่ได้ปรึกษาพวกทีมงาน ทีมกู้ภัยไม่ต้อนรับเขา ดังนั้นจึงไม่ต้องเงินทุนกับเครื่องมืออุปกรณ์ของเขา
คุณเฉินพูดเสร็จก็วางสาย รอเมื่อหยู่เหวินเห้าอยากถามถึงสาเหตุให้ชัดเจนแล้วโทรกลับไป ก็โทรไม่ติดแล้ว
หยู่เหวินหวงอยู่บ้านพอดี เขาใช้โทรศัพท์ตนเองโทรไป กลับโทรติด
แสดงว่า เจ้าห้าถูกคุณเฉินบล็อคเบอร์โทรศัพท์แล้ว
เมื่อรู้แบบนี้ หยู่เหวินเห้านั่งเกาหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าถูกบล็อค? ข้ายิ้มแย้มใจดีกับคนอื่น กลับถูกบล็อค?”
มู่หรูกงกงยกหุ่นยนต์กวาดพื้นขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นอย่างโมโหว่า “บังอาจนัก บ่าวไปจัดการมัน”
“มู่หรู ถึงแม้นั่นจะกวาดพื้นได้ แต่ก็ไม่ใช่ไม้กวาด วางลง” หยู่เหวินเห้าค่อยๆลุกขึ้นมา แล้วก็รีบพูดสั่งหยู่เหวินหวงว่า “เข้าเว็บหาข้อมูล พร้อมช่วยข้าหาคนขับ ใบขับขี่ของข้ายังไม่ครบปี ขึ้นทางด่วนไม่ได้ ข้าเป็น พลเมืองประพฤติดีเคารพกฎหมายบ้านเมือง”